ลับแลลายเมฆ : โลกหลังลับแล
คอลัมน์/ชุมชน
"ลับแลลายเมฆ" เป็นนิยายเล่มแรกของปิยะพร ศักดิ์เกษม ที่ผมได้อ่าน แต่ได้ยินชื่อของเขามาบ้างแล้วในคราที่นวนิยายเรื่อง "รากนครา" เข้ารอบสุดท้ายรางวัลซีไรต์ อ่านไป ๆ ผมไม่แน่ใจนักว่านิยายเรื่องนี้จะจัดเข้าไปอยู่ในหมวดของนิยายแนว "พาฝัน" หรือนิยายแนว "สร้างสรรค์" ดี
แต่ไม่ว่าจะจัดเข้าไปอยู่ประเภทใดก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะผมประจักษ์มานานแล้วว่านิยายที่เรียกกันว่าสร้างสรรค์ประเภทที่เขียนเพื่อส่งเข้าชิงรางวัลของโรงแรมโอเรียนเต็ลนั้น ไม่ได้ดีเด่โดดเด่นกว่านิยายที่เรียกกันว่า "พาฝัน" แต่ประการใด หนำซ้ำยังอ่อนชั้นกว่าเสียด้วยซ้ำไป
นิยายของ ว.ณ ประมวลมารคที่บางคนจัดให้อยู่ในแนวพาฝันนั้น ในความเห็นของผม "ดี" กว่าแนวสร้างสรรค์ที่เข้ารอบสุดท้ายรางวัลโอเรียนเต็ลเป็นไหนๆ การจัดประเภทด้วยการมาตรวัดเชิงประเมินค่าจึงเป็นเรื่องเหลวไหลสิ้นดี
"ลับแลลายเมฆ" เริ่มต้นด้วยลีลาแบบนิยายที่เหมาะจะเอามาทำละครโทรทัศน์หลังข่าวภาคค่ำทางช่อง 7 สีหรือช่อง 3 ก็ได้ แต่แล้วก็ค่อยๆ หักมุมไปทีละน้อยๆ จนกระทั่งจบลงด้วยลีลาแบบนิยาย "เพื่อสังคม" ด้วยการยกระดับเรื่องของรักๆ ใคร่ๆ ธรรมดาของหนุ่มสาว ให้กลายเป็นมาเป็นการเสริมสร้างความเข้าอกเข้าใจต่อผู้หญิงที่ถูกทารุณกรรรมทางเพศ
ฟ้าเป็นหญิงสาวสวยที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติและฐานะสมบัติ การศึกษาก็ดี กิริยามารยาทน้ำในใจคอก็งดงาม เรียกได้ว่าเธอสมบูรณ์เหมือนผู้หญิงในอุดมมีคติเกือบทุกอย่าง เพียงแต่ว่าเธอไม่มีพ่อแม่ซึ่งเธอคิดว่าเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุในตอนที่เธอยังเด็ก
ฟ้าจึงอยู่กับปู่ย่าและแม่บ้านซึ่งคอยดูแลเธอ จนกระทั่งเธอเติบโตเป็นหญิงสาวแสนสวยที่ใครเห็นก็ต้องชอบ แต่นิยายจะค่อย ๆ เผยให้รู้ว่าฟ้าไม่ใช่ผู้หญิงดีเลิศที่ไม่มีรอยตำหนิ ตรงกันข้ามเธอมีรอยตำหนิใหญ่ซึ่งฝังรากลึกอยู่ในจิตใจเธอ
