Skip to main content

นิทานคลายเครียดปนหยัน แด่...ประเทศไทย

คอลัมน์/ชุมชน


ภาพประกอบ โดย วัชระ สุขปาน


 


 


สัปดาห์นี้ ผมขอเว้นวรรคเรื่องการเมืองบ้างดีกว่า หลังจากมีความรู้สึกว่าตัวเองเริ่มเครียดเหมือนคราวก่อนอีกแล้ว


           


"ถ้าไม่รู้จักผ่อนคลาย เอ็งต้องไปโรงพยาบาลซ้ำสองอย่างแน่นอน" เสียงข้างในตะโกนบอกกับตัวเอง


           


ในคืนสงบจนสงัด,ผมหยิบหนังสือ "ดุลยภาพแห่งชีวิต" ของ "ตาร์ถัง ทุลกูล" นักเขียน นักบวชชาวทิเบต เขียน (วัชรา ทรัพย์สุวรรณ แปล สำนักพิมพ์โกมลคีมทอง จัดพิมพ์) ออกมาอ่าน แล้วทำให้ชีวิตผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย


           


เมื่อพลิกอ่านไปเรื่อยๆ เจอนิทานเรื่องหนึ่ง


เป็นนิทานเกี่ยวกับพี่น้องสองคนอยู่เรื่องหนึ่ง  คนแรกเป็นคนไม่ดีแต่ว่าฉลาด  อีกคนหนึ่งหัวดื้อและโง่  วันหนึ่ง ขณะที่สองพี่น้องกำลังวิ่งเล่นกันอยู่  พี่ชายสกปรกเกิดอยากเล่นสนุกสนานขึ้นมาจึงชวนน้องว่า  "นายคอยอยู่ที่หุบเขานี้นะ  ฉันจะวิ่งขึ้นไปบนภูเขาแล้วส่งของขวัญก้อนใหญ่มาให้นาย มันจะทำเสียงเหมือนหนังหมูย่างเลยล่ะ  แต่นายต้องถือมันไว้จนกว่าฉันจะลงมาหานายนะ"


           


แล้วพี่ชายก็ขึ้นไปบนภูเขา เลือกเอาหินก้อนใหญ่สีขาวก้อนหนึ่งมาเผาจนร้อนแดง  แล้วกลิ้งลงมาจากภูเขา พลางร้องตะโกน...


           


"เฮ้! นาย  ฉันส่งของขวัญลงมาแล้ว รับไว้นะ แล้วอย่าเพิ่งปล่อยจนกว่าฉันจะกลับมา"


           


น้องชายผู้โง่เขลา  ห่วงของขวัญมาก  จึงวิ่งไปรับก้อนหินมา ทำให้เสื้อขนสัตว์ที่เขาสวมอยู่จึงไหม้ไฟและมีเสียงราวกับหนังหมูย่างไฟ  ก้อนหินทำให้หนังสัตว์ไหม้และไหม้ถึงตัวเขาด้วย แต่เขายังไม่ยอมปล่อย  เขาคิดว่าก้อนหินนั้นมีค่า จึงพูดกับก้อนหินว่า "ไม่ว่าแกจะทำอะไรฉัน  ฉันจะไม่ยอมปล่อยแกหรอก จนกว่าพี่ชายฉันจะกลับมา"


           


แล้วเขาก็จับมันไว้ต่อไปอย่างดื้อรั้น  เพราะเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขา.


 


ผมอ่านนิทานเรื่องนี้แล้ว  อดครุ่นคิดไปต่างๆ นานา และนึกไปถึงสถานการณ์การเมืองในห้วงขณะนี้ ในยามที่บ้านเมืองกำลังคุกรุ่น ในยามที่คนไทยกำลังแบ่งแยกแบ่งฝ่ายกันระหว่างคนเกลียดทักษิณ กับคนรักทักษิณ


           


ฝ่ายหนึ่งตะโกนขับไล่ให้ออกไป  อีกฝ่ายหนึ่งกลับเรียกร้องเชิดชูให้อยู่ต่อ...ยังไงข้าก็เชื่อพี่ชายของข้า... ยังไงข้าก็เชื่อว่าก้อนหินนั้นมีค่า


 


เอ...หรือว่าก้อนหินก้อนนั้น คือก้อนหินประชานิยม...


           


เอาอีกแล้ว เริ่มวกไปหาเรื่องเครียดอีกแล้ว ปล่อยวาง...ช่างมันเถอะ


...หยุดผ่อนคลายกันต่อ  มาอ่านนิทานอีกเรื่องหนึ่งดีกว่า... 


