ทำไมกระบวนการยุติธรรมจึงแตกต่างจากกรรมการตัดสินกีฬา?: คำถามจากลุงโง่
คอลัมน์/ชุมชน
ตลอดชีวิตการศึกษาในระบบมหาวิทยาลัยของผม ผมได้เรียนเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายเพียงประมาณ 2 ชั่วโมงในวิชาพฤติกรรมศาสตร์เท่านั้น สำหรับเนื้อหาที่เรียนนั้น ผมจำไม่ได้แล้วว่าเกี่ยวกับอะไรบ้าง จำได้แต่ว่าอาจารย์ที่สอนผมเป็นอาจารย์พิเศษที่จบปริญญาเอกทางนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คนแรกของประเทศไทย
ไม่ทราบว่าผมคิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า คือผมเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านก็คงเป็นคล้ายๆ กับผม คือมักจะจำในสิ่งที่ประทับใจ (ในที่นี้คือบางสิ่งบางอย่างในตัวอาจารย์) มากกว่าหัวใจสำคัญของเนื้อหาที่อาจารย์สอน
เหตุผลที่ผมเขียนเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่ผมไม่มีความรู้เอาเลย ก็เพราะความขี้สงสัยของผมเอง ดังนั้น ถ้าผมถามอะไรไม่เข้าท่า ก็ขอความกรุณาจากท่านผู้อ่านกรุณาชี้แนะและเมตตาผมด้วยครับ
โจทย์ของผมไม่ซับซ้อน แต่อาจจะยาวสักหน่อย เพราะเป็นเรื่องของการเปรียบเทียบ คือ ในการแข่งขันกีฬา เช่น ฟุตบอล เมื่อกรรมการผู้ตัดสินเห็นว่านักกีฬาคนใดเล่นผิดกติกาก็สามารถ "เป่านกหวีด" ตัดสินลงโทษผู้นั้นได้เลย โดยไม่ต้องรอให้ใครมาฟ้อง
ขอเน้นคำว่า โดยไม่ต้องรอให้ใครมาฟ้อง
จริงอยู่ แม้บางครั้งคำตัดสินของกรรมการก็ค้านแย้งกับความเป็นจริง แต่ความผิดพลาดในกระบวนการยุติธรรมก็มีเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่มีเอาเสียเลย ใช่ไหมครับ!
แต่ในกระบวนการยุติธรรม หาเป็นเช่นนั้นไม่ แต่ต้องเริ่มต้นด้วยมีคนมาร้องทุกข์กล่าวโทษ จากนั้นก็เป็นไปตามกระบวนการที่เราทราบกันดี คือผ่านตำรวจ พนักงานสอบสวน อัยการ และสิ้นสุดที่ศาล
ผมไม่ได้สงสัยในกระบวนการนับตั้งแต่เอาตำรวจมาจับ เอาตำรวจมาสอบสวน เรื่อยไปจนถึงศาลยุติธรรม
แต่สงสัยว่า ทำไมจึงต้องรอให้มีคนมาฟ้อง
ในบางคดี คนทั้งประเทศก็รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้พิพากษา ตุลาการซึ่งเป็นผู้ที่รู้ทั้งข้อกฎหมายและความผิดชอบชั่วดีอย่างลึกซึ้งในเหตุการณ์นั้นๆอย่างดี แต่ทำไมท่านจึงนั่งอยู่เฉยๆ ต้องรอให้คนมาฟ้องเสียก่อนแล้วค่อยลุกขึ้นมา "พิทักษ์ความเป็นธรรม" ทั้งๆ ที่ความไม่เป็นธรรมได้เกิดขึ้นแล้ว
ผมขอยกตัวอย่างสัก 2-3 ตัวอย่างเพื่อให้ข้อสงสัยของผมชัดเจนขึ้น
ตัวอย่างแรก กรณีการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เรื่องนี้เป็นนโยบายสาธารณะเกี่ยวข้องกับผลได้เสียของคนทั้งประเทศ คนจำนวนมาก นักวิชาการ องค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องต่างก็ทราบกันดีว่า กรณีนี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม
