น้ำตาไหลกลางสายฝน ทุกข์ของคนจนที่ต้องสู้
คอลัมน์/ชุมชน
เป็นเวลาเดือนครึ่งแล้ว ที่ชาวบ้านปางแดง หมู่ที่ ๙ ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ถูกชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ ๑๑ หน่วยงาน นำโดยสำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ๑๖ จำนวนราว ๒๐๐ นาย เข้าล้อมหมู่บ้าน และจับกุมชาวบ้าน ๔๘ คน เป็นชาย ๓๔ คน หญิง ๑๔ คน ในช่วงเช้าตรู่ เวลา ๐๕ . ๓๐ น . ของวันศุกร์ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๗ ข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ | ||||||||||
ซึ่งตัวแทนชาวบ้านสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ เครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ เครือข่ายนักวิชาการ และสภาทนายความ ได้พยายามร้องขอความเป็นธรรมจากรัฐบาล แต่ยังไม่มีผลคืบหน้า | ||||||||||
| ||||||||||
กรณีถูกสังหารชีวิต ๒ ราย ได้แก่ นายเจริญ วัดอักษร แกนนำคัดค้านโรงไฟฟ้าบ่อนอก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกยิงเมื่อคืนวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๔๗ ผู้ใหญ่สุพล ศิริจันทร์ แกนนำอนุรักษ์ป่า ถูกยิงเมื่อคืนวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๔๗ | ||||||||||
กรณีชาวปะหล่อง ๔๘ คน ถูกจับกุม โดยหน่วยเฉพาะกิจ สนธิกำลังของหน่วยงานทหาร ตำรวจ พลเรือน ราว ๒๐๐ นาย พร้อมอาวุธครบมือ ที่บ้านปางแดง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๗ | ||||||||||
และ กรณีการอพยพชาวเขาบ้านห้วยวาด อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง โดยขาดการเตรียมการรองรับที่ดี ทำให้เกิดความเดือดร้อน เพราะสถานที่ใหม่ไม่เหมาะ แหล่งน้ำดื่มน้ำใช้ไม่พอเพียง พื้นที่ไม่เหมาะกับการทำการเกษตร ขาดการสนับสนุนการขนย้ายวัสดุสร้างบ้านจากที่เดิม จึงต้องสร้างบ้านใหม่ด้วยวัสดุชั่วคราวแบบลวก ๆ ไม่มีอาชีพทดแทนอาชีพเกษตร ฯลฯ | ||||||||||
ในสี่กรณีนี้ คณะกรรมาธิการฯ คณะใหญ่ ได้มีโอกาสลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ได้เพียงเรื่องเดียว คือ กรณีการสังหารนายเจริญ วัดอักษร ส่วนอีก ๓ กรณี ของภาคเหนือ คณะกรรมาธิการได้มอบให้ สว . การุณ ใสงาม และดิฉัน ลงพื้นที่กรณีกรณีอพยพชาวเขาบ้านห้วยวาด กรณีผู้ใหญ่สุพลกับกรณีชาวเขาปางแดง ดิฉันอาสาเข้ามาให้กำลังใจชาวบ้านและหาข้อมูลเบื้องต้น เนื่องจากกรรมาธิการส่วนใหญ่ติดภารกิจอื่น ซึ่งล้วนมีความสำคัญ | ||||||||||
ซึ่งทั้ง ๔ กรณี นี้ การแก้ไขปัญหาของภาครัฐยังไม่บรรลุผล คือยังไม่มีความคืบหน้า | ||||||||||
เรื่องผู้บงการและผู้ลงมือสังหารผู้นำทั้ง ๒ ราย เหมือนดังจะปล่อยให้เรื่องถูกลืมไปเอง พร้อมกับความอ่อนล้า หมดแรง ขององค์กรภาคประชาชนผู้อุทิศตนเพื่อคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและความเป็นธรรมในสังคม ทั้ง ๆ ที่รัฐมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๕๖ สิทธิของบุคคลที่จะมีส่วนร่วมกับรัฐและชุมชนในการบำรุงรักษาและการได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ และในการคุ้มครอง ส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้อย่างปกติและต่อเนื่องในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพหรือคุณภาพชีวิตของตนย่อมได้รับความคุ้มครอง ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายบัญญัติ | ||||||||||
กรณีการอพยพชาวเขาบ้านห้วยวาดได้รับการแก้ไขที่ปลายเหตุ คือคณะกรรมการชุมชนได้รับการลงรายการสัญชาติไทยแล้ว แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยื่นคำร้องต่อนายอำเภอแจ้ห่ม ยังไม่ได้รับการอนุมัติ จึงยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ทำให้ไม่สามารถออกไปหางานทำนอกพื้นที่ได้ ทั้ง ๆ ที่อยู่ในหมู่บ้านก็ไม่มีงานทำ มีแค่งานจักสานที่ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาจัดฝึกอบรม และหาที่ขายให้ | ||||||||||
