Skip to main content

Attention Please! We’re gonna have sex tonight!

คอลัมน์/ชุมชน

ชมพูนุท  สถลนันทน์ : เรื่อง


 


 



 


 


 


ด้วยวิวัฒนาการที่ดำเนินมาด้วยความชาญฉลาดของมนุษย์  ทุกสิ่งทุกอย่างจึงถูกจัดวางให้เป็นโครงสร้าง  เพื่อง่ายต่อการจัดการและการพัฒนา  ไม่เว้นแม้กระทั่ง  "เพศสัมพันธ์"


           


เพศสัมพันธ์ในยุคโบราณนั้น กระทำกันอย่างโจ่งแจ้งซึ่งยังสามารถเห็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของเพศสัมพันธ์ที่ยังหลงเหลือมาจนปัจจุบัน  เช่น  แถบอินเดียในบางชนเผ่า  ชนเผ่านั้น ๆ จะสร้าง "โมรุง" ไว้สำหรับบ้านที่มีลูกสาว เพื่อให้ชายหนุ่มทั้งในเผ่า และต่างเผ่าเข้ามาหลับนอนกับลูกสาว  บ้านไหนที่ "โมรุง"  ถูกใช้งานไม่ขาด จะถือว่าเป็นหน้าเป็นตา เป็นเกียรติกับพ่อแม่บ้านนั้น ๆ มาก 


 


หลักฐานชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่า สตรีเพศ มีความสำคัญต่อการยกระดับครอบครัวผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า "เพศสัมพันธ์" 


 


และหากลูกสาวบ้านนั้นมีลูกสาวแล้วล่ะก็  แน่นอนที่สุดว่าแม่จะสอนวิธีบริหารเสน่ห์ให้กับลูกสาวของตน  เพื่อเชื้อเชิญชายหนุ่มมาหลับนอนให้ได้มากที่สุด  สร้างเกียรติให้กับวงศ์ตระกูลต่อไป  ระบบการถ่ายทอดเช่นนี้  ปฏิบัติสืบมาจากรุ่นสู่รุ่น  จนกลายเป็นโครงสร้างที่สตรีต้องพึงกระทำ


           


กลับมามองในความเป็นจริงของปัจจุบัน  "โมรุง"  คงไม่ต่างกับ "โรงแรม(จิ้งหรีด)"  สิ่งที่ต่างกัน คือการให้ความหมาย  ในขณะที่  "โมรุง"  คือ  สถานที่ชี้บ่งถึงเกียรติวงศ์ตระกูล  แต่ "โรงแรม(จิ้งหรีด)"  กลับเป็นสถานที่น่าละอายของคนทั่วไป  รวมถึงสร้างความอัปยศให้กับวงศ์ตระกูลอีกด้วย  ทั้ง ๆ ที่กิจกรรมภายในสถานที่ทั้งสองนั้นเหมือนกัน


           


เมื่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว  สังคมจะบีบบังคับให้รับผิดชอบโดยการแต่งงาน  


 


อนึ่ง "การแต่งงาน" หากพิจารณาให้ดีแล้ว เสมือนเป็นการประกาศต่อหน้าสาธารณชนว่า  ค่ำคืนนี้เราจะมีเพศสัมพันธ์กัน  คู่บ่าวสาวหน้าชื่นมื่นขอบคุณแขกผู้มีเกียรติแล้วร่วมกันกล่าวเป็นนัยว่า "ประกาศ  พวกเราจะทำรักกันในคืนนี้ (Attention  Please! We’re  gonna  have  sex  tonight!)"  ในทางกลับกันนั้น  สังคมมักจะตำหนิคู่นอนที่แอบมีสัมพันธ์สวาทอย่างมิดชิดในโรงแรม(จิ้งหรีด)  แต่กลับไม่อายที่จะป่าวประกาศให้สังคมรับรู้การมีเพศสัมพันธ์หลังจากงานแต่งงานครั้งนี้!!!