ฟ้าถูกทารุณกรรมทางเพศตอนอายุ 13 ปี ถูกกระทำทางเพศอย่างยาวนานจนกระทั่งเธอตั้งท้อง! แต่ความโหดร้ายยังไม่จบแค่นั้น แม่ของฟ้าซึ่งมารู้ทีหลังว่าลูกถูกกระทำชำเรายาวนานจากการพาลูกไปหาหมอเมื่อลูกเกิดอาการไม่สบาย และเมื่อพบว่าลูกตั้งท้องก็โกรธแค้นอย่างหนัก เพราะคนที่ล่อหลอกทำร้ายลูกเธอก็คือญาติที่มาพึ่งพิงอาศัยเธอนั่นเอง
แม่ของฟ้าคว้าปืนขึ้นมาหมายจะนำไปฆ่าไอ้วายร้ายตนนี้ แต่แล้วทำไปทำมา เธอก็ถูกข่มขืนไปอีกคน! ท่ามกลางสายตาของฟ้า! แม่ของฟ้าเสียชีวิตจากคมมีดของไอ้วายร้ายที่จอคอเธอไว้ในขณะที่กำลังขืนใจส่วนฟ้าเป็นคนใช้ปืนนั้นที่ตกกระเด็นอยู่ยิงไอ้วายร้ายจนเสียชีวิต ส่วนเธอก็สิ้นสติสัมปชัญญะไป (โลกนี้ช่างโหดร้ายจริงหนอ)
ปู่ของฟ้าซึ่งเป็นหมอพยายามทำทุกอย่างให้ฟ้าลืมเหตุการณ์ร้ายทุกอย่างในอดีต (ซึ่งเธอก็เกือบลืมได้จริง ๆ) รวมทั้งการเปลี่ยนชื่อจาก "ฟ้า" เป็น "นภนภางค์" แต่การทำให้ลืมหรือการปิดกั้นความทรงจำไว้นั้นไม่อาจเยียวยารักษาบาดแผลของฟ้าได้ (ช่างชวนให้นึกถึงเหตุการณ์ฆ่าหมู่กลางเมืองเดือนตุลาที่บางคนอยากจะให้ลืมๆ มันไป แต่การลืมมันจะรักษาเยียวยาบาดแผลได้จริงหรือ?)
แม้ว่าเธอจะจำเหตุการณ์ตอนนี้ไม่ได้ (เพราะไม่มีเด็กที่ไหนอยากจะจำเหตุการณ์ทำนองนี้) แต่มันก็ยังอยู่กับเธอ ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกระดับลึกโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลย และวันดีคืนดีก็แสดงออกมาในรูปของ "อาการ" หวาดกลัวการมีเพศสัมพันธ์
ฟ้าแต่งงานกฤต-ชายหนุ่มธรรมดาที่หล่อและรวย แต่แล้วในคืนวันแต่งงานนั่นเองที่อาการที่เป็นผลมาจากเหตุการณ์ร้ายแรงในอดีตของฟ้า ได้สำแดงตัวออกมา
"ทว่าวินาทีนั้นเองที่กฤตขยับตัว อกเปลือยของเขาลอยอยู่เหนือร่างราวกับการคุกคามของพลังที่รุนแรงและแข็งแกร่งกว่า ภาพที่ได้เห็นปาดป้ายเงาทะมึนของความหวาดกลัวอย่างรุนแรงลงในใจของเธอ ร่างกายและอารมณ์ของหญิงสาวยังสะท้านสั่นและหวั่นไหว หากเธอก็ไม่สามารถยุติพลังแห่งความกลัวที่รุนแรงกว่าภายในได้ ไม่สามารถหยุดปฏิกิริยาชวนฉงนของร่างกายของตนเอง...
