บ้านดาวรักดิน บ้านของนักเขียน 5 : ขึ้นหลังคาแล้ว
คอลัมน์/ชุมชน
อ้ายแสงดาว มีพี่สาวน่ารัก เธอเดินมาดูบรรดาคนงานสร้างบ้านเสมอ และเย็นวันหนึ่งเธอก็พูดขำ ๆ ว่า
"คนแถวนี้เขาว่า ทำบ้านอะไรกัน เย็นๆ รถจอดเต็มไปหมด หลังคาบ้านไม่ขึ้นสักที" วันนี้หลังคาขึ้นแล้ว อ้ายแสงดาวบอกว่า กระเบื้องมุงหลังคา "วดีลดา" นักเขียนและครูอนุบาลเธอให้มา
บ้านดาวรักดินใกล้จะเสร็จแล้ว วันนี้ครบหนึ่งเดือนเป็นวันทำสี ฉันเพิ่งรู้ว่า สีที่ทาก็เอามาจากดินหรือเรียกว่าทำสีจากดิน ดังนั้น บ้านดินแต่ละหลังสีจะไม่เหมือนกันแล้วแต่สีของดิน
วันนี้มือทาสีมีกันหลายคนที่เดียว เตรียมดินแช่ ไว้ในโอ่งจนนิ่มจากนั้นก็เอามากรองด้วยผ้าขาวบีบดินเละ ๆ ออกมา
หญิงสาวชื่อ "กบ" กวนแป้งเปียก เพื่อเอาไปผสมลงในดิน เขาบอกว่าต้องเอาแป้งเปียกลงไปคนด้วยเพื่อให้เหนียวได้ที่ กบใช้หม้อขนาดใหญ่ต้มน้ำกวนแป้งเปียกเป็นระยะ ๆ เท่าที่คนผสมดินจะต้องการ วันนี้เธอคงกวนแป้งเปียกทั้งวัน
ทุกอย่างของการทำบ้านดินต้องใช้มือและตีนเท่านั้น เอามือกอบและป้ายลงไปบนผนังลูบแรง ๆ ให้สีติด พวกมีฝีมือสร้างงานศิลปะก็ทำการตกแต่งผนัง มีรูปครุฑอยู่ที่ผนังด้านหนึ่ง รูปแสงดาวถือจอกไม้ไผ่ เชิงเทียนติดผนังด้านนอกเป็นระยะ ชั้นวางหนังสือที่ทำด้วยไม้ไผ่ ห้องนอนของแสงดาว มีเตียงที่ทำด้วยดิน และตู้เสื้อผ้าดินด้วย
"เอก" หนุ่มน่าสนใจและเป็นกำลังสำคัญอีกคนหนึ่งของบ้านแสงดาว หนุ่มเอกตั้งใจว่าเสร็จจากบ้านแสงดาวแล้วเขาจะสร้างบ้านดินของตัวเองที่สันกำแพงต่อ
บ้านดาวรักดินเสร็จแล้ว มีการเลี้ยงขอบคุณ และเลี้ยงส่งนาโก๊ะลีเดินทางต่อไป เขาตั้งใจจะไปฝึกมวยจีน และเรียนรู้วิธีการรักษาสุขภาพจากมวยจีน ส่วนแสงเดือนเธอออกเดินทางไปแล้วก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น เธอตั้งใจจะไปบนดอยสูงแถวแม่แจ่ม อมก๋อย
จากนี้ไปบ้านดาวรักดินจะเงียบเหงาไหม
แสงดาว บอกว่า "ไม่เป็นไรอ้ายอยากโดดเดี๋ยวบ้าง แต่ยินดีที่จะพบเพื่อนฝูง เป็นช่วง ๆ ยินดีต้อนรับเพื่อนฝูงมาแบบไม่นาน แต่ถึงอ้ายอยากจะโดดเดี๋ยวเป็นคนอิสระแต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่ติดต่อกับเพื่อนฝูง อ้ายคิดว่าเรามีฐานที่มั่น อ้ายจะเอาจริงแล้ว มีเรื่องอยากเขียนเยอะในช่วง10 ปีนี้"