Skip to main content

ช่วยกันบำบัด "โรคติดหวย"

คอลัมน์/ชุมชน

เคยสังเกตเห็นว่า บรรดาคนที่นิยมในการเสี่ยงโชค โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชอบซื้อหวยทั้งหลายนั้นมักจะพบว่า เลขที่ตัวเองซื้อจะใกล้เคียงหรือเฉียดเลขที่ออกรางวัลอยู่ตลอดเวลา เลยทำให้คิดว่างวดนี้ไม่ถูก งวดหน้าจะต้องถูก จึงต้องลองอีก ลองอีก และลองอีกไปเรื่อยๆ เพราะว่า ใกล้แล้ว ใกล้แล้ว ใกล้จะถูกแล้ว และนี่ก็คือจุดยั่วยุอย่างแรกที่ทำให้คนที่เป็นนักเสี่ยงโชคเริ่มเกาะติดกิจกรรมนี้


 


การซื้อหวยนั้นคงเริ่มต้นจากวิธีคิดว่าลองดู เผื่อว่าเราจะมีโชค ที่เรียกว่าลาภลอย ซึ่งหมายถึง จู่ๆ ก็ได้ลาภมาโดยไม่ต้องทำมาหากินให้เหนื่อยแรง ซึ่งในชีวิตจริงนั้นจะมีคนสักกี่เปอร์เซ็นต์ในโลกที่จะได้รับโชคลาภ หรือมั่งมีทรัพย์เงินทองโดยไม่ต้องทำมาหากิน หลายคนลองแล้วเสียเงินไปแล้วคิดว่าอยากได้เงินที่เสียไปคืนมาก็เลยทุ่มซื้อไปเรื่อยๆ ยิ่งทุ่มก็ยิ่งเสีย ก็เลยต้องหวังว่าจะมีสักวันที่โชคจะเข้าข้าง การซื้อหวยจึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่เข้ามาอยู่ในวิถีชีวิตของคนบางคนและเกิดอาการที่เรียกว่า "ติดหวย งอมแงม"


 


คนไทยนั้นมีเรื่องของการชอบเสี่ยงแบบนี้มานานแล้ว และมีคนจำนวนไม่น้อยที่หมดเนื้อหมดตัวไปกับการนี้ แต่คนเหล่านี้ไม่ค่อยเป็นข่าวออกมาให้เห็น เพราะส่วนใหญ่ไปเหมารวมกับความเป็นคนจนหรือกับความยากจนที่มีอยู่เดิม หลายคนอาจจะจนจริงแต่หากไม่ไปหมกมุ่นอยู่กับหวยก็คงจะไม่หมดเนื้อหมดตัวเป็นแน่  แต่ภาพที่เห็นจากสื่อเสมอๆ ก็คือคนที่ถูกหวยรางวัลใหญ่ ที่สามารถพลิกชีวิตจากคนหาเช้ากินค่ำมาเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน ซึ่งก่อให้เกิดแรงบันดาลใจและความหวังให้คนที่คิดจะรวยทางลัดเป็นอย่างยิ่ง


 


มาวันนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากๆ ที่ปลัดกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ จรัญ ภักดีธนากุล ออกมาพูดเรื่องหวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความตั้งใจที่จะเห็นคนเลิกหมกมุ่นอยู่กับความหวังลมๆ แล้งๆ แล้วหันมาตั้งหาตั้งตาทำมาหากิน และเห็นด้วยอย่างยิ่งหากจะมีการจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ซึ่งคงต้องสู้กับกระแสการคัดค้านจากพวกเป็นโรคติดหวย และผู้เสียผลประโยชน์ทั้งหลาย


 


กระนั้น นัยว่าจะทำให้บัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น คุณจรัญ พูดถึงสิ่งที่อยากทำก่อนอื่นก็คืออยากให้เลิกรางวัลแจ๊คพอตในหวยบนดินเพราะถือเป็นการมอมเมาประชาชนเพิ่มมากขึ้น และมีคนจำนวนไม่น้อยมัวแต่นั่งวาดวิมานในอากาศว่าถ้าถูกหวยแจ๊คพอต ชาตินี้คงจะสุขสบายกันเสียทีแต่ไม่เคยดูเลยว่ามีโอกาสถึง 1 ในล้านหรือไม่


 