ปลายมือปลายเท้าของนภนภางค์เริ่มชาดิก มันลามมายังริมฝีปาก เป็นความชาที่ต่างจากความชาแกมเจ็บน้อยๆ เจือความเต็มอิ่มในอารมณ์ที่เกิดจากแรงจุมพิตของกฤติเมื่อครู่ กล้ามเนื้อทุกมัดในร่างกายของเธอเกร็งนิ่งราวกับเชือกที่ขึงตึงเจียนขาด...มันเจ็บปวด...ปวดร้าวรุนแรงจนกล้ามเนื้อของเธอเองต้องหาทางบรรเทาความทรมานนั้นด้วยการสั่นเทาและกระตุก
แม้จะเป็นเพียงแผ่ว หากมันก็ปลุกกฤตขึ้นมาจากบ่อสีทองของอารมณ์รัก อารมณ์ใคร่ ไม่ต่างจากการสาดน้ำแข็งเข้าใส่ทั้งถังทีเดียว ชายหนุ่มสะดุ้งผวา กล้ามเนื้อที่เกร็งเครียดเขม็งพลอยอ่อนล้าเมื่ออาการของร่างซึ่งอยู่ใต้ร่างของเขาดูน่ากลัวน่าตกใจยิ่งนัก" (หน้า 172)
กฤตซึ่งเป็นสามีของฟ้าเสียอารมณ์ไม่น้อยกับอาการที่เกิดขึ้นนี้ เขาเป็นผู้ชายธรรมดาเหมือนคนอื่นๆ ที่ต้องการนอนกับภรรยาในคืนแต่งงาน เขาไม่เข้าใจปฏิกิริยาฟ้า และไม่อาจช่วยอะไรฟ้าได้
ในความพยายามที่จะนอนกับฟ้าเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งฟ้าก็แสดงอาการหวาดกลัวการมีเพศสัมพันธ์ออกมาอย่างรุนแรงกว่าครั้งแรก อันเป็นเหตุให้กฤตเสียอารมณ์สุด ๆ เขาถึงกับหลุดปากออกมาว่า "วุ่นวาย! เรื่องมาก! ไม่รู้จักจบจักสิ้น!" (หน้า 207)
เป็นโชคดีของฟ้าทีมี "มันตา" ซึ่งเป็นหมอคอยดูแลเอาใจใส่เธออย่างทะนุถนอม "มันตา" เป็นลูกของ "แม่บ้าน" ที่อาศัยเติบโตอยู่ในบ้านของ "ฟ้า" ตั้งแต่เด็ก "ฟ้า" นับถือ "มันตา" เหมือนพี่ชายแท้ ๆ ส่วน "มันตา" นั้นใจหนึ่งก็แอบรัก ใจหนึ่งก็พยายามบอกตนเองว่า "ฟ้า" เป็นเหมือนน้องสาว
บทบาทของ "มันตา" ในฐานะที่เป็นหมอและพี่ชายช่วย "ฟ้า" ไว้ได้มากทีเดียว จากอาการของฟ้าที่เกิดขึ้น เขาสงสัยว่า "ฟ้า" อาจมีรอยตำหนิและได้ค้นพบอย่างเจ็บปวดจากการปะติดปะต่อว่าฟ้ามีรอยตำหนิจริงๆ เขาต้องเลือกระหว่างการปกปิดเรื่องราวต่อไป ไม่ต้องขุดคุ้ยมันขึ้นมาให้ฟ้ารับรู้แบบที่ปู่ของฟ้าทำ กับการเปิดเผยคลี่ปมมันออกมา ซึ่งเขาเลือกอย่างหลัง การรักษาเยียวยาทำได้ก็ต่อเมื่อต้องรื้อฟื้นเหตุการณ์ในอดีตไม่ใช่การลืม
ฟ้าได้รับการเยียวยารักษาให้หายจากอาการ "โฟเบีย" และกลับมามีชีวิตปกติในที่สุดท่ามกลางบรรยากาศของการเอาใจใส่ ความรักของมันตา และของย่า
ความน่าสนใจประการหนึ่งของนิยายเรื่องนี้อยู่ตรงที่มันบอกเล่าถึงชีวิตหลังการถูกข่มขืน การพยายามเยียวยารักษาพยาบาลเพื่อจะกลับมามีชีวิตปกติอีกหน ในตอนท้ายเราจะได้เห็นตัวอย่างของผู้ถูกข่มขืนหลายคนที่หาทางจะดำรงอยู่ในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรีเหมือนกับคนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม อ่านแล้วรู้สึกสะดุดอยู่บ้าง เพราะมีการวิพากษ์สังคมที่ชายเป็นใหญ่อย่างทื่อๆ วิจารณ์ระบบกฎหมาย ความเชื่อต่างๆ มากมายและทื่อเสียจนเหมือนกับสั่งสอน.