แต่กระบวนการยุติธรรมทั้งขบวนก็ไม่ทำอะไรเลย จนกว่าได้มีคนมาฟ้อง แล้วศาลปกครองก็ตัดสินว่า รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาโดยไม่ชอบในเหตุผล
ผมขอย้ำอีกครั้งว่า ทำไมท่านไม่ลุกขึ้นมา "เป่านกหวีด" ลงโทษผู้กระทำผิดเสียเลยละครับ จะรออะไรอยู่
นี่ดีนะที่มีคนรู้กฎหมายอยู่บ้าง จึงลุกขึ้นมาฟ้อง ถ้าเขาไม่เห็นประเด็นบางแง่มุมของกฎหมายและไม่ฟ้องละ ประเทศชาติก็เสียหายไปแล้วนะสิ
ตัวอย่างที่ 2 กรณีคณะกรรมการเลือกตั้ง (-กกต.ชุดที่เพิ่งถูกศาลอาญาลงโทษไปหยกๆ) ได้ลงมติขึ้นเงินเดือนให้ตนเอง เช่นเดียวกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบแห่งชาติ (ปปช.) แต่ ปปช. ถูกลงโทษโดยศาลเพราะมีคนมาฟ้อง ในขณะที่ กกต. ไม่โดนลงโทษ เพราะไม่มีใครมาฟ้อง (ถ้าข้อมูลผมผิดพลาดก็ต้องขออภัย)
นี้ถ้าศาลลุกขึ้นมา "เป่านกหวีด" ในทันทีเหมือนผู้ตัดสินฟุตบอล บ้านเมืองเราก็คงไม่เสียหายถึงขนาดนี้
ตัวอย่างที่ 3 กรณี เป็นเรื่องของ กกต. ชุดนี้แหละครับ ความจริงแล้ว กกต. ชุดนี้มี 4 คน ตอนแรกก็ถูกฟ้องทั้ง 4 คน แต่เมื่อคนหนึ่งได้ชิงลาออกไปเสียก่อน โจทย์ก็ขอถอนฟ้อง คงเหลือผู้ถูกฟ้องเพียง 3 คน แล้วศาลก็ตัดสินลงโทษไปเพียง 3 คน
คำถามซื่อๆ ของผมก็คือว่า แล้วคนที่ลาออกไปแล้วทั้งๆ ที่ได้ประกอบความผิดเสร็จสิ้นแล้ว ทำไมไม่ถูกลงโทษ ที่ไม่ถูกลงโทษเพียงเพราะไม่มีใครฟ้องเท่านั้นหรือ?
แม้ กกต. คนที่ 4 (ผมไม่อยากเอ่ยชื่อเพราะไม่จำเป็น) ได้ชิงลาออกไปด้วยความสำนึกบางอย่าง แต่ก็ควรจะได้รับโทษบ้างในระดับที่หนักเบาต่างกัน
ถ้าทุกอย่างจบลงเพียงแค่นี้ คือปล่อยให้คนผิดลอยนวลแล้วสังคมจะพัฒนาไปได้อย่างไร
ผมเคยมีโอกาสถามอาจารย์ที่สอนวิชากฎหมายมหาชนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ 2 ท่าน ว่า ทำไมต้องรอให้มาฟ้องก่อน
ทั้งสองท่านก็ตอบเหมือนกัน โดยอ้างถึงระบบแต่ละระบบของแต่ละประเทศ ผมเองก็ฟังท่านไม่ค่อยเข้าใจ ไม่ใช่เพราะ "น้ำชาล้นถ้วย" แต่เพราะอย่างที่เรียนตั้งแต่ต้นว่า ผมไม่มีความรู้เลย
ผมถามต่อเพื่อให้ผมชัดเจนขึ้นว่า "มีประเทศใดบ้างที่อนุญาตให้ศาลตัดสินได้โดยไม่ต้องมีคนมาฟ้อง"
อาจารย์ทั้งสองท่านก็บอกว่าไม่มี
ผมถามถึงศาลไคฟงที่มีท่านเปาบุ้นจิ้นเป็นผู้พิพากษา หลังจากย้อนนึกไปสักพักทุกคนรวมทั้งผมเองก็บอกว่า ต้องมีคนมาฟ้องร้องเหมือนกัน
อาจารย์สอนกฎหมายอีกท่านหนึ่งกล่าวเสริมว่า "ถ้าเราปล่อยให้มีระบบตัดสินโดยไม่ต้องฟ้อง ถ้าเกิดไปเจอผู้พิพากษาที่ไม่ดีก็จะกลั่นแกล้งชาวบ้านได้"
ผมไม่ยอมลดละ จึงแย้งต่อไปว่า ก็ต้องสร้างระบบมาตรวจสอบซิครับ
น่าเสียดายที่การสนทนาของผมกับอาจารย์สอนกฎหมายต้องมาหยุดลงที่ถึงเวลาขึ้นเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม ผมยังสงสัยอยู่เหมือนเดิม ต้องขอความกรุณาจากทุกท่านช่วยกันแสดงความคิดเห็น พร้อมเหตุผล
ไหนๆ ก็มีการกล่าวถึง "ตุลาการภิวัฒน์" กันมากในขณะนี้
ลองคำถามโง่ของผมไปพิจารณาดูบ้างครับ ผมจะขอบพระคุณมากครับ