เซ็กส์ที่ปลอดภัยในคลิปวิดีโอ

เรื่องเซ็กส์และคลิปวิดีโอเหมือนเหรียญที่มีสองด้าน ทั้งดีและไม่ดี หรืออาจมากกว่านั้นคือมีหลายแง่มุมให้พิจารณาในทุกๆ องศาของแต่ละเรื่อง แต่ในที่ผมจะพูดถึงในบทความนี้ คงจะให้ภาพบางมุมที่เกิดจากสภาพแวดล้อมและประสบการณ์ของตนที่รับรู้เรื่องเหล่านี้มา

เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เพื่อนคนหนึ่งถามผมว่า "เคยดูคลิปวิดีโอ อันนี้หรือยัง"  

พร้อมกับยื่นคลิปวิดีโอ ภาพเคลื่อนไหวที่ ชายหญิงคู่หนึ่งมีเซ็กส์กันมาให้ดู "ดีเนอะ ที่ผู้ชายมันใส่ถุงยาง ไม่งั้นอาจเสี่ยงติดเอดส์ได้" เพื่อนเปรยต่อ พลันเปิดคลิปวิดีโออื่นให้ผมดูอีกหลายอัน

บอกตามตรงครับว่า ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยตามกระแสคลิปวิดีโอใหม่ๆ ได้ทัน แต่ก็ถือว่าไม่ช้าเสียทีเดียว ที่ได้ดูคลิปวิดีโอใหม่ที่มีการเผยแพร่กันอย่างมากมายทั้งใต้ดินและบนดิน ซึ่งในคลิปวิดีโอนั้นมีทั้งภาพคนมีเพศสัมพันธ์กัน คือมีทั้งชายกับชาย หญิงกับหญิง ชายกับหญิง ไปจนถึงภาพตบตีกันของนักเรียนหญิง หรือแม้แต่ภาพคลิปที่พี่น้อย วงพรู ถูกพี่เสก โลโซเอารองเท้าตบหน้าที่ต่างประเทศ –ก็ยังมีวายออกมาให้ได้เห็นกันเนืองๆ

เพื่อนมันบอกว่า สมัยนี้ใครที่ไม่มีคลิปวิดีโอเก็บไว้คงจะเอ้าท์ไปหน่อย (เค้าว่ากันอย่างนั้น)

ก็ยุคนี้ สมัยนี้ เทคโนโลยีและความทันสมัย ไฮเทคของระบบสารสนเทศต่างๆ เติบโตไปอย่างเร็วรวด  โทรศัพท์เคลื่อนที่ (มือถือ) ของใครหลายคนมีระบบบันทึกภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคลิปวิดีโอที่มีให้เราได้เห็น มีมากมาย ใครที่ได้รับ จะส่งต่อหรือเก็บไว้ก็ง่าย ตามแต่ความจุ ความจำในโทรศัพท์ของใครจะมากน้อยหรือจะถ่ายเก็บไว้ ส่งต่อให้เพื่อนดูก็สามารถส่งได้ง่ายในราคาเพียงไม่กี่บาท

และการถ่ายภาพต่างๆ ลงในโทรศัพท์มือถือถือมีมากขึ้น ทำให้ได้พบเห็นอย่างง่ายดายและสะดวก แม้แต่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องจะทำงานแก้ปัญหาคลิปวิดีโอ (ที่เขาว่าลามก) อย่างมากมาย แต่ก็ไม่สามารถปิดกั้น ภาพเคลื่อนไหว คลิปวิดีโอเหล่านี้ ได้จริงจัง

ในเมื่อคลิปวิดีโอทำได้ง่าย วัยรุ่นเข้าถึงได้เยอะ และไม่สามารถป้องกันให้ "ไม่ดู" ได้ แต่ทำไมบรรดาผู้ใหญ่จำนวนมาก จึงได้พยายามปิดกั้น สกัด ไม่ให้วัยรุ่นได้เห็นภาพคลิปวิดีโอเหล่านั้น

อาจเป็นเพราะ?

