Skip to main content

สวนของนักเขียน 5 : ผู้ชายคนนั้นกับพญาไม้

คอลัมน์/ชุมชน

วันนี้มีการทำพิธีสืบชะตา นักเขียนใหญ่เพราะท่านเจ็บป่วย หลังพิธีการอันยิ่งใหญ่ เชิญเทพยดา ฟ้าดินมาร่วมรับรู้ถึงความรักความศรัทธาที่เพื่อนผองน้องพี่มีต่อนักเขียนใหญ่ ให้เทวดา ให้นางฟ้า เจ้าป่า เจ้าเขาคุ้มครองท่าน


 


พ่อครูมาทำพิธีตั้งแต่เช้า มีทั้งแห่ ทั้งร่ายรำ ตามแบบฉบับเมืองเหนือแท้ ๆ แม้ว่าท่านจะไม่ใช่คนเมือง แต่มาอยู่เมืองเหนือนาน และเป็นธรรมดาเมื่อมาอยู่บ้านเขาก็ต้องเคารพในวัฒนธรรมของเขา และเหนืออื่นใดอีกก็เป็นความปรารถนาดีโดยแท้ของคนที่รักและเคารพท่าน


 


เพื่อนผองน้องพี่เดินทางมาบ้านนักเขียนใหญ่หลายคน ทั้งมาเพื่อร่วมงานพิธีกรรมและบางคนก็มาอย่างเป็นธรรมดา พวกเขาจะนัดหมายกันเดินทางมาเยี่ยมเยียนท่าน บ้างก็ถือโอกาสเดินทางมาพักผ่อน เพราะที่แห่งนี้เหมาะสำหรับหยุดพักให้สบายใจ หยุดอ่านหนังสือ มีนักศึกษาบางคนมาขอพักเพื่อทำงานศิลปะ เพื่อเก็บข้อมูลทำวิทยานิพนธ์ 


 


หนุ่มใหญ่มาดเข้ม ในชุดยีนส์ ก็ตรงเข้ามามอบต้นไม้ให้นักเขียนใหญ่         


"พญาไม้ต้องคู่กับพระยาอินทรี" เขาพูดให้คล้องจองหรือพูดให้ฟังไม่ธรรมดามากกว่า


จริงจัง


"พญาไม้" หลายคนทวนคำ บางคนยิ้ม บางคนหัวเราะเบา ๆ


 


"ท่านเป็นพญาอินทรีย์ผมเลยเอาพญาไม้มาให้" หนุ่มใหญ่เจ้าของต้นไม้พูดย้ำอีกครั้ง แบบพูดให้เท่


"พญาไม้เชียวเหรอ" มีเสียงหัวเราะ และหลายคนก็เริ่มหัวเราะ คล้าย ๆ กับว่าไม่จริงหรือไม่ก็ถูกหลอก  ร้านขายต้นไม้คงจะหลอกขายเอานะซิ


 


"ไปเอามาจากไหน" เป็นคำถามของใครคนหนึ่งในกลุ่มที่นั่งล้อมวงกันอยู่


ฉันสนใจคำถามนี้  แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ตอบ หรือไม่ทันตอบ วงสนทนาชักนำไปสู่ประเด็นอื่น เพราะทุกคนจะมีเรื่องพูดคุยกันมากมายเหลือเกิน


 


หญิงสาวผู้มีอาชีพเป็นมัคคุเทศก์ป่า  เธอขึ้นไปเยี่ยมบ้านนักเขียนด้วยในเวลานั้น เธอพูดขึ้นว่า พญาไม้เหรอ อย่างนี้น่าจะเจอกับ....(เธอออกชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่ง) แต่ฉันจำไม่ได้มันคงเป็นพันธุ์ไม้พิเศษหรือพันธุ์ไม้หายากเหมือน ๆ กับพญาไม้


 


สาวน้อยคนหนึ่งหันมายิ้มกับฉันพร้อมกับพูดต่อด้วยเสียงหัวเราะว่า "ถ้าเอามาให้ท่านจริง ๆ อาจจะถูกดุว่า ไปเอามาทำไม ให้มันอยู่ที่เดิมนั้นแหละดีแล้ว เอากลับไปปลูกไว้ที่เดิม"


