งานวันเด็กที่ไม่เหมาะสำหรับลูกคุณ
คอลัมน์/ชุมชน
วันนี้ภาพข่าวฮิต สกู๊ปฮอตของสื่อคือ ข่าวของเด็ก ๆ ที่ไปป่ายปีนรถถัง แอ็คท่าถ่ายรูปกับทหาร บางคนพี่ ๆ ทหารพาลงไปนั่งเล่นในรถถังด้วยความสนุกสนาน ยิ่งสื่อเสนอข่าวมากเท่าใด ผู้คนต่างก็พากันแห่ไปดูมากเท่านั้น
ลองดูตัวอย่างสิ่งที่สื่อเสนอ Bangkok Post วันนี้ (25 กันยายน) ลงภาพหน้าหนึ่งเป็นเด็กผู้ชายวัยสัก 6 -7 ขวบ ใส่ชุดทหาร หมวกทหาร สวมแว่นดำ ถือปืนพลาสติก ยืนถ่ายรูปอยู่ข้างรถถัง คำบรรยายรูปบอกว่า เด็กที่กำลังเล่นเป็นทหารคนนี้ กำลังถ่ายรูปกับรถถังใกล้ ๆ วัดเบญจมบพิตร !
เดลินิวส์ วันเดียวกันลงภาพเด็กผู้ชายคนหนึ่งขึ้นไปนั่งอยู่บนรถจี๊บติดปืนกล มีผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นคุณพ่อยืนอยู่ข้าง ๆ รถ คนที่กำลังนั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับดูจะเป็นคุณแม่ ด้านหลังเป็นทหารนายหนึ่งยืนประจำที่หลังปืนกลนั้น ครอบครัวดูจะเต็มไปด้วยความสนุกสนานอยู่เบื้องหน้าปืนกลที่พร้อมจะยิงได้เสมอ ! อีกภาพเป็นทหารอุ้มหนูน้อยวัยแบเบาะไว้บนตัก อีกด้านหนึ่งของหนูน้อยขนาบด้วยปืนกล ! ที่ประดับด้วยดอกกุหลาบสีขาว สีชมพู มีสีแดงแซมอยู่หนึ่งดอก สวยงามน่ารักเสียนี่กระไร อีกภาพที่ดูเผิน ๆ เหมือนจะน่ารักเหลือเกิน คือเด็กผู้ชายตัวน้อยใส่ชุดทหาร ถือปืนกลพลาสติก มือซ้ายจับด้ามปืน มือขวาเหนี่ยวไก ยืนถ่ายรูปกับลุงทหารตัวจริง ฉากเบื้องหลังเป็นรถถัง !
วัลลภ ตังคณานุรักษ์ เขียนบทความในมติชนฉบับวันเดียวกันโดยให้ชื่อบทความว่า "ปฏิวัติที่งดงาม" ครูหยุยผู้มีชื่อเสียงในการทำงานกับเด็ก บอกว่าการปฏิวัติครั้งนี้ "ได้รับความยินดีจากประชาชนอย่างล้นหลาม ดังภาพปรากฏในข่าวที่ประชาชนหลั่งไหลมอบดอกไม้ มอบผ้าเย็นให้กำลังใจ รวมถึงหอบลูกจูงหลานไปร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันทั่วไป" และสิ่งที่ "งดงามอย่างยิ่ง" ก็คือ "เป็นการปฏิวัติที่เรียบร้อย ไม่มีการปะทะและเสียเลือดเสียเนื้อแต่อย่างใด" !!!???
"นี่เป็นการปฏิวัติที่คลาสสิก" "ไม่เหมือนการปฏิวัติ แต่เหมือนงานวันเด็ก" "นี่เป็นปฏิวัติสีชมพู" แล้วอย่าลืมว่าท่านจะไปชมรถถังได้ที่ไหนบ้าง ที่ไหนที่ไม่มีแผงกั้นท่านระหว่างรถถัง ซึ่งจะทำให้ท่านสามารถป่ายปีนรถถังได้ประหนึ่งว่าท่านเป็นเจ้าของรถถังนั้นเอง !!! นี่คือเสียงที่มาจากสื่อโทรทัศน์
ยังไม่จบเท่านั้น วันอาทิตย์ ฉันหลบไปภาวนากับกลุ่มเพื่อนที่พุทธมณฑลเพื่อไปให้ไกลจากภาพรถถัง เด็ก ปืน และดอกไม้ แต่ในพุทธมณฑลที่มีพ่อแม่พาลูก ๆ มาพักผ่อนมากมายในวันหยุด กลับมีกองกำลังทหารและรถทหารติดปืนกลมาตั้งค่ายพักอยู่ ภาพนี้ฉันเห็นกับตา--ในมณฑลของพระพุทธองค์
นี่เป็นการปฏิวัติที่เรียบร้อย ไม่มีการปะทะและเสียเลือดเสียเนื้อแต่อย่างใด อย่างที่ครูหยุยและอีกหลาย ๆ คนว่าจริงหรือ ?