การขอใช้พื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อเป็นพื้นที่ทำการเกษตรยังไม่ได้รับการอนุมัติจากระดับนโยบาย ไม่รู้ว่าจะทันฤดูกาลเพาะปลูกปีหน้าหรือไม่ | ||||||||||
หน่วยงานในพื้นที่ตั้งแต่ระดับนายอำเภอ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดลำปาง ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดลำปาง ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ฯลฯ จะพยายามช่วยกันเต็มที่ องค์กรพัฒนาเอกชน คือ ศูนย์ประสานงานองค์กรเอกชนพัฒนาชาวไทยภูเขา ( ศอข .) และองค์กรศาสนา เข้าช่วยประสานงานทำให้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าประชาชนเต็มใจ และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจต่อการอพยพครั้งนี้หรือไม่ มีการศึกษาวิจัยเพื่อเตรียมการรองรับให้เกิดผลกระทบเชิงลบให้น้อยที่สุดหรือไม่ | ||||||||||
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย คือ ต้องผลักดันให้สภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นแกนนำให้เกิดการทบทวนแผนแม่บทเพื่อการพัฒนาชุมชน สิ่งแวดล้อม และการแก้ไขปัญหาพืชเสพติดบนพื้นที่สูง ให้เป็นแผนที่ภาคประชาชนและภาครัฐร่วมกันคิด | ||||||||||
| ||||||||||
| ||||||||||
สถานที่ตั้งหมู่บ้านปางแดงเป็นที่ที่ซื้อจากคนพื้นราบ เมื่อ ๒๐ - ๓๐ ปีมาแล้ว มีถนนผ่านหน้าหมู่บ้าน มีโรงเรียนซึ่งมีเด็กชาติพันธุ์ต่าง ๆ นับร้อยเป็นนักเรียน เป็นชุมชนที่มีหลักฐานถาวร ไม่น่าจะถูกตั้งข้อหาบุกรุกป่าสงวน เพราะชาวชนบททุกภาคของไทย รวมทั้งชาวเขาทางภาคเหนือ และภาคตะวันตก ล้วนตั้งถิ่นฐานในเขตป่าสงวน เขตอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งส่วนใหญ่ถูกประกาศหลังการตั้งถิ่นของชุมชน " ด้วยเจตนาดี " ของทุกรัฐบาลที่มักให้เหตุผลว่า ประกาศเขตอนุรักษ์เพื่อความมั่นคงของทรัพยากรธรรมชาติแต่ขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และการจำแนก " เขตอนุรักษ์ " ออกจาก " เขตที่ชุมชนมีสิทธิใช้ประโยชน์และดูแลรักษาได้ " อย่างชัดเจน | ||||||||||
บ้านเรือนของชาวดาระอั้งสร้างด้วยไม้ไผ่และหญ้าคาอย่างง่าย ๆ ภายในบ้านมีแค่ของจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เตาฟืน ถ้วยชามไม่กี่ชิ้น ที่นอน เสื้อผ้า ๓ - ๔ ชุด ต่อคน หญิงดาระอั้งนุ่งซิ่นทอสีส้มคล้ายชาวปกาเกอญอ ( กะเหรี่ยง ) แต่ซิ่นสูงเหมือนกระโจมอกอาบน้ำ เสื้อแขนกระบอกคอกลม มีเครื่องประดับที่ต้นแขน คล้ายเสื้อของชาวลาหู่ ( มูเซอ ) ลักษณะเด่นคือ มีสายคาดเอว ทำด้วยหวายเคลือบเป็นสีดำที่เอวใส่ซ้อนกันหลายเส้น เด็กหญิงสัก ๓ - ๔ ขวบก็จะเริ่มนุ่งซิ่นและใส่สายคาดเอวเหมือนผู้ใหญ่ | ||||||||||
| ||||||||||
| ||||||||||
* ๑ . ขอให้สอบสวนตรวจสอบการจับกุมชาวบ้านปางแดง ทั้ง ๔๘ คน ครั้งนี้ ว่าเป็นการจับกุมโดยชอบหรือไม่เพราะการจับกุมครั้งนี้ไม่มีการขออำนาจศาล ออกหมายจับตามหลักรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมาตรา ๒๓๗ และ ๒๓๘ โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้อ้างว่าชาวบ้านกระทำผิดซึ่งหน้า ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ ข้อหา " ก่นสร้างแผ้วทางเผาป่าทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่า ยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตและยึดถือครอบครองทำประโยชน์อยู่อาศัยในที่ดินก่อสร้างแผ้วถางเผาป่า หรือทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต " และการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ( กองกำลังผาเมือง ) มาร่วมจับกุมก็เพื่อจะใช้กฎอัยการศึกตามแนวตะเข็บชายแดนประกอบการจับกุม | ||||||||||
