Skip to main content

สวนของนักเขียน 7 : นมสวรรค์

คอลัมน์/ชุมชน

ที่สวนแห่งนี้มีมุมหลายมุมที่เป็นมุมสบาย แล้วแต่คนชอบ บางคนชอบทางเดินที่ทอดยาวลงมาเป็นขั้นบันได ปูด้วยอิฐมอญ เป็นทางเดินแห่งสติ ต้องใช้ความระมัดระวังเล็กน้อย ใครนอนค้างที่นี่  ยามเช้าเดินขึ้นลงสองเที่ยวก็เป็นการออกกำลังกายแล้ว เดินลงมาจะพบศาลาหลังแรกบางคนชอบศาลาแห่งนี้หยุดนั่ง


 


แต่ฉันชอบไปยืนที่หน้าห้องน้ำ หน้าห้องน้ำมีระเบียงเล็ก ๆ เป็นมุมที่มองได้กว้าง และสบายสายตา จากห้องน้ำทางที่ทอดยาวไปถึงตัวบ้าน เต็มไปด้วยไม้หอมออกดอกหอมชื่นใจ ไม่มีใครเก็บดอกไม้ที่นี่ นอกจากมันหล่นลงมา แต่ถ้าใครอยากได้พันธุ์ไปปลูก ภรรยาของท่านก็จะแบ่งเมล็ดพันธุ์หรือหน่อให้ ฉันไม่ค่อยพลาด หลังจากดูแล้วว่ามันสามารถจะขยายพันธุ์ได้


 


วันนี้ฉันสะดุดตากับนมสวรรค์                     


 



"นมสวรรค์" ภาพจาก
www.noknoi.com/magazine/article.php?t=1069


 


นมสวรรค์ ไม้พุ่มออกดอกสีแดงอมส้มอยู่หน้าเรือน นมสวรรค์คงจะมีอยู่นานแต่ฉันไม่เห็น เพราะสะดุดตา จนถึงวันที่มันออกดอกแสดงตัวตนออกมา เหมือนเรียกให้ดูว่า "ฉันอยู่ที่นี่ เห็นฉันไหม"


 


โอ…เห็นแล้ว และดีใจเหลือเกินที่ได้พบ ฉันคิดถึง


 


ที่บ้านใต้ของฉันเรียกสั้นๆ ว่านมหวัน  นานมากแล้วที่ฉันไม่เห็นนมหวัน นานเท่าที่ไม่ได้กลับบ้าน หรือบางครั้งได้กลับก็ไม่ได้ดู มันเป็นไม้ที่ขึ้นอยู่ในสวนมะพร้าวหน้าบ้าน จำความได้ก็เห็นมันแล้ว แม้ว่าดอกของมันจะงามกระจ่าง แต่ไม่มีใครนิยมปลูกเหมือนพวกไม้ดอกอื่น ๆ เพราะเอาไปประดับประดาใส่แจกันไม่เหมาะ เป็นของขวัญก็คงไม่มีใครทำกัน เพิ่งจะเห็นที่สวนทูนอินนี่แหละ ที่ปลูกนมหวันด้วย  ฉันยินดีจริง ๆ ที่ได้เห็นนมสวรรค์


 


ที่บ้านของฉันเป็นไม้ที่กินได้  เก็บใบเอามาหั่นฝอยแล้วแกงคั่วหอยหรือปลาดุกก็ได้ แบบแกงคั่วใส่กะทิ พอน้ำขลุกขลิก จะแกงควบคู่กับใบชะพลู ใบยี่หร่าก็ได้


 


ใบนมหวันก็กินได้ แต่ฉันไม่กล้าบอกใคร ไม่แน่ใจว่าที่อื่นกินกันหรือเปล่า เพราะนอกจากที่บ้านแล้ว ไม่เคยไปกินที่อื่นเลย และไม่เคยรู้ด้วยว่ามีคุณประโยชน์อย่างไร ยังเคยคิดว่าแม่คงอยากได้แกงเยอะ ๆ จึงเอาใบอะไรต่ออะไรที่กินได้ใส่ลงไป


 


