Skip to main content

บ้านดาวรักดิน บ้านของนักเขียน 2 : บ้านในความหมายของแสงดาว

คอลัมน์/ชุมชน

"บ้าน…เป็นที่อยู่อาศัย เป็นที่สร้างผลงาน เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ปลูกพืช ปลูกพืชกิน โลกต่อไปทรัพยากรธรรมชาติไม่ค่อยมีแล้ว ธรรมชาติถูกทำลายทั่วโลก ภัยต่าง ๆ นอกจากเกิดจากธรรมชาติ เกิดจากมือมนุษย์ด้วย อาหารขาดแคลน …อ้ายเลือกสร้างบ้านดิน การสร้างบ้านดิน มีดินเป็นของตัวเอง มีคนช่วยมากๆ มีมิตรสหายมากันมากๆ ศิลปิน เอ็นจีโอ มาช่วยสร้างลงแรงลงแขก สนุกด้วย เป็นการเอื้ออาทรต่อกัน ปัญหาของโลก คือมนุษย์ต้องเอื้ออาทรต่อกัน"


 




แสงดาว  ศรัทธามั่น กำลังเอามีดถากตกแต่งดินที่แห้งให้สวยงาม


 


อ้ายแสงดาว เป็นผู้ชายตัวผอม ๆ เขาเดินไปมาทักทายเพื่อนฝูงที่มาช่วย เดินรับคนที่มาใหม่ บางคนมาเพื่อให้กำลังใจ บางคนมาเพื่อนำอาหารมาสมทบบางคนก็มาเพื่อบรรเลงเพลงในยามเย็นและค่ำคืนที่งานเสร็จแล้ว


 


เมื่อการทำงานจบลงในหนึ่งวัน ใกล้ค่ำความสนุกสนานก็เริ่มขึ้น พร้อมๆ กับแสงนวลของพระจันทร์ กวีบางคนเอาบทกวีออกมาอ่าน


 "อ้ายเดินน้ำตาไหลนะ เห็นพรรคพวกเพื่อนฝูงมากันเยอะ"


 


ผู้ที่มาช่วยงานสร้างบ้านและมาให้กำลังใจ  ใครอยากนอนค้าง ที่นี่ก็มีบ้านเล็ก ๆ ที่สร้างขึ้นง่าย ๆ มีห้องน้ำพร้อม  "พี่สาวอ้ายสร้างให้เป็นที่พัก"  หรือใครจะกางเต็นท์ในทุ่งนาก็ได้ มีเต็นท์ถาวรอยู่สามสี่หลัง


 


บ้านอ้ายแสงดาวไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำประปา ใช้น้ำบาดาลแบบคันโยกเอา และหลังบ้านก็มีลำเหมืองน้ำไหลตลอด


 


 "อ้ายจะอยู่แบบวิถีธรรมชาติ ไม่ใช้ไฟฟ้า ใช้ตะเกียงเอา ก็จะเป็นการทดลองวิถีชีวิตของเรา วันหนึ่งถ้าไม่มีไฟฟ้าล่ะ นักเขียนบางคนใช้คอมพิวเตอร์ สำหรับอ้ายไม่เป็นไรใช้เครื่องพิมพ์ดีด และคิดว่าเวลากลางคืนควรจะพักผ่อน นี่เป็นการเตรียมพร้อมถ้าพลังงานไม่พอ ไฟฟ้าไม่มี ถ้ามีเงินจะใช้โซลาเซล ไม่ใช่ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง แต่ว่าเราสูญเสียมากจากการใช้พลังงานมาก จากโรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า เพื่อการบริโภคสุดโต่ง"


 


 " …จอร์จบุช ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เกิดพายุครั้งเดียว รุกรานเขามาเท่าไหร่  เอาธรรมชาติของโลกมามากมาย แต่เมื่อโดนธรรมชาติ  คุณก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เกิดพายุครั้งเดียว"


 


 "อ้ายเป็นข้าราชการบำนาญ อ้ายกินเงินภาษีประชาชน ต่อไปถ้าประชาชนจนมาก ๆ ประชาชนไม่จ่ายภาษี อ้ายอาจจะไม่มีเงินบำนาญก็ได้ เราต้องเตรียมตัว เป็นนักเขียนก็ต้องเตรียมตัว"


 


แสงดาว ศรัทธามั่น เป็นนามปากกา ชื่อจริงคือศักดิ์ ไชยดวงสิงห์ เป็นบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เขาลาออกจากข้าราชการครู ทำงานเขียนและงานมวลชน  เขาสืบเชื้อสายมาจากตระกูลเจ้าเมืองทางลำพูน แต่เขาเลือกที่จะเป็นขบถ (ขบถโรมานซ์-สมญานามหนึ่งและชื่อหนังสือเล่มหนึ่ง)


 


ในบทบาทนักเขียนนั้นแสงดาวเรียกร้องให้นักเขียน เดินคู่กับผู้คนในสังคม ให้ลงมาสู่ปัญหา และต่อสู้ด้วยกัน


 


 "บทบาทของนักเขียน เราต้องเขียนถึงธรรมชาติของสังคมด้วย ถ้าวันใดวันหนึ่งเกิดกระทบกับตัวเรา อย่างน้อยก็ได้ช่วยกันเขียน"


 



น้องต้อ และน้องจ๋า ก่อดินด้านบน...เก่งจริงๆ ผู้หญิงงามเก่ง


 



ยามราตรีก็ร่วมแรงแข็งขัน งดงามมาก