ซึ่งข้อเท็จจริงในพื้นที่ พวกเราได้ตั้งบ้านเรือนอยู่อาศัยอย่างถาวร มีการตัดถนนคอนกรีตผ่านหมู่บ้าน มีการจัดตั้งหมู่บ้านอย่างเป็นทางการ ตั้งโรงเรียนก่อนปี ๒๕๒๗ มีการพัฒนาสาธารณูปโภค , การประปา , ไฟฟ้าและฉีดมาเลเรีย บริเวณรอบๆหมู่บ้านมีการออกโฉนด สปก . เต็มพื้นที่ และเจ้าหน้าที่มีการลาดตระเวนดูแลพื้นที่ตลอดเวลา ย่อมทราบดีชาวบ้านสร้างถิ่นฐานบ้านเรือนทำกินมานานแล้ว | ||||||||||
๒ . ขอให้ตรวจสอบว่า การใช้อำนาจรัฐกลั่นแกล้งชาวบ้านที่ไม่มีทางสู้ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเลือกปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เพราะการที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้อ้างว่า " ชาวบ้านบุกรุกถางป่าเพื่อขายให้นายทุน " จึงต้องเข้าจับกุมเป็นข้อกล่าวหาที่เจ้าหน้าที่มีข้อมูลอยู่แล้ว ว่าพื้นดังกล่าวเป็น " โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว ( บ้านปางแดง ) ลุ่มน้ำแม่เตาะโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน " | ||||||||||
อีกทั้งมีการส่งเสริมทำเกษตรตามแนวกรมป่าไม้เช่นโครงการธนาคารอาหาร โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลและวิถีชีวิตชาวบ้านก็อยู่ภายใต้การควบคุมอยู่แล้วไม่มีการขยายพื้นที่เพิ่มเติม ชาวบ้านโดยอาศัยพื้นที่ดังกล่าวสร้างบ้านเรือนเท่านั้น และพื้นที่ที่ทางราชการปักป้ายว่าเป็น " พื้นที่ป่า " มีเนื้อที่มากกว่าที่ถูกจับอีกหลายกิโลเมตร แต่เลือกจับเฉพาะกลุ่มคนจนชนเผ่าที่ถูกราชการจับมาแล้ว ๓ ครั้ง ขณะที่กลุ่มนายทุนบุกรุกป่าของรัฐไม่ว่าทำสวนส้ม รีสอร์ท สนามกอล์ฟ สปา สเตย์ และอื่นๆ ยังไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานไหนกล้าจับชุดปฏิบัติการจับกุมแม้แต่รายเดียว | ||||||||||
๓ . กรณีพื้นที่ในอำเภอเชียงดาวดังกล่าวนี้ ซึ่งราชการประกาศให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน และกรณีป่าสงวนแห่งชาตินั้น รัฐบาลมีนโยบายลงทะเบียนแก้ไขปัญหาความยากจนโดยเอาที่ดินของรัฐ ๗ ประเภท มาจัดสรรให้ชาวบ้านโดยการลงทะเบียนอยู่แล้ว การจับกุมของหน่วยรัฐ ๑๑ องค์กร ครั้งนี้ถือว่าเป็นการละเมิดนโยบายแก้ไขปัญหาความยากจนของรัฐบาลด้วยหรือไม่ | ||||||||||
๔. สุดท้ายนี้ พวกเราในนามญาติผู้ต้องหาทั้ง ๔๘ คน สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และเครือข่ายองค์กรประชาชนภาคเหนือ ขอยืนยันให้รัฐบาลปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เพราะพวกเราคือผู้บริสุทธิ์ มีฐานะยากจนไม่สามารถหาหลักทรัพย์หรือเงินสดมาประกันหัวหน้าครอบครัวทั้ง ๔๘ คน การที่หัวหน้าครอบครัวถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำครั้งนี้ทำให้ชีวิตลำบากยากแค้นยิ่งขึ้น | ||||||||||
และ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาความยากจนทั้งระบบเป็นองค์รวมโดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างรัฐกับประชาชน ที่มีข้อตกลงผลการเจรจาร่วมกันว่า " ในระหว่างการแก้ไขปัญหาจะยุติการจับกุม ดำเนินคดีจนกว่าการแก้ไขปัญหาจักสำเร็จ " | ||||||||||
เราเห็นว่า ปัญหาความยากจนเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง รัฐไม่สามารถจับคนจนทั่วทั้งประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ซึ่งหากรัฐบาลนิ่งเฉยไม่สั่งการ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบต่อการกระทำอันป่าเถื่อนครั้งนี้ไม่ได้ | ||||||||||
เรา ขอยืนยันว่าจะเรียกร้องเคลื่อนไหวเพื่อให้ชาวบ้านได้รับความเป็นธรรมและสามารถแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องจนถึงที่สุด | ||||||||||
ขอให้ชาวไทยทุกคน นายกทักษิณ และรัฐบาลรับฟังข้อเรียกร้องของชาวบ้านปางแดงด้วยใจเป็นธรรม และพิจารณาดำเนินการตามข้อเรียกร้องของชาวบ้าน เพื่อนำศานติสุขมาสู่ประชาชนผู้เดือดร้อนโดยเร็วที่สุด | ||||||||||
* ข้อมูลจากทีมงานไทยเอ็นจีโอ เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๔๗ |