Skip to main content

แด่…..ต้นไม้ของประชา

คอลัมน์/ชุมชน

-1-


 


"ต้นไม้" ต้นนี้ อยู่คู่กับหมู่บ้านมานมนานหลายปี


"ชาวบ้าน" เฝ้าดูแล ให้ปุ๋ย ตัดหญ้าทั่วบริเวณ เพื่อให้ต้นไม้มีอายุยาวนาน มีรากที่หยั่งลึก มีใบเขียวขจี…


 


สำหรับชาวบ้านแล้ว ต้นไม้ เป็นเสมือนร่มเงาที่ช่วยให้ความร่มรื่นกับชาวบ้านหลายๆ คน


เช่นนี้เอง ชาวบ้านรุ่นแล้วรุ่นเล่า ต่างร่วมสามัคคี ช่วยกันทำนุบำรุงให้ต้นไม้เจริญเติบโตขึ้นมา
เพื่อให้ประโยชน์แก่ลูกหลานในภายภาคหน้า


 


ประโยชน์จากลำต้น- ที่นำมาสร้างบ้านเรือน, กิ่งไม้- ที่นำมาทำเป็นผืนก่อไฟให้ความอบอุ่นในยามหนาว


ใบไม้- ที่นำมาทำเป็นเพิงให้ความร่มเย็น บังแดดยามแผดร้อน, รากไม้- ที่นำมาฝนเป็นยารักษาโรคต่างๆ


และยังนับไม่ถึงประโยชน์อื่นๆ อีกหลายประการ


"ต้นไม้" ต้นนี้ จึงเป็นที่รักและผูกพันธ์กับเด็กๆ และชาวบ้านอย่างยาวนานสืบกันมาช่วยรุ่นหลายยุค


 


-2-


เมื่อ "ต้นไม้" มีประโยชน์มากมายเพียงนี้


ต้นไม้ จึงเป็นที่หมายปองของบรรดา "พ่อค้า" จากเมืองต่างๆ


ที่ต่างต้องการต้นไม้ไปขาย ไปใช้ประโยชน์เพื่อพวกเพื่อนพ่อค้าด้วยกันเอง


 


มีความพยายามของชาวบ้านที่ต่างช่วยกันปกป้องต้นไม้


แต่กลับทนต่อ "อำนาจ" ของ "พ่อค้า" ไม่ได้ เพราะเมืองแห่งนี้พ่อค้าคือผู้ดูแลและปกครองเมือง


ทว่าสิ่งที่พ่อค้ากลัวมากที่สุด หาใช่บรรดาชาวบ้าน ไม่


หากแต่เป็น "ผีวัชพืช"



คือ พ่อค้า ต่างต้องการต้นไม้ ไปใช้ประโยชน์ต่างๆ


แต่หากวันใดที่ ผีวัชพืชคืนชีพฟื้นขึ้นมา แล้วก็ทำให้ต้นไม้ตายลง และ "อำนาจ" ของพ่อค้าก็ต้องตกอยู่ท่ามกลางการดูแล ปกครองของผีวัชพืชเหล่านี้


 


สำหรับชาวบ้านแล้ว ต้นไม้คือ สิ่งที่อยู่คู่หมู่บ้านมาหลายชั่วอายุคน ตั้งแต่บรรพบุรุษในอดีตจนถึงรุ่นตน
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น "พ่อค้า" หรือ "ผีวัชพืช" ต่างก็ไม่ใช่สิ่งชาวบ้านต้องการทั้งสิ้น


แม้ว่า ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา จะเกิดการต่อสู้ระหว่าง "ผีวัชพืช" กับ "พ่อค้า" อยู่บ่อยครั้ง


แต่ ชาวบ้านก็ไม่เคยย่อท้อ และเหนื่อยเพลียต่อการปลูกสร้างต้นไม้ต้นใหม่ขึ้นมา ในหน้าผืนดินที่ต่างกันไป


 