เหตุผลแรกที่ผู้ใหญ่บอกคือ "กลัวเด็กจะเลียนแบบ" คือ เมื่อเด็กวัยรุ่นดูคลิปวิดีโอแล้วจะเกิด "พฤติกรรม" เลียนแบบบุคคลที่อยู่ในคลิปวิดีโอ เช่น หากดูคลิปที่เด็กตีกัน เด็กคนอื่นจะตีกันมากขึ้น หรือหากดูคลิปวิดีโอที่มีการมีเซ็กส์กัน เด็กก็จะมีเซ็กส์กันมากยิ่งขึ้น - ด้วยความกลัวเช่นนี้ ผู้ใหญ่จึงไม่อยากให้เด็กๆ วัยรุ่นได้ดูคลิปวิดีโอ

หรือเหตุผลอีกอย่าง คือ "กลัวจะเกิดอาชญากรรม" คือ เมื่อดูคลิปวิดีโอที่คนมีเพศสัมพันธ์กัน ก็กลัวว่าเด็กที่ดูอาจอยากรู้อยากลอง แล้วเกิดอารมณ์ทางเพศจนต้องไปฉุดกระชากคนอื่นมาข่มขืน กระทำชำเราหรือ กลัวว่าจะเกิดความรุนแรงต่างๆ มากยิ่งขึ้น จนทำให้เด็กมองว่าการข่มขืน หรือการทำร้ายร่างกายกันเหมือนในคลิปวิดีโอนั้น เป็นเรื่องปกติ ธรรมดา …ประมาณว่า "คนอื่นทำได้ ทำไมฉันจะทำบ้างไม่ได้"

แน่นอนครับ ว่ายังมีเหตุผลอีกหลายประการที่ผู้ใหญ่ตระหนักและพยายามที่จะป้องกันไม่ให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมเลียนแบบสิ่งมีชีวิตในคลิปวิดีโอ แต่ถามว่า เมื่อตอนที่ไม่มีภาพในคลิปวิดีโอแล้ววัยรุ่นทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน หรือวัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์กันไหม

ข้อสันนิษฐานของผมคือ เป็นไปได้ไหมว่า ถึงไม่มีคลิปวิดีโอ วัยรุ่นก็มีเพศสัมพันธ์กันอยู่ดี

หากเป็นเช่นนี้ เมื่อคลิปวิดีโอ ไม่ได้เป็นเงื่อนไขให้คนมีเพศสัมพันธ์มากขึ้น และในเมื่อมีกระแสคลิปวิดีโอปรากฎขึ้นโดยที่สังคมไม่มีระบบการป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่สามารถปิดกั้นการแพร่กระจายได้แล้วทำไมเราไม่แปรเปลี่ยนปรากฏการณ์นี้ให้เป็นโอกาสในการสื่อสารเรื่องเพศที่รอบด้าน ไม่ปกปิด ปิดกั้นกับวัยรุ่นล่ะครับ

ลองคิดดูว่า หากในคลิปวิดีโอนั้น มีภาพของคนที่กำลังมีเซ็กส์กัน ซึ่งเป็นการมีเซ็กส์ที่ปลอดภัยและรับผิดชอบ มีการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง หรือ มีการสาธิตการใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีให้ด้วย โอ้โห นึกดูสิครับ หากคนทำอย่างนี้มากขึ้น แพร่หลายมากขึ้น เลียนแบบกันมากขึ้น คือเลียนแบบในการมีเซ็กส์ที่ปลอดภัย รับผิดชอบ และยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย อะไรจะเกิดขึ้น?

ยิ่งถ้าคนมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ คงจะทำให้มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์น้อยลง ลดอัตราการทำแท้ง ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ เช่น หนองใน ซิฟีลิส และอาจช่วยให้คนมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน เคารพกัน และรับผิดชอบในการกระทำหรือผลกระทบที่จะตามมาได้ แบบนี้จะเกิดผลเสียอะไร?

เพราะในเมื่อเราหยุดเทคโนโลยีไม่ได้ และวัยรุ่นหลายคนต่างต้องการข้อมูลเรื่องเพศที่จะเป็นภูมิคุ้มกัน ให้ได้คิด วิเคราะห์และพิจารณาในการใช้ชีวิตทางเพศของตน ด้วยสิทธิและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เสมือนกับผู้ใหญ่หลายคน