Skip to main content

บ้านดาวรักดิน บ้านของนักเขียน 1 : อ้าย…ขอหยุดสร้างบ้านก่อน

คอลัมน์/ชุมชน

 "อ้าย..ขอสร้างบ้านก่อน"


อ้ายแสงดาว บอกกล่าวในวันที่พวกเราส่วนหนึ่งชวนกันไปให้กำลังใจ พฤ โอโดเชา ที่กำลังเดินธรรมชาติยาตราไปถึงสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี


 


พฤ เป็นชายชาวปกาเกอญอ ชนเผ่าที่อยู่ในป่าบนภูเขาสูง อำเภอสะเมิง เขาเดินทางลงมาจากดอย เพื่อไปกรุงเทพฯ ด้วยการเดินเท้าของเขาเอง เพื่อจะไปทำความเข้าใจกับพี่น้องที่อยู่ในเมืองให้เข้าใจถึงวิถีชีวิตของพวกเขา ว่าพวกเขาใช้ชีวิตอยู่กับป่าและดูแลป่าต้นน้ำไว้ให้ทุกคนได้ใช้กัน 


 


เขาเดินไปคุยไปกับผู้คนที่ผ่านพบ ค่ำไหนนอนนั่น มีเพื่อนร่วมทางเป็นชนเผ่าต่างๆ อีกหลายคน  เดินไปเพื่อจะบอกว่า คนอยู่กับป่า ดูแลป่าและใช้ประโยชน์จากป่าได้อย่างยั่งยืน


 


แน่นอน งานแบบนี้แสงดาวไม่พลาด แต่ครั้งนี้อ้ายบอกว่า อ้ายขอสร้างบ้านก่อน  ในช่วงที่พี่น้องเริ่มออกเดิน อ้ายไปส่งแล้ว


 


อ้ายแสงดาวพูดอยู่นานแล้วว่า อ้ายจะไปสร้างบ้านอยู่ที่กลางทุ่งนา และเขียนหนังสือให้มากขึ้น…บัดนี้ถึงเวลาแล้ว


 


"แสงดาว ศรัทธามั่น สร้างบ้านดิน บนทุ่งนา" มีข่าวบอกต่อ ๆ กันมาว่าไปช่วยกันขุดดิน ย่ำดินเพื่อสร้างบ้านแสงดาว 


 


เช้าวันหนึ่ง ที่ "เชียงใหม่" ในวันที่ฝนตกหนัก นักเขียน และศิลปินแขนงต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่ เดินทางสู่ทุ่งนา ที่บ้านหนองจ๊อม อยู่ในอำเภอสันทราย เพื่อไปช่วยกันสร้างบ้านดินและบางส่วนก็ไปให้กำลังใจ


 


ป้ายเล็กๆ ข้างทุ่งนาเขียนว่า บ้านดินแสงดาว รถยนต์ผ่านเข้าไปจนถึงสะพานเล็กๆ ข้ามลำเหมือง เป็นสะพานไม้สร้างแบบง่ายๆ สำหรับเดินผ่านเท่านั้น และบัดนี้มันเริ่มผุกร่อน มีร่องรอยว่าจะพังลงได้


 


ก่อนบ้านจะเสร็จ ก่อนสะพานจะพังลง หนุ่มสาวรุ่นน้อง มีทั้งนักเขียนและนักศึกษาและน้องๆ เอ็นจีโอรุ่นใหม่ช่วยซ่อมแซม โดยมีลุงชาวนาแถวนั้นดูแลควบคุมการซ่อมแซม และนักเขียนรุ่นพี่ยืนให้กำลังใจอีกหลายคน สะพานซ่อมเสร็จ บางคนนั่งลงบนสะพานเอาเท้าแกว่งน้ำเล่น


 


แสงดาว ศรัทธามั่น เป็นใคร ทำไมการสร้างบ้านแสงดาวจึงมีความหมาย ถึงขั้นที่จะต้องบันทึกเอาไว้


 


แสงดาว ศรัทธามั่น นักคิดนักเขียน และเป็นกวี คนสำคัญของล้านนา  แสงดาวไม่ใช่นักเขียนซีไรท์ ไม่ใช่ศิลปินแห่งชาติ แต่แสงดาว เป็นศิลปิน อันเป็นที่รักของเพื่อนๆ  พี่ๆ น้องๆ ในวงการคนทำงานศิลปะและผู้คนทั่วไป


 


ชื่อของแสงดาว ศรัทธามั่น ปรากฏอยู่เสมอในทุกที่เมื่อมีเรื่องที่ไม่เป็นธรรม และตัวของแสงดาวเองก็ปรากฏตัวอยู่ทุกที่ที่มีการเรียกร้องของมวลชน เขาจะไปอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นเหนือ ใต้ อีสาน ตะวันออก


 "ไปให้กำลังใจพี่น้อง"แสงดาวพูดเช่นนี้


 


เขาไปให้กำลังใจจริงๆ ไปให้กำลังใจด้วยการเดินไปทักทาย ไปนั่งพูดคุย ไปอ่านบทกวี ใครๆ ก็รู้จักแสงดาว โดยเฉพาะชนกลุ่มน้อย และผู้ด้อยโอกาส


 


 "ถนอม ไชยวงษ์แก้ว" กวีลูกบ้านเดียวกัน กล่าวถึงแสงดาวว่า แสงดาวเป็นกวีนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนคนรากหญ้า


 


การสร้างบ้านของแสงดาวจึงไม่ธรรมดา แสงดาวสร้างบ้านด้วยศรัทธาของเพื่อนผองน้องพี่ ดังนั้น จึงมีผู้คนมากมายมาช่วยกันสร้างบ้านแสงดาว ทั้งที่จำนวนน้อยมากที่เคยสร้างบ้านมาก่อนหรือรู้เรื่องการสร้างมาแล้ว ต่างเป็นมือสมัครเล่นสร้างบ้านหลังนี้เป็นหลังแรก


 



ผู้เขียนและเพื่อนๆ ช่วยกันย่ำดิน