-3-


10 ปีก่อน ที่ผ่านมา


ต้นไม้ต้นเดิมถูกทำลายลง ด้วยการแสวงหาประโยชน์และความขัดแย้งของ "พ่อค้า" และ "ผีวัชพืช"


จนชาวบ้าน ต้องร่วมมือกันหลายคนให้มีมากขึ้นและได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ บนหน้าดินใหม่มาอีกครั้ง



ในครั้งนั้นฉันยังจำได้ว่า ชาวบ้านต่างพากันนำเอา "ใบ" ของต้นไม้มาทำสัญลักษณ์เป็นรูป "ธง"


จนเป็นที่มาของ "ธงเขียว" ที่ร่วมสร้างพลังและศรัทธาของชาวบ้าน ที่จะปลูกสร้าง "ต้นไม้" ต้นใหม่ขึ้นมา


 


และในที่สุด เวลาผ่านไปไม่เพียงกี่ปี "ต้นไม้" ต้นใหม่ก็เกิดขึ้น บนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด เท่าที่เคยมีมา


ท่ามกลางการดูแลอย่างทะนุถนอมของชาวบ้าน ทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นกลาง รุ่นเล็ก


จนในที่สุด "ผีวัชพืช" ก็อยู่ในหลุมต่อไป และ "การหาประโยชน์จากต้นไม้ของ "พ่อค้า" ก็มีแรงของชาวบ้านในการเฝ้าระวังการหาประโยชน์มากขึ้นกว่าเดิม


 


-4-


10 กว่าปีให้หลังต่อมา
"ต้นไม้" ผ่านแดด ผ่านฝน บรรยากาศที่ร้อนหนาวต่างกัน ท่ามกลางฤดูกาลที่แปรปรวนไปตามสภาพ


ชาวบ้านมีการผลัดรุ่นขึ้นมาดูแลต้นไม้ต้นนี้


 


ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนต่างทำมาหากิน มีหนี้มีสิ้นมากขึ้น เพราะเศรษฐกิจของชุมชนที่เปลี่ยนไป


แต่ทว่า "พ่อค้า" ที่เข้ามาปกครองเมืองในปัจจุบัน "หัวใส" มากกว่าพ่อค้าเดิมๆ ในอดีต


เขาประกาศบอกกับชาวบ้านว่า "ต่อไปชาวบ้านจะไม่จน" มิหนำซ้ำเขายังบอกว่า "ต้นไม้เป็นเพียงเครื่องมือที่จะทำให้ชาวบ้านหายจน การดูแลต้นไม้ให้เติบโตไม่ใช่เป้าหมาย หากแต่ความรวยต่างหากคือเป้าหมายที่แท้จริง"


 


ชาวบ้านหลายคนที่มีหนี้สิน ต่างดีใจไปกับการประกาศของ "พ่อค้า" คนนี้ พร้อมทั้งเคารพ เชิดชู และนับถือ ไว้เนื้อเชื่อใจ เขามากขึ้น แต่ก็หารู้ไม่ว่า พ่อค้าคนนี้ กำลังเอาของดีๆ ในเมืองและหมู่บ้านไปขายให้กับ พ่อค้าต่างถิ่น


แถมยังเอาของแปลกๆ ใหม่มาให้ชาวบ้าน จนทุกคนหลงลืมไปกับกระแสลด แลก แจก แถม ของพ่อค้าคนนี้


 


วันหนึ่ง ชาวบ้านส่วนหนึ่งไหวตัวทันกับรูปแบบการหาประโยชน์จาก "พ่อค้า" คนนี้ ที่เริ่มไม่สนใจ ไม่แยแสต่อการดูแล ปกป้องต้นไม้ จนทำให้ใบไม้เริ่มแห้งเฉา ชาวบ้านจากที่เคยดูแลต้นไม้กลับเปลี่ยนไป แบ่งเป็นสองฟาก


