ความงามแห่งแรงบันดาลใจ
คอลัมน์/ชุมชน
หากเช้าวันหนึ่งเราได้พบว่า...เมื่อแสงแรกแห่งตะวันส่องลอดผ่านม่านเมฆและทิวไม้สาดลงมากระทบหยดน้ำค้างบนยอดหญ้า หากเมื่อเราได้ยืนอยู่ในมุมที่เหมาะสมนั้น เราจะได้พบ หยดน้ำค้างที่ต้องแสง สะท้อนทอประกายระยับ นั่นก็คงเป้นความงามอันวิจิตร ของธรรมชาติที่เป็นไป ความงามที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ซึ่งก็มีผู้คนพูดถึงมันมากมาย จนแทบจะกลายเป็นภาพธรรมดาไปเสียแล้ว แต่เมื่อเราเห็นเช่นนั้นแล้ว เราก็อาจจะปรารถนาที่จะเห็นมันอีก และเมื่อวันเวลาผ่านไป ภาพนั้นจะดำรงอยู่ ในทุกที่ ทุกเวลา
เช้าวันหนึ่ง....พวกเราหลายคนออกไปเดินเล่นตามปรกติ ในเส้นทางที่เราเดินกันประจำ เช้าวันนั้น มีบางอย่างที่ต่างออกไป บนยอดเขาเรามองเห็นพื้นที่อีกมุมเมืองมีฝนตกลงมา มืดครึ้ม การเดินของเรายังไม่จบ เมื่อฝนค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาหาเราทีละน้อย แล้วสักพัก เราก็ได้เดินอยู่ในสายฝนที่หนาหนัก นานมาแล้ว...ในความรู้สึกของเราที่เราไม่ได้เดินอยู่ในสายฝนเช่นนี้ นานเพียงใดกันหนอที่เราไม่ได้เล่นน้ำฝนอย่างสนุกสนาน วิ่งเล่นตากฝนจนเปียกปอน นานเพียงใดแล้วที่เราต้องวิ่งหลบฝนทุกครั้งที่ฝนตก นานเพียงใดแล้วที่เราเชื่อว่า ถ้าเราตากฝนเราจะเป็นหวัด ความเป็นผู้ใหญ่ทำให้เรากลัวฝนหรือไร หรือการตากฝนจะทำให้บุคลิกภาพความเป็นผู้ใหญ่ของเราสูญเสียไป เช้านั้น...เราไม่มีทางเลือกอื่นอีก นอกจากต้องเดินตากฝน เราจึงมีโอกาสได้ตากฝนอย่างมีความสุขอีกครั้ง ไม่นานต่อมา ในหนทางบางตอนในระหว่างทางของเรา ตะวันก็ได้โผล่ดวงลอยอยู่หลังม่านเมฆและสายฝน สาดแสงบางๆ ลอดลงมากระทบกับผืนน้ำบางๆ ที่ไหลอาบถนน แสงที่สะท้อนขึ้นจากพื้นขับแสงเปล่งเป็นสีทอง ทอประกายในสายฝนที่เริ่มจะซาเม็ด
...นั่นเป็นภาพที่งดงามที่สุดของเช้าวันนั้น และนี่ก็เป็นการเริ่มต้นวันอันน่ารื่นรมย์
ในวันที่สายแดดระอุอบอ้าวหนักหนา ขณะเรามุ่งหน้าสู่หมู่บ้านกลางขุนเขาเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายจนเปียกชื้นด้วยความเหน็ดเหนื่อย ภูเขาสูงขึ้น สูงขึ้น ความรู้สึกบางคราวประหนึ่งว่าภูเขานั้นจะไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานก็ยิ่งอ่อนล้า จวบเมื่อบรรลุถึงลำห้วยกลางภูเขา สายน้ำใสไหลเอื่อยๆ สัมผัสได้ถึงความเย็น สดชื่นของสายน้ำ เราได้แต่วักน้ำดื่มและล้างหน้า ให้หยดน้ำไหลชโลมใบหน้าที่อาบเหงื่อมาก่อนหน้านี้ และกระเซ็นสู่ผิวกายในบางส่วน เย็น...สดชื่น...ทำอะไรไม่ได้แล้วเราได้แต่นั่งลงจ่อมจมกับความปิติอิ่มเอมของสายน้ำ ความสดชื่น และบรรยากาศรอบๆ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดหายไป เม็ดเหงื่อหายไปแล้ว ชีวิตช่างเป็นสุขอะไรเช่นนี้ เช่นนั้นเอง ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เราได้เริ่มต้นเดินทางบนภูเขา อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง เพียงเพื่อจะได้เสพสุนทรียสุข กับความเหน็ดเหนื่อยนั้น
ในวงสนทนาของหมู่กัลยาณมิตร หนแล้วหนเล่า เรื่องราวมากมายถูกถ่ายเทลำเลียงออกมาเรื่องแล้วเรื่องเล่า ในเรื่องราวเหล่านั้นมักถูกบันทึกไว้ในพื้นที่อันงดงามของทรงจำ มันสมบูรณ์แบบในแบบฉบับของเรื่องเล่าแตะละเรื่อง ในภาวะนั้น เรื่องราวจึงมิได้เป็นเพียงเรื่องราว แต่เรื่องราวมันเป็นเรื่องเล่าที่บอกกล่าวความหมายมากมายของชีวิตคนผู้หนึ่ง มันเป็นประสบการณ์ที่มีชีวิตโลดแล่นอยู่ในกาลเวลาอันเป็นนิรันดร์ หลายหนมันมักฉุดนำเราไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ๆ ในจิตวิญญาณของตัวเอง
ทั้งหมดนี้มันคือประสบการณ์ที่เราจะได้สำรวจตรวจสอบการเติบโตของจิตวิญญาณของตัวเอง ..
หรืออย่างไร....