ฉันพยักหน้าให้เธอ


"ใช่ ...คงตลกน่าดู เมื่อถึงตอนที่เอาขึ้นไปปลูกที่เดิมและนักอนุรักษ์มาพบเข้า"


"นักอนุรักษ์ไม่เท่าไหร่ อย่างมากก็โดนด่าว่า และต้องทนฟังพวกนั้นบรรยายเรื่องการอนุรักษ์จนเหนื่อยตาย แต่ถ้าเจอเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานโดนจับปรับ ตอนเอาลงไปไม่เป็นไรแต่มาโดนตอนเอาไปปลูกคืน"


เราหัวเราะกันเบา ๆ แต่ยังมีคนใกล้ ๆ หันว่ามอง ทำหน้างง ๆ คล้ายมีคำถามว่า ขำอะไรกันหนักหนา


 


อย่างที่บอกกล่าวมาแล้วว่า เมื่อใคร ๆ ก็รู้ว่าท่านเป็นคนชอบปลูกต้นไม้เพื่อตกแต่งป่า จึงมีคนเอาต้นไม้มาฝากท่าน แต่การจะเอาต้นไม้มานั้นจะต้องพิจารณาหลายอย่างเหมือนกัน


 


เมื่อก่อนฉันเคยถกเถียงกับเพื่อน เรื่องนักกิจกรรมคนหนึ่งในภาคใต้ ใครก็ว่าเขาเป็นคนรักต้นไม้มาก รักป่าเขา และเขาก็ชวนผู้คนขึ้นไปเที่ยวในป่าเขา  ที่บ้านใต้นครศรีธรรมราช มีเขาหลวงพื้นที่ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์


 


นักกิจกรรมท่านนี้นำคนขึ้นไปที่เขาหลวงบ่อย ๆ  และอยู่มาวันหนึ่งเขาก็เปิดร้านขายต้นไม้ พร้อมกับมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า  เขาไปเอาต้นไม้ลงมาจากเขาหลวง พันธุ์ไม้หายากล้วนอยู่ที่ร้านของเขา


 


บางคนว่า เขาไปเอาพันธุ์ไม้มาเพาะก็น่าจะเป็นการดี เป็นการขยายพันธุ์


บางคนว่า น่าจะเป็นการดีหากว่าเขารู้ว่าควรจะเอาลงมาเท่าไหร่และเอาส่วนไหนมา ถ้าไม่รู้หรือรู้แต่เกิดการผิดพลาดพันธุ์ไม้หายากก็อาจจะหมดไป เช่นแยกหน่อแยกเหง้ามาแต่แยกไม่ถูกต้นเดิมตาย ส่วนต้นที่เอามาเพาะพันธุ์ก็ตายด้วย และหากเมื่อขายดีขึ้นความโลภเข้ามา ต้นไม้บางต้นก็ควรอยู่ในที่ของเขา และที่สำคัญมีกฎห้ามไม่ให้เอาต้นไม้ลงมาแล้วทำไมเขาเอาลงมาได้ ถ้าเป็นเช่นนี้เพื่อให้โปร่งใสก็ต้องทำให้เป็นเรื่องเป็นราวว่าได้รับสิทธิพิเศษในฐานะของผู้เชี่ยวชาญพันธุ์ไม้หายาก ดังนั้นท่านได้สิทธิ์ในการเอามาปลูกขยายพันธุ์เพื่อขายและที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผู้ได้ชื่อว่าเป็นนักกิจกรรมหรือผู้ทำงานสร้างสรรค์ จะต้องตระหนักถึงเรื่องหนึ่ง นั้นคือศรัทธาของผู้ศรัทธา


 


รู้ไหม...เมื่อใครคนหนึ่งสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้นในใจคนหนึ่งได้  เรื่องดีงามจะเกิดขึ้นมากมาย แต่เมื่อพลังศรัทธานั้นถูกลบเลือนไปกำลังใจก็จะหมดไป เราจะได้ยินได้ฟังอยู่เสมอถึงเรื่องราวทำนองนี้ บางคนท้อถอยถึงขั้นเยาะเย้ย "ก็แค่นั้นแหละ...พอมีเงินมีชื่อเสียงขึ้นมา  หรือก็เท่านั้นแหละพอได้เป็นรัฐมนตรี ที่เคยต่อสู้ร่วมเป็นร่วมตายเคยเข้าป่าครั้ง 14 ตุลา..  แล้วเป็นอย่างไรล่ะ… เขาคงรู้แล้วว่า อย่างไหนสบายกว่า "