ฟากหนึ่ง - ไม่สนใจต่อการดูแลต้นไม้ เพียงแค่รอการ "ให้" จากพ่อค้า
ฟากหนึ่ง - ไม่พอใจพ่อค้า และต้องการดูแลต้นไม้มากกว่าเดิม จนต้องไล่ "พ่อค้า" คนนี้ออกนอกเมือง


 


จนในที่สุด ความขัดแย้งของชาวบ้าน เกิดปะทะกันมากขึ้น


"พ่อค้า" บอกกับอีกฟากหนึ่งที่ไม่พอใจตัวเขาว่า "เขาจะรักษาต้นไม้นี้ไว้จนชีวิตจะหาไม่"


ชาวบ้านเริ่มแบ่งฝ่าย ทำร้ายกัน ใช้ความรุนแรงเข่นฆ่ากันมากขึ้น


ขณะที่ต้นไม้ก็เริ่มแห้งเฉา เพราะไม่มีน้ำคอยล่อเลี้ยง ไม่มีปุ๋ย


ผู้คนต่างอ้างว่า "รัก" ต้นไม้ เพื่อที่จะให้พ่อค้าออกไปจากเมือง


แต่กลับไม่มีการตอบรับใดๆ จากพ่อค้า ที่ยัง "หน้าด้าน" อยู่ให้ชาวบ้านไล่ อยู่อย่างต่อเนื่อง


ทั้งยังจัดกลุ่มชาวบ้านอีกฟาก มาตะโกนให้กำลังใจตัวเอง


จนความขัดแย้งดำรงอยู่ ทำให้ชาวบ้านหลายคน เริ่มไม่เห็นหนทางที่จะทำให้ "พ่อค้า" ออกไปจากการปกครองเมืองได้เลย


 


-5-


เวลาแห่งความขัดแย้งผ่านมาหลายเดือนแล้ว


"พ่อค้า" ยังหน้าชื่นตาบาน ไม่สนใจต่อกระแสต่อต้านตัวเอง และยังปกครองเมืองต่อไปเรื่อยๆ


จนค่ำคืนหนึ่งที่ "พ่อค้า" ออกไปทำธุระนอกเมือง


 


"ผีวัชพืช" ซึ่งรอจังหวะยึดอำนาจคืนจากพ่อค้า


ก็ฟื้นคืนชีพ ออกมาจากหลุมอีกหน


จนสามารถเข้ายึดอำนาจจากพ่อค้าได้สำเร็จ


และ ผีวัชพืชก็ได้ทำลายต้นไม้ที่เริ่มจะตาย ตีบตัน ให้ตายลง


พร้อมกับความเห็นที่แตกต่างของชาวบ้าน


 


ที่ฟากหนึ่ง - เห็นด้วยกับสิ่งที่ผีวัชพืชทำ เพราะทนไม่ไหวกับสภาพเมืองที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง และหาทางออกที่จะไล่พ่อค้าออกจากการปกครองเมืองอย่างไร


และฟากหนึ่ง - ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผีวัชพืชทำ เพราะทำลายต้นไม้ ที่ชาวบ้านดูแล ทำนุบำรุงมาช่วยอายุคน เริ่มมีใบและกิ่งก้านที่งดงาม มีรากที่หยั่งลึก แต่ต้องทำลายต้นไม้ทิ้ง เพียงแค่ต้องการกำจัดพ่อค้าเท่านั้น


 


มาถึงวินาทีนี้ ชาวบ้านหลายคนก็ต้องยอมรับกับการกับมาของ "ผีวัชพืช" ที่ทำลายต้นไม้ต้นเดิมทิ้งและยังบอกกับชาวบ้านบ้านว่าจะสร้างต้นไม้ต้นใหม่ให้กับชาวบ้านในเร็ววัน


พร้อมทั้งจะตามลงโทษพ่อค้าที่หาประโยชน์จากเมืองและต้นไม้มากเกินไป ให้จงได้


 


สำหรับฉันแล้ว ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของ "สิ่งที่มีอำนาจ" นั่นคือ "พ่อค้า" กับ "ผีวัชพืช"