           


ดังนั้น  การแต่งงานจึงเป็นงานเลี้ยงฉลองเนื่องในโอกาสเสียบริสุทธิ์ที่สาธารณชนพึงทราบ  ตำหนิคนที่แอบเสียบริสุทธิ์ในที่รโหฐานโดยตั้งคำถามเป็นนัยว่า "ทำไมไม่ประกาศแก่สาธารณชนทราบเสียก่อน (ว่าจะทำรักกัน)" 


 


ซึ่งเหตุผลดูจะขัดแย้งกันเหลือเกิน  กล่าวคือ  สังคมต้องการทำให้เรื่องเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่ควรจะปกปิดเพราะน่าละอาย  โดยดูถูกคนที่อาศัยโรงแรม(จิ้งหรีด)เป็นที่ปฏิบัติกิจ  ทว่า กลับกำหนดพิธีแต่งงานเพื่อประกาศการทำรัก  โดยอ้างเหตุผลเรื่องความถูกต้องของการเกิดมาเป็นมนุษย์ตามวัฏจักรสังคม  คือ  เรียน  ทำงาน  แต่งงาน  มีลูก และตาย


           


ต่อจากพิธีประกาศการทำรักแล้ว  การจดทะเบียนสมรสยังเป็นใบรับรองความถูกต้องทางกฎหมายของคู่แต่งงาน  เสมือนเป็นใบเสร็จรับเงินที่ได้รับภายหลังจากการทำรักกัน  "เพียงยืนยันใบเสร็จนี้ก็สามารถรับสิทธิทางกฎหมายอย่างถูกต้องอีกด้วย"


           


อย่างไรก็ตาม แต่ละวัฒนธรรม  แต่ละสังคม  ก็มีความแตกต่างกันในการดำรงอยู่  ไม่ว่าจะสาเหตุใดก็ตาม  ทุกวัฒนธรรมมักสร้างเหตุผลอันชอบธรรมให้กับสังคมของพวกเขาเอง  เช่น  ในอินเดีย  เกี่ยวกับเรื่องโมรุงนั้น  พวกเขาคงมีเหตุผลที่คิดว่าดีที่สุดในสังคมของเขาแล้วในการที่จะกระทำเช่นนั้น


           


บทความชิ้นนี้  เขียนขึ้นเพื่อเถียงเหตุผลของมนุษย์บางกลุ่มที่คิดว่าการแต่งงาน คือ ความดี และการแอบมีเพศสัมพันธ์ในที่มิดชิด(โรงแรมจิ้งหรีด)  คือ ความชั่ว  ผู้เขียนเพียงต้องการวิเคราะห์เหตุผลที่ดูจะขัดแย้งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเกี่ยวกับการแต่งงาน โดยเฉพาะมนุษย์ที่เป็นคนไทย ซึ่งบูชาพิธีวิวาห์เหนือเหตุผลใด ๆ 


 


ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ชีวิตหนึ่งของคนไทยต้องเข้าสู่การแต่งงาน คนที่ไม่ร่วมในวัฏจักรดังกล่าว  มักกลายเป็นชนกลุ่มน้อยของสังคม เป็น "อีแก่ทึนทึก"บ้าง เป็น "หนุ่มใหญ่" บ้าง เป็นต้น และเมื่อพวกเขาและเธอเหล่านั้น ได้มีโอกาสแต่งงาน ก็จะกลายเป็นคนปกติที่สังคมยอมรับทันที 


 


ด้วยความที่มนุษย์สร้างโครงสร้างไปเสียทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่เรื่อง "เพศสัมพันธ์" โดยอ้างเหตุผลการได้รับสิทธิอันชอบธรรมของกฎหมายและถูกต้องจารีตกฎหมู่ของสังคม ทำเรื่องง่าย ๆ เป็นเรื่องยาก ต่อไปคงสามารถหาสามี หรือภรรยามือสองได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งได้รับตรารับประกันคุณภาพพร้อมใช้


 


และร่วมกันประกาศอีกครั้งว่า  "ประกาศ  เราพร้อมที่จะทำรักกัน (คืนนี้) (Attention  Please!  We’re  gonna have sex tonight!)