Skip to main content

ตามไปทัวร์

คอลัมน์/ชุมชน

มาดูหนึ่งวันที่ฉันไปเที่ยวมากันนะคะ


 


วันก่อนมหาวิทยาลัยจัดไปเที่ยวหนึ่งวัน ฉันได้ยินว่าไปหลายที่ อาจารย์บอกที่แรกคือ ที่ฝึกซ้อมของปรมาจารย์หมัดมวยนามหวงเฟยหง ฉันคิดในใจว่าเคยแต่ดูในหนัง โห นี่เราจะได้ไปเยือนถึงถิ่นท่านเลยหรือเนี่ย ตื่นเต้นจัง


 


พอไปถึง ก็เห็นลานกว้างๆ ที่ไม่ใหญ่มากนัก มีผู้ชายจีนประมาณสิบคนฝึกซ้อมท่าบางอย่างกันอยู่ ฉันรีบไปจับจองที่นั่งด้านหน้ากะว่าจะได้ดูชัดๆ  เพราะตั้งแต่มาถึงเมืองจีนยังไม่ได้ดูการต่อสู้แบบสดๆ เลย


 



 


เริ่มด้วยการทักทายผู้ชมโดยมีเด็กหนุ่มรุ่นๆ ออกมารำมวยจีนประกอบดนตรี ท่าทางน่าสนุกมากค่ะ แต่ฉันคิดว่ามันยังธรรมดาอยู่  คงต้องมีอะไรน่าสนใจกว่านี้แน่ๆ เลย  และแล้วการแสดงที่สำคัญและเป็นการแสดงสุดท้าย (คือมีการแสดงแค่สองชุดนั่นเอง) ก็มาถึง นั่นคือการเชิดสิงโต (เอ๊ะ คุ้นๆ มั้ย) มีนักแสดงชายสองคนทำท่าทางอยู่ในเครื่องแต่งกายแบบสิงโต ทั้งกระโดดข้าม ก้มโค้ง ทรงตัวบนที่สูง เต้นไปมา ส่วนคนดูจะเห็นภายนอกที่เป็นสิงโตตัวหนึ่งกระโดดไปมาจากแท่งเหล็กตั้งที่เรียงต่อๆ กันเพื่อมารับเก็บของอย่างหนึ่งด้วยท่าทางน่าหวาดเสียว


 


ผู้ชมชอบใจและปรบมือกันมากเลยค่ะ ถ่ายรูปกันใหญ่ อืม ฉันเคยดูมาแล้วตั้งแต่เด็กๆ ที่เมืองไทย ไปที่ไหนก็มี ฉันเลยไม่ค่อยตื่นเต้นอะไรเท่าไหร่


 


จากนั้นเราก็เดินดูรอบๆ สถานที่ มีประวัติของหวงเฟยหง (ขอโทษค่ะ อ่านไม่ออกเพราะยากไป) เสื้อผ้า รูปถ่าย อาวุธต่างๆ  มีร้านขายยา และร้านขายของที่ระลึกแบบจีน (แบบเดียวกับที่เคยเห็นกันมาแล้วเช่นกัน)


 


ที่ต่อมาก็เป็นสถานที่ผลิตของที่ระลึกแบบประเภทหัตถกรรม ฉันขึ้นไปดูตั้งแต่การปั้นดิน วาดลาย ลงสี และร้านขายงานที่ผลิตสำเร็จแล้ว แต่ไม่ได้ซื้อมาสักชิ้น (เค้าไม่ให้ถ่ายรูปด้วย)


 



 



 



 


ฉันกับเพื่อนเริ่มเหนื่อยและเบื่อแล้ว แต่อาจารย์ว่ายังมีอีกที่หนึ่ง เอ้า ไปกันก็ไป


 



 


เรามาถึงวัดจีนวัดหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนเลย ฝั่งตรงข้ามเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ภายในวัดมีคนมาเที่ยวจำนวนมาก (จริงๆ ทุกที่เราก็จะเห็นคนมากเป็นปรกติแหละค่ะ) มีที่หนึ่งในวัด ฉันเห็นกล่องใหญ่ๆ ทรงเหลี่ยมตั้งอยู่ มีหลายคนพยายามโยนเงิน เหรียญเข้าไปในช่องสี่เหลี่ยมที่ถูกเจาะไว้ ตามความเชื่อที่ว่าถ้าโยนเข้าก็จะโชคดี  เดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะเห็นบ่อน้ำใหญ่ๆ มองลงไปเห็นเต่าว่ายน้ำอยู่เต็มไปหมดเลย ริมบ่อด้านหนึ่งมีรูปปั้นหินเต่าตัวใหญ่ตั้งอยู่ในน้ำ ผู้ชายคนหนึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาโยนให้เหรียญไปตกอยู่บนหลังเต่าหินนั่นให้ได้ แต่เท่าที่ฉันดู ส่วนใหญ่เหรียญจะกระเด็นตกลงไปในบ่อน้ำมากกว่า


 



 



 


เดินมาอีกหน่อย ที่นี่คนยืนกันอยู่เพียบเลยค่ะ ฉันเดินเบียดเข้าไปดู ถึงรู้ว่าเค้าดูการเชิดสิงโตกัน ฉันเห็นว่าวันนี้ดูแล้วเลยเดินเลยไปข้างใน ดูนั่นดูนี่เสร็จก็เดินออกมาอีกทาง ได้ยินเสียงคุ้นๆ ของคนเล่นดนตรีพวกกลอง ฉาบ เลยเดินไปดู