 


ฉันไม่รู้ว่านักเขียนนักตกแต่งป่าคิดอย่างไร เขานั่งนิ่งไปชั่วครู่หลังจากได้พญาไม้


เขาถามขึ้นเบา ๆ ว่า เป็นพันธุ์ไม้อะไรกันแน่ และมันเติบโตอย่างไร ถามเพื่อจะได้ดูว่าควรปลูกไว้ตรงไหน เพื่อให้เหมาะสมกับการเติบโต


ฉันไม่ได้รู้จักกับหนุ่มใหญ่ที่สวมยีนวันนั้นรู้แต่ว่าเป็นพวกนักกิจกรรมเก่า ถ้ารู้จักก็จะคุยเรื่องพญาไม้กับเขาหน่อยเหมือนกัน


 


ใครก็รู้อยู่ว่าฉันเป็นประเภท ถ้าอยากรู้ต้องสนใจ ถ้าสงสัยต้องถาม พี่ชายของฉันเคยว่าฉันเป็นพวกปากหมาตาผี ฉันว่าเป็นเรื่องดีมากเลย หมาเป็นสัตว์ที่น่ารักมาก ปากของมันเห่าแต่ที่ควร เช่นเมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามาอย่างไม่น่าไว้วางใจ ส่วนผียิ่งน่ารักใหญ่เช่นผีน้อยน่ารัก ตาโตอย่างนี้เป็นต้น


 


เรื่องถูกหาว่าปากหมาหรือเกี่ยวกับหมาไม่น่าโกรธเพราะว่าเป็นธรรมดา ฉันถือว่าหมาเป็นสัตว์ชั้นสูง มันรักเจ้าของเหลือเกิน ไม่ว่าเจ้าของมันจะเป็นใคร ขอเพียงเป็นเจ้าของมันเถอะ ชั้นวรรณะไม่เกี่ยง นี่เป็นข้อดีของมันจริง ๆ ครั้งหนึ่งฉันไปพบหมาขนเกรียนเป็นขี้เรื้อน ตัวผอมเล็กอยู่ข้างถนน หยุดมองมันทันใดนั้นเด็กน้อยคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาหามัน มันกระโจนไปหาเขาพร้อมกับเห่าไล่ฉัน เป็นภาพน่ารักเหลือเกินระหว่างเด็กมอมแมมกับหมาขี้เรื้อนตัวนั้น


 


เมื่อครั้งทำงานเป็นนักข่าว เขาก็ว่า เราเป็นหมา เช่นเหมือนหมาเฝ้าบ้านบ้าง เหมือนหมาล่าเนื้อบ้าง 


ฉันไม่โกรธหรอกและยินดีมาก


 


หนุ่มใหญ่เจ้าของพญาไม้กลับไปแล้ว ฉันกำลังคิดว่า บรรดาผู้ที่รู้ว่าท่านชอบต้นไม้และนำต้นไม้มาให้ท่านแล้ว  พวกเขาก็คงจะปลูกและเขียนถึง เพราะพวกเขาที่เดินทางมาล้วนเป็นนักคิด นักเขียนและนักกิจกรรม นักดนตรี นักร้อง ฉันเชื่อในพลังของคนเหล่านี้ไม่ว่าเขาจะพูด จะเขียนหรือขับกล่อมบรรเลงเพลง ย่อมเป็นพลังที่นำไปสู่การสร้างสรรค์ใหม่ ๆ จากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่ง --ฉันเชื่อเช่นนั้น


 


และนี่แหละเรื่องที่ยิ่งใหญ่ของนักเขียน นักตกแต่งป่า ที่ยิ่งใหญ่และได้มากกว่าการปลูกป่าตกแต่งป่า คือปลูกและตกแต่งลงไปในใจของคนที่อยู่ใกล้ ๆ ผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมเยียนท่าน