ใช่ ยังไม่มีการยิงปืนขึ้นแม้แต่นัดเดียวในวันนี้ นี่เป็นเพราะอีกฝ่ายยังไม่ลุกขึ้นมาสู้ แต่ถ้าอีกฝ่ายลุกขึ้นมาสู้เล่า น้อง ๆ หนู ๆ ในชุดทหารนั่นแหละจะเป็นผู้ที่เสียเลือดเสียเนื้อก่อนใคร (กรณีนี้ยังมีความเป็นไปได้ เพราะถ้ารู้แน่นอนว่าอีกฝ่ายจะไม่สู้ ป่านนี้ทหารและรถถังก็คงกลับกันไปหมดแล้ว ไม่ต้องมาอยู่ประจำให้เต็มเมืองกันอย่างนี้หรอก)
พ่อ ๆ แม่ ๆ คะ พาลูก ๆ กลับบ้านไปเถอะค่ะ เพื่อความปลอดภัยของชีวิตลูก ๆ ท่านเอง
ใช่ ยังไม่มีใครบาดเจ็บทางร่างกาย แต่สังคมของเราโดยเฉพาะเด็ก ๆ สั่งสมความรุนแรงทางใจไปมากเท่าไรแล้ว เพื่อนร่วมงานสันติวิธีคนหนึ่ง บอกกับฉันว่า เขาเป็นห่วงว่าการปฏิวัตินี้จะเป็นการปลูกฝังค่านิยมความรุนแรงให้กับเด็ก ๆ จนเด็ก ๆ แยกแยะไม่ออกระหว่างความรุนแรงและชีวิตปกติธรรมดา ความรุนแรงจะกลายเป็นความธรรมดาสำหรับพวกเด็ก ๆ แล้วพวกเขาก็จะเรียนรู้ซึมซับการแก้ปัญหาด้วยกำลัง ใครมีกำลังมากกว่าก็เอาชนะได้มากกว่า
ใช่ค่ะ งาน (คล้าย) วันเด็กที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยรถถังจริง ปืนจริง และกระสุนจริง ! เตรียมพร้อมเด็ก ๆ ของเราสำหรับความรุนแรงในวันหน้าแล้ว !
ทักษิณถูกต่อต้านเพราะเขาใช้ความรุนแรงและนิยมอำนาจเบ็ดเสร็จ อันก่อให้เกิดปัญหาไว้อย่างมากมาย แต่ตัวทักษิณเองก็เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งที่ความรุนแรงปรากฏตัวออกมา ฐานรากอันเข้มแข็งของภูเขาลูกนี้คือสังคมที่นิยมความรุนแรง และพร้อมจะสนับสนุนการกระทำอันรุนแรงของผู้มีอำนาจ การปฏิวัติก็เป็นเพียงการเปลี่ยนยอดภูเขาจากทักษิณแล้วเอาปืนเอารถถังมาตั้งแทน -- ให้เด็ก ๆ ของเราออกมาป่ายปีนเล่น
นี่เรากำลังสร้างทักษิณน้อย ๆ อีกนับร้อยนับพันคนขึ้นมาใช่หรือไม่ ?
แล้วฐานรากแห่งความรุนแรงนี้จะอยู่กับเด็ก ๆ ไปอีกนานเพียงใด ?
แล้วนี่คือสิ่งที่เรียกว่าความงดงามหรือคะครูหยุย ?
พ่อ ๆ แม่ ๆ คะ ไม่ว่าจะวันเด็กจริงหรือวันเด็กปลอม ก็อย่าพาลูก ๆ ไปชื่นชมอาวุธที่ไว้ใช้ทำลายล้างเลย พาน้อง ๆ หนู ๆ ไปถ่ายรูปกับพระพุทธรูปที่เต็มไปด้วยความสงบเย็นจะดีกว่า หรือไปปีนป่ายภูเขาในป่าเรียนรู้ธรรมชาติอันงดงาม กล่อมเกลาให้จิตใจพวกเขาอ่อนโยนจะดีกว่า
ถ้าเราช่วยกันทุก ๆ ครอบครัว ในอนาคตลูก ๆ ของเราจะได้เติบโตขึ้นมาบนรากฐานสังคมที่สงบเย็น ไม่ต้องมาพบพานกับการใช้อำนาจและความรุนแรงอีกแล้ว