Skip to main content

การจากไปของเทปคาสเสท

คอลัมน์/ชุมชน

เมื่อสักสองสามอาทิตย์ก่อนหน้านี้ ผมได้อ่านบทสัมภาษณ์ของเจ้าของค่ายเพลงขนาดใหญ่แถวๆลาดพร้าวได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ค่ายของเขาได้ยุติการออกอัลบั้มเพลงในรูปแบบเทปคาสเสทแล้ว โดยจะเริ่มเน้นหนักไปที่การขายเพลงในรูปแบบดิจิตอลแทน


 


ฟังแล้วอดใจหายไม่ได้ครับ


 


จริงอยู่ที่ผมไม่ค่อยได้ใช้บริการของค่ายเพลงแห่งนี้สักเท่าไหร่ (ไม่ได้มีอคติอะไรกับตัวค่ายหรอกนะครับ แค่บังเอิญว่าค่ายนี้เขาผลิตงานไม่ค่อยจะ "โดน" ผมสักเท่าไหร่ก็เท่านั้นเอง) แต่ข่าวนี้น่าจะเป็นสัญญาณเตือนว่า...


 


ยุคแห่งเทปคาสเสทกำลังเดินมาถึงเวลาอัสดงเสียแล้วครับ... L


 


พูดเรื่องนี้แล้ว ผมขออนุญาตท่านผู้อ่านมานั่งทบทวนกันเสียหน่อยว่าไอ้เจ้ากล่องพลาสติกทรงสี่เหลี่ยมที่มีม้วนเทปเล็กๆ สีดำ-น้ำตาลนั้นเคยสร้างความสุขและประสบการณ์สนุกๆ กับการฟังเพลงของเราๆ ท่านๆ กันขนาดไหน


 


ถือเสียว่าเล่าตอนที่เรายังได้เห็น ได้ใช้มันอยู่ ก่อนที่มันจะหายไปแล้วกันครับ


 


@#@#@#@#@


 


ถ้านับย้อนหลังจริงๆ ถึงเทปม้วนแรกในชีวิตที่ผมซื้อนั้นคงต้องย้อนไปสมัยผมเรียนมัธยมต้น


 


ตอนนั้นผมได้เงินเล็กๆ น้อยๆ จากการทำงานพิเศษที่บ้านญาติ เลยตั้งใจว่าจะให้รางวัลตัวเองด้วยเทปเพลงดีๆ สักสามม้วน...ผลที่ได้ก็คืออัลบั้ม "ธ. ธง" ของป้า เอ้ย... ป๋าเบิร์ดของผม, อัลบั้มรวมเพลง "เฉลียง ๕ ชุด" ของเฉลียง และอัลบั้ม Volume 10 ของคุณสมเกียรติ อริยชัยพานิช


 


ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผมกับเทปคาสเสทก็อยู่ในโลกใบเดียวกัน...อย่างน้อยก็อีกหลายปีทีเดียว


 


ถ้าเปรียบเทียบซีดีและเทปกับอุปนิสัยใจคอของคนละก็...ซีดีคงเหมือนกับมนุษย์เงินเดือนผสมกับนักกีฬาที่มีความเที่ยงตรงและสมบูรณ์แบบ ในขณะที่เทปคาสเสทก็เป็นเหมือนศิลปินเจ้าอารมณ์ที่ช่างอ่อนไหวเสียเหลือเกิน


 


ที่บอกเช่นนั้นก็เพราะว่าเทปคาสเสทในเวลาที่มันใช้งานได้อย่างปกตินั้น มันจะสร้างความสุขให้กับเราๆ ท่านๆ ได้อย่างดี แต่ถ้ามันเกิดอาการเกเรเมื่อไหร่ ความเหนื่อยปนรำคาญจะมาแทนที่ในทันทีทันใด


 


ความรำคาญอันแรกจะเกิดขึ้นถ้าบังเอิญเราเผลอไปกดปุ่ม REC (ที่เราเรียกมันอย่างไม่เป็นทางการว่า "ปุ่มอัด") เข้า สิ่งที่เราจะได้คือเทปเพลงอัลบั้มโปรดที่มีเสียงของเราผสมโรงไปด้วย ซึ่งปัญหานี้แก้ง่ายๆ ด้วยการหักเขี้ยวพลาสติกเล็กๆ สองซี่ที่อยู่บนตัวเทปเสียก่อน เทปนั้นก็จะไม่สามารถถูกอัดได้ (แต่ส่วนใหญ่เราก็ไม่ค่อยจะหักเขี้ยวอันนั้นหรอก กว่าจะรู้ตัวก็มักจะเป็นตอนที่เทปถูกอัดทับไปแล้วแหละ)


 


แต่ถ้าเราเก็บเทปไว้ในที่ร้อนมากๆ แล้วนำเทปม้วนนั้นมาฟัง สิ่งที่เราจะได้ฟังคือเสียงที่มีความ "ย้วย" ผิดปกติ จนถึงขนาดที่ว่าสามารถทำให้เพลงร็อกร้อนแรงกลายเป็นเพลงสวดทิเบตไปซะงั้น ซึ่งเราเรียกอาการนี้ง่ายๆ ว่า "เทปยืด" อันมีวิธีแก้ง่ายๆ ด้วยการเอาเทปไปแช่ตู้เย็น (เออนะ...เทปยืดเพราะโดนอากาศร้อน แล้วแก้ด้วยการเอาไปแช่ตู้เย็น...เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ทื่อมะลื่อที่สุด...แต่มันดันได้ผลแฮะ)