ส่วนชาวบ้านก็เป็นเพียงแค่คนที่รอคอยการต่อสู้เพื่อบำรุงต้นไม้ที่รักและศรัทธา


ให้ต้นไม้เติบใหญ่ มีกิ่งก้านที่แพร่ขยาย มีใบที่เขียวขจี มีรากที่หยั่งลึกในผืนดิน


แต่มาถึงวันนี้ ต้นไม้ ที่เริ่มจะเติบใหญ่ กลับต้องตายลงด้วยน้ำมือของ "ผีวัชพืช"


เป็น "ผีวัชพืช" ที่ "ไม่เคยตาย" จากเมืองจริงๆ


 


-6-


ฉันก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง


ที่เติบใหญ่มากกับการที่ชาวบ้าน ต่างรักและสามัคคีกัน ดูแล "ต้นไม้" ร่วมกัน


แต่ความขัดแย้งระหว่าง "ชาวบ้าน" กับ "พ่อค้า" มันยาวนานและยืดเยื้อเกินไป


และขยับมาสู่ ความขัดแย้งของ "พ่อค้า" กับ "ผีวัชพืช"


จนทำให้ในที่สุด "ชาวบ้าน" ก็มาขัดแย้งกันเสียเอง


 


วันนี้ชาวบ้าน ต้องร่วมมือกัน คิดถึงหนทางอนาคตข้างหน้าอีกครั้งว่าจะดูแลและบำรุงให้ "ต้นไม้" ต้นใหม่อย่างไร
ไม่ให้เกิดเรื่องราวที่ซ้ำรอยเดิม เหมือนเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น ณ วันนี้


วันนี้ที่ "ผีวัชพืช" ฟื้นคืนชีพ มาทำลายต้นไม้ของเมือง ของชาวบ้าน ของทุกๆ คน


และอีกด้านชาวบ้านต้องร่วมกันรู้ทัน บรรดาพ่อค้า หัวใส หน้าใหม่ๆ


ที่จะขึ้นมาปกครองเมืองแทนพ่อค้าหน้าด้าน คนเดิม


 


ยังไงก็ดี บรรยากาศวันนี้


"ผีวัชพืช" ก็ไม่ได้เลวร้าย น่ากลัวไปเหมือนแต่ก่อน เพราะ เด็กๆ หลายคน ต่างบันทึกภาพของตัวเองกับผีเหล่านี้อย่างสนุกสนาน จนชาวเมืองต่างถิ่น


แปลกใจว่า เด็กๆ เมืองนี้ไม่กลัวผีวัชพืชกันหรือยังไง


 


มาถึงตรงนี้


เรื่องราววันข้างหน้าคงจะอีกยาวไกลอยู่มาก  อะไรจะเกิดขึ้นอีก เราไม่มีวันรู้ได้เลย


สิ่งที่เราจะทำได้ในทุกวันนี้ คืออะไรกันละ 


จะเฝ้าดูการแก่งแย่งอำนาจ และการทำลายต้นไม้ เท่านั้นหรือ?


หรือจะสงบยอมต่อการปกครองของผีวัชพืชกันล่ะ


 


ชาวบ้านจะบอกกับเด็กๆ รุ่นหลังอย่างไร…….. เมื่อต้นไม้ที่ปลูกมาไม่ทันไร ต้องล้ม ตายแล้วตายเล่าอยู่เสมอๆ


หากเป็นเช่นนี้อีกบ่อย ชาวบ้านคงต้องหา "หน้าดิน" ใหม่ไปเรื่อยๆ
เพื่อรอวันจะปลูกต้นไม้ใหม่ๆ อย่างไร้ "จุดยืน" ที่มั่นคง แน่นิ่ง


ในยามที่ ผีวัชพืชคืนชีพ……….…..อีกครา


 


แด่ต้นไม้ประชาธิปไตยและการเติบโตในวันพรุ่ง


นครพิงค์, สยามประเทศ


20 กันยายน 2549