 


มีมิ่งมิตรคนหนึ่ง ส่งนิทานเรื่องนี้มาให้ผมผ่านทางอีเมล พร้อมบอกด้วยว่า นิทานเรื่องนี้แปลมาจากหนังสือของชาวต่างชาติ


           


ลองอ่านกันดูครับ...                                                                                      


 


กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เมื่อครั้งที่พระเจ้าผู้สร้างโลก  พระองค์มีถุงหนังใบใหญ่เอาไว้ใส่ของวิเศษต่างๆ พระองค์เริ่มต้นด้วยการสร้างมหาสมุทรทั้ง 7 โดยการวางของวิเศษของพระเจ้า  พระองค์จะต้องวางทั้งของดีและของไม่ดีคู่กันไป  เพื่อไม่ให้ประเทศหนึ่งประเทศใดสมบูรณ์ไปกว่าประเทศอื่นๆ                                                                                                                              


พระเจ้าทรงเอาเทือกเขาร็อกกี้ น้ำตกไนแองการ่าวางไว้ให้อเมริกา


แล้วก็เอาทะเลทรายอริโซน่ากับพายุทอนาโดวางไว้ด้วย                                                                                                


พระเจ้าทรงเอาป่าอะเมซอนวางไว้ให้บราซิล แล้วก็ทรงเอาไข้ป่าวางไว้ให้ด้วย                             


พระเจ้าทรงเอาขั้วแม่เหล็กโลกวางไว้ให้แคนาดา แต่ก็ทรงเอาความหนาวเย็นวางไว้ให้                       


พระเจ้าทรงเอาเทือกเขาหิมาลัยให้ธิเบตกับเนปาล เพื่อเป็นปราการกั้นข้าศึก แต่ก็เอาความเบาบางของอากาศและความแห้งแล้งไว้ให้                                                                              


 


ทุกประเทศจะได้ของคู่กันแบบนี้ ทั้งหมดจึงไม่มีประเทศใดน้อยหน้ากว่ากัน
           


คราวนี้ พระองค์ทรงลืมประเทศรูปขวานเล็กๆ ทางแหลมอินโดจีน ทรงสะพายถุงวิเศษ แล้วก้าวข้ามเขาหิมาลัยไป แต่ด้วยความที่ภูเขาสูงมาก และได้เกี่ยวถุงของพระเจ้าขาด ข้าวของที่ดีๆ ที่เตรียมเอาไว้ให้ประเทศอื่นๆ เช่น ชายหาดสวยๆ ผืนดินอุดมสมบูรณ์ ศิลปวัฒนธรรมอันดีงาม อาหารอร่อยที่สุดในโลก ดอกไม้ ผลไม้ ชายทะเล ก็เทไปกองรวมกันที่ประเทศไทยหมด


           


"ว้า...แย่แล้ว!  สงสัยประเทศนี้ท่าทางต้องเจริญกว่าประเทศอื่นๆ ทั้งหมดแน่..."พระเจ้าทรงอุทานพร้อมครุ่นรำพึง...                                                                                                                    


พระเจ้าทรงมองหาภัยธรรมชาติที่จะมาถ่วงดุล แต่สายเสียแล้ว พระองค์ทรงเอาภูเขาไฟ กับแผ่นดินไหวให้ญี่ปุ่นไปแล้ว
           


"ทำยังไงดีละ...ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ ประเทศอื่นๆ จะมาฟ้องร้องเราได้ว่าพระเจ้าไม่ยุติธรรม" พระเจ้าทรงครุ่นคิดหาวิธีการ
           


"จะมีภัยธรรมชาติอันใดหนอ...ที่จะทำให้ประเทศไทยไม่เจริญกว่าประเทศอื่นๆ ได้!?" เมื่อทรงคิดได้เพื่อเป็นการป้องกันประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ ไม่ให้ล้ำไปกว่าที่อื่นๆ พระองค์ก็เลยสร้าง "คนไทย" ขึ้นมา


           


"ถ้ามีคนไทยอยู่ละก็ ต่อให้สมบูรณ์แค่ไหน ไทยก็ไม่มีวันเจริญ" พระเจ้าทรงบอกกับตัวเอง...


           


อ่านแล้วรู้สึกยังไงกันบ้างครับ...นิทานที่คนต่างชาติแต่งขึ้นมาเพื่อล้อเลียนคนไทยและประเทศไทย


แต่ผมอ่านแล้วรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ แสบๆ คันๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ


ท่ามกลางบรรยากาศความขัดแย้งของสังคมไทยในห้วงขณะนี้.