 


นอกจากนี้ยังมีบรรดาเรื่องจุกจิกกวนใจอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการระวังไม่ให้เทปอยู่ใกล้แม่เหล็ก หรือแม้กระทั่งว่าเราไม่ได้ทำอะไรเลย แต่อยู่ดีๆ เนื้อเทปมันเกิดอยากจะไปพันหัวอ่านในเครื่องเล่นเทปของคุณ คุณก็ต้องไปแกะมันออกมา และ ๙๐% ของเนื้อเทปที่เคยเข้าไปพันกับหัวอ่านนั้นมักจะยับ จนทำให้เสียงที่ออกมาจากเทปม้วนนั้นมียับพอๆ กับสภาพของเนื้อเทปนั่นแหละ


 


แต่ที่บ่นๆ มาตลอดสามย่อหน้าเนี่ย ไม่ได้หมายความว่าผมรังเกียจเทปคาสเสทนะครับ แต่ในทางตรงกันข้าม...ผมโคตรรักมันเลยครับ


 


ผมรักเทปคาสเสทเพราะว่ามันเป็นประตูที่เปิดให้ผมเริ่มรู้จักการฟังเพลงอย่างจริงจัง


 


แม้ว่าช่วงที่ผมเริ่มฟังเพลงนั้นจะเป็นช่วงที่มีซีดีจำหน่ายแล้ว แต่ว่าด้วยราคาของมันในตอนนั้นที่ยังแพงอยู่ (ซีดีเพลงไทยในตอนนั้นยังมีราคาอยู่ในช่วง ๓๐๐ กว่าบาท ไม่ได้ลดราคาเพื่อสำนึกผิดจากพิษเอ็มพีสามเหมือนในปัจจุบัน ส่วนเครื่องเล่นซีดีนั้นไม่ต้องพูดถึงครับ...) เกินกว่ากำลังของเด็กมัธยมต้นจะคิดถึง


 


เทปคาสเสทจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดของการฟังเพลงในตอนนั้น


 


ผมยังจำความรู้สึกตอนที่ผมเอาเทปอัลบั้มใหม่ที่เพิ่งซื้อมาจากร้านเทปใกล้ๆ บ้านยัดใส่กระเป๋ากางเกงนักเรียนสีกากี ก่อนที่จะเอามานอนฟังโดยใช้วิทยุเครื่องเล็กๆ ที่วางไว้ตรงมุมหนึ่งของห้องนอน


 


แม้เสียงของมันจะไม่สมบูรณ์แบบเหมือนเวลาเรานั่งฟังจากเครื่องเล่นซีดี แต่สำหรับผมแล้ว...เสียงที่ได้ยินในตอนนั้นนั่นแหละที่เพราะที่สุดแล้ว


 


แต่ถึงผมจะพูดอย่างนั้น ผมก็เข้าใจว่าวันหนึ่งเทปคาสเสทคงหมดบทบาทไปในตลาดนักฟังเพลง เหมือนที่แผ่นเสียงเคยประสบพบกับอาการ "ตกยุค" (แถมตอนนี้ยังหวั่นๆ ว่าซีดีจะกลายเป็นรายต่อไปที่จะหายไป ด้วยฤทธิ์จากการดาวน์โหลดที่เฟื่องฟูเหลือเกิน)


 


แต่คนรุ่นเราๆ คงไม่หลงลืมเทปคาสเสทง่ายๆ หรอก... จริงมั้ยครับ


 



 


ของฝากจากเด็กใหม่ฯ


 


"บ้านบรรทัดห้าเส้น" ตอนนี้พูดถึงเทปคาสเสท ผมเลยขอเลือกเพลงจากอัลบั้มเก่าๆ ให้เข้ากับบรรยากาศเสียหน่อยครับ


 


เพลงที่จะเลือกมาให้ฟังคราวนี้ หยิบมาจากอัลบั้มบันทึกการแสดงสด "สาว สาว สาว อินคอนเสิร์ต" ซึ่งเป็นการแสดงสดในรายการ "โลกดนตรี" เมื่อครั้งกระโน้น (ได้ยินคำเล่าลือกันว่า ในการแสดงสดคราวนั้นผู้ชมแน่นจนทำให้ผู้ชมล้นทะลักออกนอกห้องส่ง ซึ่งทำให้ "โลกดนตรี" กลายเป็นรายการดนตรีกลางแจ้งในเวลาต่อมา)


 


ผมเลือกเพลง I Love You ซึ่งเป็นเพลงปิดท้ายการแสดงในครั้งนั้นมาให้ฟังกันครับ


 


ที่เลือกเพลงนี้มาให้ฟังก็ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าผมไม่ทราบจริงๆ ว่าวงดนตรีต้นฉบับที่ร้องเพลงนี้เป็นครั้งแรกคือวงอะไร และผมคิดว่าคงมีแฟนๆ บ้านบรรทัดห้าเส้นหลายท่านที่น่าจะเกิดทันยุคนั้น J


 


ถ้าใครทราบว่าเพลงนี้เป็นเพลงของใคร ก็ช่วยบอกกันด้วยคร้าบ...