Skip to main content

เธอจึงเป็นหนึ่ง

ผมรู้จักผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง 


ที่รักและหลงใหลในงานเขียนวรรณกรรม ตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยจนกระทั่งเรียนจบออกมา และตราบเท่าจนถึงปัจจุบันนี้ เชื่อไหมว่า…ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ แทบไม่เคยทำงานอะไรเลยนอกจากงานเขียนเรื่องสั้นและบทกวี หรือถ้าจะเบี่ยงเบนไปบ้าง ก็ต้องเป็นงานที่มีงานเขียนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เช่น งานอาสาสมัครช่วยเหลือสังคม งานทำข่าวทีวี หรืองานทำหนังสืออย่างที่เธอกำลังทำอยู่ในปัจจุบัน ชีวิตเธอจึงมีแต่เรื่องเปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น เพราะเธอทำงานประจำดังกล่าวเป็นครั้งเป็นคราว เพียงเพื่อให้ชีวิตอยู่รอดให้สามารถทำงานเขียนที่เธอรัก


 


พูดง่าย ๆ ว่าตอนที่เธอเรียนจบออกมา


ถ้าเธอเลือกทำงานเป็นข้าราชการหรือทำงานบริษัทอะไรสักอย่างโดยมุ่งมั่นเอาตำแหน่งหน้าที่การงาน และเงินเดือนเป็นเป้าหมายของชีวิตตามระบบ แทนการเป็นนักเขียนที่ไม่มีเงินเดือน ไม่มีสถานภาพทางสังคมรองรับเป็นทางการ และไม่มีตำแหน่งหน้าที่ใดๆ ให้ไต่เต้า ป่านนี้-เธอคงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่การงานที่ใหญ่โตและมั่นคง เช่นเดียวกับเพื่อน ๆ หลายคนที่เรียนจบและมุ่งมั่นมาทางนี้


 


แน่นอน


เรื่องนี้ย่อมเป็นความผิดหวังที่ยากจะเข้าใจและทำใจได้ของครอบครัว ที่อยากเห็นลูกหลานของตัวเองทำงานใหญ่โตเป็นเจ้าคนนายคน แต่ทำไมนะ…ลูกสาวของเขาเรียนจบถึงมหาวิทยาลัย กลับไปหลงวนเวียนอยู่ในวงจรของงานที่ไม่เคยทำให้ชีวิตดีขึ้น กี่เดือนกี่วันกี่ปีชีวิตก็ยังทรงตัวอยู่ในสภาพเดิม เพราะงานนี้เป็นงานที่ยากที่จะนำคนไปสู่ขุมทรัพย์ เธอเองก็คงรู้แก่ใจดี โดยเฉพาะงานวรรณกรรมแบบที่เธอเขียน ซึ่งเป็นงานที่เขียนยาก อ่านยาก และขายยาก แต่เธอก็ยังสมัครใจที่จะวนเวียนอยู่ตรงนี้อย่างแน่วแน่ ในขณะที่คนเขียนหนังสือรุ่นราวคราวเดียวกัน พลัดหายออกไปจากเส้นทางทีละคนสองคน


 


ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว


เคยมีคนในวงการวรรณกรรมท่านหนึ่ง เปรียบเปรยให้ผมฟังว่า คนทำงานเขียนหนังสือนั้น ก็เหมือนกับคนที่เข้าไปแข่งขันกันวิ่งทนระยะไกล ตอนแรกเริ่มสตาร์ทออกวิ่ง มักจะมีคนวิ่งอยู่เต็มลู่ลาน จากนั้นก็จะค่อย ๆ หายไปทีละคนสองคน เพราะหมดเรี่ยวแรงและความอดทนที่จะวิ่งต่อไป ในที่สุดก็ค่อยๆ เหลือคนวิ่งเข้าเส้นชัยเพียงสองสามคน นั่นคือ – มีน้อยคนนักที่จะมุ่งมั่นอดทนจนประสบความสำเร็จในการทำงานเขียน แต่ผมว่าการแข่งขันกันวิ่งทนระยะไกล ยังดูมีความหวังมากกว่างานเขียนหนังสือ เพราะเขายังมีรางวัลที่แน่นอนตั้งไว้ให้คนที่เข้าไปแข่งขันและได้รับชัยชนะ


 


แต่งานเขียนหนังสือ


ไม่ว่าคุณจะเขียนหนังสือดีหรือว่าเลว มีรสนิยมหรือไร้รสนิยม งานนี้—ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันที่แน่นอนว่าคุณจะได้รับรางวัลอันหอมหวาน เพราะหลังจากที่คุณอดทนทำงานหนัก เหมือนนักวิ่งทน อดทนกัดฟันวิ่งเข้าไปถึงเส้นชัยแล้ว คุณอาจจะได้รับรางวัลเพียงแค่ มีชื่อเสียงและผลงานเป็นที่รู้จักในวงการ แต่กลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในเรื่องเงินทอง หรืออาจจะไม่ได้อะไรเลยทั้งชื่อเสียงและเงินทอง เพราะหนังสือที่คุณเขียนและตีพิมพ์ออกมาวางขาย ไม่มีคนซื้อไปอ่าน


 


เชื่อไหม-ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจดี


คนบางคนก็ยังเลือกที่จะเดินอยู่บนเส้นทางสายนี้ เพราะใจรัก ทั้ง ๆ ที่มีโอกาสที่จะเลือกเส้นทางสายอื่นที่ราบรื่นและมีความหวังที่แน่นอน แต่พวกเขาก็ไม่สนใจ เธอจึงเป็นหนึ่งในจำนวนผู้กล้าหาญอันน้อยนิด ที่ผมเฝ้ามองดูด้วยความชื่นชมและนับถือโดยปราศจากข้อกังขา ยิ่งเดี๋ยวนี้ผมได้ยินข่าวว่าเธอกำลังลงมือเขียนนวนิยาย ผมยิ่งอยากให้เธอโชคดีเดินไปสะดุดขุมทรัพย์ที่หาได้ยากแสนยากบนเส้นทางสายนี้ เพราะชื่อเสียงที่เธอได้รับจากการทำงานที่ต่อเนื่องและมีคุณภาพ เธอได้รับมาเพียงพอแล้ว และเธอเองก็คงรู้ดีว่าชีวิตที่มีแต่ชื่อเสียงในสังคมที่เงินเป็นใหญ่นั้น มีความหมายต่อชีวิตมากน้อยเพียงใด.