Skip to main content

ควายแอนด์สปา เฟส 2

คอลัมน์/ชุมชน

ธารรพี ชมพูพร เรื่อง


วัชระ สุขปาน ภาพ


 


 



วารีบำบัด


 


เมื่อมองจากลำน้ำปิง ด้านหน้าที่ว่าการอำเภอจอมทอง ผมพบว่าตัวเองกำลังแอบดูเจ้าตัวนี้  บนหัวไหล่ด้านขวาของดอยอินทนนท์  (ท่านคงนึกภาพออก) ใต้ร่มใบเผาะที่ปกคลุมอย่างหนาแน่น ผมได้แต่เพียงกระซิบบอกให้มันรู้ในใจว่า พลาดแล้วเพื่อนเอ๋ย ที่คิดว่าเราไม่รู้ ไม่เห็นอะไร


 


อิริยาบถ การพักผ่อน หลังจากเสร็จงานการในนาไม่ถึงสองวัน มันก็ถูกปล่อยเข้าป่าอย่างเสรีและเลือกที่จะให้รางวัลกับตัวเองด้วยการแช่ในบึงสปาเกือบเต็มวัน แบบนี้


 


หาใช่ความสุขส่วนตัวเพียวๆ  บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 1300 ฟุตการทำสปาของควายแต่ละจุดนั้น สื่อความหมายถึง การบำรุงรักษาและการฟื้นฟู แหล่งต้นน้ำลำธาร สาขาลำธาร แห่งน้ำตกผางูเหลือม ต้นหว้าริมธารสุกดำแวว ส่วนผลสีแดง ที่นกทำตกหล่น เกลื่อนกลาด ใต้โคนต้น ก็จะเป็นอาหารอย่างดี ให้กระรอก กระเต็น นกกรีดเสียง สนุกสนาน เสียงของพวกมันดังเหมือนจะเป็นการช่วยเขย่าผลไม้สุกๆ ให้ร่วงทะลายลงเร็วๆ แต่ก็มี พ่อมดนก นานๆทีจะมาหุบปีกลงตรงพุ่มใหญ่ พร้อมตบเสียงเบสของตัวเองออกมา เพียงหนึ่งห้องเสียง เสียงทุ้มของพ่อมดนก ผ่าเสียงซุกซนของนกเด็กๆ ให้กระเจิงกระจายกันไป สู่พุ่มไม้ต้นใหม่


 


อย่างไรก็ตาม เสียงรวมๆเหล่านี้ ยิ่งทำให้เจ้าตัวที่กำลังทำสปา  หลับสบายอุราไปกันใหญ่


 


ช่วงนี้ นับว่าเป็นความครึกครื้น เป็นสีสัน ของระบบนิเวศโดยแท้ ที่พวกมันได้เข้าป่าช่วงนี้ นอกจะได้พักผ่อน อันน่าอิจฉาแล้ว การเดินย่ำดินนุ่มๆ ไปมาอย่างนั้น ก็ถือเป็นการพรวนดินให้กับป่า แม้การย่ำเดินจะเหยียบพันธุ์ไม้ต้นใหม่ๆล้มตายไปบ้าง มันบอกว่า "ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าจะคิดเป็นการควบคุมไม้ป่าไม่ให้หนาแน่นจนเกินไป เราก็ใช้วิธีนี้แหละ"


 


คำอธิบายดูไม่หยาบ และหาความชอบธรรมให้ตัวเองจนเกินไป เพราะการเล็มหญ้าในแบบเบาบาง ของกลุ่มควาย ยังถือเป็นการลดอัตราการเบียดเสียด ของสังคมวัชพืช ในป่า อีกทางหนึ่ง


 


"เมื่อถูกปล่อยไว้ในป่า ที่ไม่มีลำห้วย เราเริ่มทำสปาบนภูเขา สำหรับสร้างแหล่งน้ำดื่ม น้ำใช้ โดยการหาที่ดินนุ่มๆ ที่สุด บริเวณนั้น นอนกลิ้งไปมา พอฝนลง เราก็จะได้บึงที่มีน้ำขัง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5x5 เมตร บึงเหล่านี้ มีปู ปลา กบ เขียด จนไปถึงงูน้ำ พอถึงหน้าแล้ง บึงเหล่านี้ใช้ดักและดับไฟป่าอย่างได้ผล ส่วนบึงสปา บริเวณต้นน้ำ ที่เราลงไปนอน ก็ช่วยกระตุ้นให้น้ำไม่แห้ง และรีดนำความชุ่มชื้น สู่ป่า สู่เรือกสวน ไร่นา ของหมู่บ้าน สู่ลำห้วยและสู่แม่น้ำใหญ่ ทะเลตามลำดับ"


 


ควายปฏิบัติพร้อมกับอธิบายแบบนี้ คงฟังขึ้นมากกว่า ที่เราเอาไม้สนจากพื้นราบขึ้นไปปลูกยัดเยียดในป่าธรรมชาติ เพราะนอกจาก ทำให้เกิดไฟป่าแบบรุนแรงในช่วงหน้าแล้งแล้ว กิ่งไม้และใบสน ก็อันตรายพอๆกับวัตถุไวไฟ


