Skip to main content

เหมือนดอกไม้มีเรื่องเล่า 8 : ดอกไม้ของโลกมนุษย์

คอลัมน์/ชุมชน

ฉันไม่รู้จักผู้ชายคนนั้นเท่าไหร่หรอก


ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อเสียด้วยซ้ำ


แต่ฉันก็ยังจำได้ ทุกวันอาทิตย์ เราจะเจอกัน ใบหน้ารูปไข่ มีริ้วรอยบ่งบอกวัยกลางคน


เขารูปร่างสูงโปร่ง อารมณ์ดี ยิ้มเก่ง ที่ทำงานเขาคือแผงขายปลาในตลาดนัดวันอาทิตย์


เขาขายปลานิล ปลาทับทิม ปลาดุก ปลาช่อน บางครั้งมีปลาเล็กๆ ขายเป็นกอง


แผงขายปลาจากแม่น้ำของเขา อยู่ตรงข้ามกับแผงขายอาหารทะเล


จึงว่ากันว่า พ่อค้าสองแผงนี้มีเรื่องให้เถียงกันประจำ เกี่ยวกับเรื่องปูๆ ปลาๆ


เช่นว่าถ้าตะโกนว่าปลาเป็นๆ จ้า อีกฝั่งจะตะโกนว่า ปลาตายแล้วจ้า ไม่ต้องฆ่าให้ผิดบาป


เป็นเรื่องเฮฮาที่ไม่ถือสากัน


 


และฉัน จึงเป็นลูกค้าประจำทุกครั้งที่อยากทำกับข้าวที่บ้าน


เมนูง่ายๆ เช่น ปลาทับทิมนึ่ง ปลาทอด หรือว่าต้มยำ กินกันทีละตัวสองตัวให้สมกับที่ปลาราคาถูก


บางครั้งไม่ซื้อ ก็แวะเวียนไปเดินผ่าน ตื่นเต้นกับปลาตัวใหญ่ๆ หรือหัวเราะไปกับมุกขำๆ ที่พ่อค้าปลามีให้คนขาย ถ้าคิดเป็นโฆษณา ก็คงต้องพูดว่า ที่นี่ให้คุณมากกว่าปลา


แต่ใครเลยจะรู้ว่า วันหนึ่ง คนที่เป็นส่วนประกอบไม่สำคัญของชีวิตจะทำให้เราใจหายได้ขนาดนี้


 


สองอาทิตย์แล้ว แผงปลานั้นว่างเปล่า


ไม่มีร่องรอยใดใด นอกจากผืนดินที่เคยเป็นที่ตั้งกาละมัง ถังออกซิเจน สายยาง และถังน้ำ


เขาไม่มาขายอีกแล้ว และไม่มีใครแทนที่


สองอาทิตย์แล้วที่ฉันรอจะซื้อปลา เมื่อไม่เห็น ก็คิดว่าอาทิตย์หน้าจะมาซื้อใหม่


ในที่สุดจึงตัดสินใจเดินไปถามแผงขายดอกไม้ข้างๆ


หญิงชรากำลังจัดวางกำผักบุ้งและกวางตุ้งให้เรียบร้อยบนแผงไม้ที่ปูด้วยพลาสติก


 


"ลุงขายปลาแกตายไปแล้วหนู เมื่อสองอาทิตย์ก่อน"


เธอบอกช้าๆ มองหน้าฉันซึ่งกำลังนิ่งงัน ไม่รู้จะพูดอย่างไร


"น้ำท่วมบ้านแก คงเดินลงมาดูปลา ไม่รู้ว่าสายไฟมันรั่ว"


"แกตายทันทีเลยเหรอ" เสียงใครอีกคนตะโกนเข้ามาถาม


บทสนทนาอันหนาหนักเริ่มก่อตัวขึ้น ลูกค้าหลายคนเดินเข้ามาใกล้


"ไม่รู้เหตุการณ์เป็นไง แต่แกตายเพราะไฟดูด"


"หรือว่าแกไปช็อตปลามาขาย กรรมเลยตามทัน"


มีคนเอ่ยอย่างนั้น บ้างกระซิบกระซาบ เอียงคอกันเข้ามา


 


ฉันยังยืนอยู่ตรงนั้น ปล่อยให้โลกหมุนไป ข่าวร้ายกำลังกระจายอยู่ในอากาศ


ความทรงจำอันจางๆ ของฉันกลับกลายเป็นชัดเจน ชีวิตเราคงเช่นผักปลา


สักวันต้องจากลาที่ซึ่งเคยอยู่ และหายไปจากโลก


เหลียวไปมองอีกครั้ง หญิงชราตรงหน้ามีท่าทีเคร่งขรึม


เธอหยิบดอกไม้กำหนึ่งออกจากถุงพลาสติก ยื่นให้ฉันดู มันมีชื่อว่าดอกดู่สีเหลือง ดอกเล็กๆ


 


"อาทิตย์ก่อนยายเอามาขาย ดอกไม้ดู่นี้ลุงแกชอบ แต่ไม่ทันเก็บไว้ให้ ก็ขายหมดก่อน ก็กะว่าอีกวันจะเอามาเผื่อ เสียดายไม่ได้ให้กันก่อนจะไป ถ้ารู้จะเอาไปให้งานศพ"


 


"ไปงานศพก็ต้องให้ดอกไม้จันสิยาย" พี่ผู้หญิงข้างๆ ว่า


"เขาไปอยู่เมืองผีแล้ว นี่มันดอกไม้ของโลกมนุษย์ เอาไปด้วยไม่ได้หรอก"


เธอว่าอย่างติดตลก คนอื่นหัวเราะเบาๆ อย่างนึกขำในคำพูด


 


ฉันจ้องไปยังดอกไม้เหล่านั้น นึกสงสัยว่าในบางโลก สิ่งเหล่านี้จะมีมอบให้กันไหม


ถ้าไม่นับดอกไม้แล้ว คงมีอีกหลายต่อหลายอย่าง ที่เขาเอาไปด้วยไม่ได้


พืชผัก ดอกไม้ ปลาของเขา เพื่อน มิตร และชีวิตในวันธรรมดาที่เคยเป็นอยู่


เสียงหัวเราะ และเสียงร้องไห้ และสุดท้าย ความรู้สึกที่ไหวเวียนอยู่กับเราในขณะนี้


 


แล้วฝนก็ตกลงมา ทุกคนแตกฮือ แม่ค้าเก็บข้าวของ


ฉันถือถุงไข่และผักกวางตุ้งอีก 2 กำ กลับมาหาจักรยานของตัวเอง


อดไม่ได้จะเหลียวกลับไปอีกครั้ง แผงขายปลาที่ว่างเปล่า


และดอกไม้ของยาย


ดอกไม้ที่มีอยู่แต่ในโลกมนุษย์เท่านั้น.