 



 


เชิดสิงโตอีกแล้ว ทำไมคนจีนชอบดูเชิดสิงโตกันจริงๆ คราวนี้ฉันลองยืนดูจนจบ เห็นตอนท้ายมีผู้ชมบางคนเดินยิ้มแย้มเข้าไปมอบเงินให้สิงโต แล้วรับกระดาษใบหนึ่งออกมาเก็บไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ตอนดูที่เมืองไทย ฉันรู้แค่ว่าจะมีการเชิดสิงโตกันในวันสำคัญเช่น วันตรุษจีน วันชาติ หรือวันเปิดร้าน เปิดกิจการใหม่ แต่วันที่ฉันไปเป็นวันสำคัญหรือมีงานอะไรหรือเปล่าฉันก็ไม่รู้แน่นัก ตอนนั้นแค่รู้สึกสงสัยและไม่เข้าใจที่หนึ่งวันได้เห็นการเชิดสิงโตถึงสามครั้ง


 


ฉันกลับมาหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการเชิดสิงโตของชาวจีน ทั้งถามเพื่อนคนจีนบ้าง หาข้อมูลเองบ้าง ถึงได้รู้ว่าการเชิดสิงโตหรือที่ชาวจีนเรียกกันว่า 舞狮 (wu3 shi1- อู่ซือ) นั้น เป็นการละเล่นที่นิยมกันมากในหมู่ชาวจีน ต้องอาศัยผู้แสดงที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี (แต่เพื่อนจีนสาววัยรุ่นบอกฉันว่า เดี๋ยวนี้ก็มีแต่พวกผู้ใหญ่ที่ยังชอบดูกันอยู่ ส่วนเด็กๆ ไม่ค่อยสนใจกันเท่าไรนัก) โดยเชื่อกันว่า สิงโตและเสือชาวจีนถือว่าเป็นราชาของหมู่สัตว์ทั้งหลาย มีทั้งกำลังและอำนาจ การได้ดูการเชิดสิงโตในวันสำคัญต่างๆ หรือในวันเปิดกิจการวันแรกและได้บริจาคเงินให้สิงโตจะทำให้โชคดี กิจการรุ่งเรือง อีกทั้งบางบ้านจะมีรูปปั้นสิงโตตั้งอยู่หน้าบ้าน บางคนเขียนคำว่าเสือติดไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความปลอดภัย ที่ว่าสิงโตและเสือจะช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายได้


 



 


ตอนกำลังจะก้าวข้ามเขตประตูวัดออกไป ฉันแหงนขึ้นมองด้านบน เห็นโคมไฟสีแดงห้อยอยู่ที่หลังคาวัด โคมเป็นสีแดงสวยดีเลยถ่ายรูปเก็บเอาไว้ ฉันมาฟื้นความจำได้ตอนนี้เองว่าโคมไฟสีแดงก็เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีที่ชาวจีนเชื่อถือเช่นกัน


 




 


ถึงวันนั้นจะเที่ยวไม่ค่อยสนุก แต่ปิดท้ายวันด้วยการเห็นของนำโชคสีสวยๆก็นับว่าดีอยู่เหมือนกันนะ.


 


********


 


เมื่อได้เห็นมา 


 


หลังสถานการณ์ร้อนๆ ในบ้านเมือง ฉันหวังว่าตอนนี้ทุกคนก็คงหายร้อนกันลงบ้างนะคะ อยู่ทางนี้ก็คอยตามข่าวอย่างเป็นห่วงไม่แพ้กัน เช้าวันที่หลังจากประกาศนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของพวกเราชาวไทย ฉันไปเดินเล่นนอกมหาวิทยาลัย เห็นที่ร้าน ขายหนังสือพิมพ์มีข่าวนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ความที่อยากรู้ว่าเค้าจะลงข่าวยังไง เลยซื้อมาฉบับหนึ่ง พอกลับถึงห้องก็พยายามใช้สมองอันน้อยนิด เปิดดิกชันนารีหาความหมายของศัพท์ในข่าวอยู่นาน ในที่สุดก็อ่านจนจบได้ (ทั้งที่กรอบไม่ใหญ่ นัก) เฮ่ออออ พบว่าข้อมูลก็เหมือนกับที่รู้มาแล้วจากเว็บข่าวไทยนั่นแหละ แต่เอาน่า ถือว่าได้ศัพท์การเมืองนอกตำรามาก็แล้วกัน


 



 



 


ภาษาจีนมีอย่างหนึ่งที่ฉันเรียนแล้วรู้สึกสนุก นั่นคือการออกเสียงคำต่างๆ ในภาษาต่างประเทศแบบสำเนียงจีน เช่น คำว่า McDonald (แม็คโดนัลด์ ของคนไทย) คนจีนเรียกว่า (mai4 dang1 lao2- ไม่ ตัง เหลา) หรือกรุงเทพฯของเราคนจีนก็เรียกว่า 曼谷 (man4 gu3 – ม่านกู่) ทีนี้อยากรู้กันไหมคะว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ คนจีนออกเสียงว่ายังไง เค้าออกเสียงว่า 素拉育 (su4 la1 yu4- ซู่ลายู่) ค่ะ