 


ควายตัวเดียวกันนี้ยังพูดเสริมอีกว่า "ป่าสนยังทำให้น้ำในหุบห้วย และบึงสปาแห้งขอดเพราะป่าสนจะมีการดูดซดน้ำในปริมาณมากกว่าป่าธรรมชาติทั่วไป"


 


ไลฟ์สไตล์แบบนี้ ไม่ว่าวันธรรมดา หรือวันหยุด มีบึงสปาให้เลือก ถึง 11บึง 11แบบ แต่ละบึงให้บรรยากาศและการบำรุงต่างกันไป แล้วแต่ความต้องการของควายแต่ละตัว เช่น บึงตาลูโข่ ที่มีคุณสมบัติของการนวดตัว และตามด้วยการหมัก พอกโคลนซึ่งส่วนใหญ่ ควายจะเริ่มการพักผ่อนกับบึงนี้ เป็นจุดแรก ก่อนเคลื่อนไปที่ บึงโข่ที ด้วยสูตรอโรมา เธอราพี 


 


ควายทุกตัวจะใช้เวลาอยู่ในบึงนี้นานเป็นพิเศษ เนื่องจากมีน้ำผุดขึ้นมาจากใต้ดินตลอดเวลา ริมบึงยังปกคลุมด้วยพืชสมุนไพรน้ำ อบอวลด้วยกลิ่นของดอกไม้นานาชนิด ควายขี้เกียจและโชคดีบางตัว ถึงกับนอนอ้าปาก ก่อนรับผลไม้ที่นกปอกเปลือกเสร็จแล้ว ทิ้งมาให้ จากกิ่งไม้เบื้องบน และมันก็ค่อยๆขยับปากเคี้ยวช้าๆอย่างขี้เกียจ


 


หลังจากนั้น ก็จะไปล้างตัวที่ บึงตาโดะ บึงที่ลึก และมีน้ำใสที่สุด บึงนี้ควายใช้ร่วมกับคน ดังนั้นมันลงไปแค่เดี๋ยวเดียว แล้วรีบขึ้นเลย แค่สามบึงในหนึ่งวันก็พบความสุขเพียงพอแล้ว ด้วยเหตุนี้ ความเหงาและโรคซึมเศร้า ไม่มาย่างกรายมันเลย แต่เจ้าของของมันนะสิ กลุ้มอยู่หน้าเตาไฟ เพราะวันเวลาผ่านไป นั่งหุงข้าว ดื่มชา สูบยาใบตองในครัวดีๆดันลุกขึ้น จะไปเข้าห้องน้ำบ้าง ก็ต้องไปปลดทุกข์ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จนแล้วเสร็จ ก็จะมานั่งในครัวต่อ ในเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวง บ้านกับห้องน้ำ ชายคาห่างกันไม่พอให้มดตั้งแถวเดิน แต่ก็ถูกแยกเขต แบ่งป็นสองอุทยานจนได้


 


"แล้วจะทำอะไรกัน คงไม่ต้องได้เคลื่อนไหวอะไรกันแล้ว เพราะสิทธิชุมชนในเขตป่า ที่ผ่านมา ก็ยังมีความคืบหน้าเท่าไหร่ ปลูกข้าวเสร็จแล้วได้แต่ทำใจเย็นๆไว้" เจ้าของมันว่า ก่อนรินน้ำชาใส่จอกไม้ไผ่ ให้กับผม ผมดื่มเข้าไปกระเอือกนึง แล้วแกล้มยาสูบใบตองสองซืด


 


ใกล้มื้อค่ำเต็มที เม็ดฝนลงมาอบรมหลังคาใบตองตึงปรอยๆ กลิ่นหอมของพริก กระทียมเผา ลอยมา(อุ้ยใส่ถั่วเน่ารมควันด้วย)หอมจริงๆถัดไปเป็นกระด้งใส่ผัก เช่นถั่วไร่ ฝักสีม่วง สีเขียว ผักเผ็ด ใบบัวบก ว่าน กระทือ ที่ดึงถอนมาจากริมอ่างสปาและถัดมาเป็นปลาย่างจากอ่างนั้นเช่นกัน


 


หมอกเหมย แข็งตัว ตรงปากถ้ำหินปูน แห่งหมู่บ้าน หิน เหล็ก ไฟ ที่มีหินแหลมทรงโมเดิร์น ตระหง่าน พลันรำพึง รำพัน จรดดินสอที่พึ่งเหลากับมีดพร้า...


 


หินเหล็กไฟ


สูงสุดหัวไหล่อินทนนท์


หินผาซอกแซกป่าสนคนปลูก


หมอกเย็นไอหินปะทะฝน


ท่ามกลางเหล่านี้


หินตีตัวเองเป็นประกายจากในถ้ำ


ปะทุ ปลุก


หนุ่มสาวชาวดอยลุกขึ้น


ทวงถามความเป็นธรรม


ในธรรมชาติ