ครอบครัวอื่นเขาอาจจะไม่กินผักกินหญ้ากันมากขนาดนี้  ครอบครัวนี้ต้องกินผักกินหญ้ากินปลาเพราะเราเป็นครอบครัวใหญ่จริง ๆ  พ่อแม่มีลูก 10 คน คิดไม่ออกว่าแม่มีลูกได้อย่างไร 10 คน ออกมาหัวปีท้ายปี ทุกคนแข็งแรงสมบูรณ์เติบโตขึ้นมาตามสมควร พ่อเลี้ยงลูกด้วยพืชผักที่ปลูกขึ้นเอง และผักของพ่อก็เหลือขายด้วย ผักที่ไร่พ่อสดสวยขายราคาถูก ขายเฉพาะใกล้ ๆ บ้านมีสามวันต่อหนึ่งสัปดาห์ ตลาดวันอาทิตย์ ตลาดวันเสาร์ และตลาดวันพุธ ไม่ได้มีกันทุกวันเหมือนเดี๋ยวนี้  แม่ค้าก็คือคนปลูก ราคาถูกเพราะพ่อลงแต่แรงงานเท่านั้น น้ำก็เอาจากลำคลอง ใส่ปุ๋ยบ้าง ซึ่งก็มาจากขี้วัว


 


เรามีผัก มีมะพร้าว และมีข้าวเป็นหลัก มีกะปิจากญาติ ๆ ชาวเลเอามาให้พอกินทุกปี เช่นเดียวกับที่เขามาเอามะพร้าวไปกิน มะพร้าวเหลือคัดลูกไม่ได้ขนาดที่ส่งขายเหลือมีมากมายใครจะมาเอาไปทำแกงหรือทำน้ำมะพร้าวไว้ใช้ก็ได้  คนที่ไม่มีสวนมาเอาไปได้ พ่อกองเอาไว้หน้าบ้าน


 


แม่มีฝีมือในการทำอาหารได้อร่อยมาก แค่มีผักที่พ่อปลูกเป็นหลัก บ่อยครั้งที่มีแกงโดยที่ไม่มีเนื้ออะไรเลย บางครั้งก็มีปลาย่างใส่ลงไปให้น้ำแกงข้น ๆ พอให้อุ่นใจว่าไม่ได้มีแต่ผักอย่างเดียว


 


บ้านของเราใช้จ่ายเงินไม่มาก หรือเรียกว่าแทบจะไม่จ่ายเงินเลยในหนึ่งวัน หรือไม่ค่อยจะมีเงินจ่าย  แต่มั่นคงมากเพราะมีอาหารกินทุกวัน มีผัก มีข้าว มีปลา มีไข่ มีไก่ที่เลี้ยงเอง เลี้ยงแบบปล่อยเดินไปเดินมา ไม่เคยมีโรคไข้หวัดนก  ถ้าอยากได้เงินพิเศษไปซื้อของที่นอกเหนือจากปัจจัยสี่ พวกพี่ ๆ ผู้ชายก็จะจับไก่ไปขายที่ตลาดนัด หรือถ้าอยากได้เงินเก็บระหว่างปีก็เลี้ยงหมูสักตัว การเลี้ยงหมูของครอบครัวเราให้มันกินไปตามสภาพ กินหยวกกล้วยบ้าง กินสาหร่ายจากคลองบ้าง ผสมข้าวลงไปนิดหน่อย นาน ๆ ก็ซื้อรำมาให้กินสักทีเหมือนเป็นของขวัญ


 


ชีวิตแค่พอกินพออยู่เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่จะเลี้ยงลูกทั้งสิบ


พบนมสวรรค์ในวันนี้ ฉันคิดถึงชีวิตพอกินพออยู่ง่าย ๆ แบบของพ่อจริง ๆ


 


ไม่เคยคิดถึงพ่อในแบบนี้มาเลย จนมาถึงวันที่อายุสี่สิบปี เริ่มเหนื่อยกับชีวิต ที่ต้องมีเงินใช้ทุกวัน มีแต่เรื่องของเงินแต่ไม่มีความมั่นคงใด ๆ ในชีวิต และโดยเฉพาะจิตใจ


 


คิดอะไรมากมาย จะทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ แค่พออยู่พอกินพอมีชีวิตที่ดีงามตามสมควร ก็ยังทำไม่ได้


 


เมื่อกลับมาจากสวนทูนอิน ฉันค้นดูเรื่องนมสวรรค์พบว่าเรียกว่าพนมสวรรค์ก็ได้ มีสรรพคุณทางยาด้วย โดยเฉพาะผลเล็ก ๆ ที่มี 4 พู


 


ฉันยิ้มกับนมสวรรค์ มีสรรพคุณทางยานี่เองที่ทำให้ฉันรอดมาได้