ได้ฟังที่คุณจรัญ ให้สัมภาษณ์จากสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งก็พอสรุปได้ว่า คุณจรัญไม่เห็นด้วยกับเรื่องอบายมุขทั้งหมด และไม่อยากเห็นคนหมกมุ่นอยู่แต่การเสี่ยงโชค แต่การแก้ปัญหาก็ต้องคิดบนพื้นฐานของความเป็นจริงว่า มีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่ชอบเสี่ยงโชคและเราก็เคยชินกันไปแล้วเพราะว่าเป็นสิ่งที่ทำกันมาช้านาน จะไปจัดการแบบฉับพลันหรือหักดิบก็คงจะไม่ได้  ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องจัดการก่อนคือปัจจัยที่กระตุ้นให้คนหมกมุ่นมากกว่าปกติ จากนั้นจึงจัดการปัญหาอื่นๆ ต่อ


 


สิ่งหนึ่งที่ท่านมองว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้คนหมกมุ่นมากขึ้นก็คือ รางวัลแจ๊คพอต  ที่มีรางวัลเป็นเงินก้อนใหญ่มาก ซึ่งยั่วกิเลศให้คนอยากได้มากขึ้นและทุ่มเงินในการซื้อหวยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเสริมให้คนยิ่งหมกมุ่นก็คือ สื่อ ที่ต้องไปตามหาและนำเสนอข่าวของผู้ที่ถูกรางวัล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคนๆ นั้นเป็นคนจนด้วยแล้ว จะต้องตามเกาะติดชีวิตแบบทุกซอกทุกมุม จึงเป็นการยิ่งเสริมความฝันของคนจนคนอื่นๆ เข้าไปอีก


 


เห็นด้วยกับท่านในทั้งสองกรณี และยินดีอย่างยิ่งที่มีผู้หลักผู้ใหญ่ได้ออกมาพูดถึงสื่อในเรื่องนี้กันเสียบ้าง เพราะว่าอึดอัดใจอยู่พอสมควรที่เห็นสื่อไปประโคมข่าวเรื่องคนที่ถูกรางวัลที่หนึ่ง หรือถูกรางวัลแจ๊คพอต อยู่ตลอดเวลา เพราะการกระทำของสื่อในกรณีนี้ไม่เพียงมอมเมาหรือยั่วยุให้คนเกิดความหวังลมๆแล้งๆเท่านั้น แต่ยังเป็นการไปทำลายความเป็นส่วนตัวของคนที่ถูกหวยด้วย พบว่าหลายคนชีวิตไม่เป็นสุข นับตั้งแต่ถูกรางวัลใหญ่ดังที่ปรากฏเป็นข่าวกันไป


 


อันที่จริงบทบาทของสื่อที่สำคัญควรจะเป็นการนำเสนอในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ให้ความรู้ที่ถูกต้อง แต่หลายสื่อกลับมอมเมาประชาชนเสียเอง และมีบ่อยๆ ที่ชอบอ้างว่า เป็นการนำเสนอในสิ่งที่คนอยากรู้ ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่า หลายๆ เรื่องคนก็แค่อยากรู้แต่ก็ไม่ได้ประโยชน์ใดๆ แต่สื่อก็มักจะหยิบมานำเสนอเพราะเห็นแก่ยอดจำหน่ายโดยมิได้คำนึงถึงผลกระทบ  


 


ต่อจากนี้ไป ได้แต่หวังว่าสื่อทั้งหลายจะเลิกนำเสนอข่าวเรื่องคนถูกหวยกันเสียที รวมทั้งอยากขอเสริมอีกนิดคือ ควรจะเลิกนำเสนอข่าวประเภทมีอาจารย์ให้เลขเด็ด พบเห็นเลขนำโชคไม่ว่าจะเป็นกรณีต้นไม้ออกลูกเป็นไข่ หรือไก่ออกลูกเป็นตัว หรืออะไรที่วิปริตพิสดารทั้งหลายแล้วมีภาพคนไปนั่งขอเลขก็ควรจะเลิกไปด้วย เพราะเป็นการนำเสนอสิ่งที่ส่งเสริมความงมงาย


 


อย่างที่บอกว่า เนื่องจากเป็นเรื่องที่ทำกันมานานแล้ว คนจำนวนไม่น้อยได้ถูกมอมเมาเสียจนติดหนึบกับเรื่องนี้กันไปแล้ว ครั้นจะทำอะไรที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินก็เกรงจะเกิดความปั่นป่วนกันขึ้น ดังนั้น ประเด็นหวยจึงไม่ใช่ประเด็นเล็กๆ ที่จัดการกันได้โดยง่าย ต้องอาศัยความกล้าหาญ ความเด็ดขาด ความร่วมมือ และกำลังใจอย่างมากๆ เท่านั้นจึงจะสามารถทำให้จัดการกับเรื่องนี้ได้


 


อย่างตอนนี้หากคิดว่าจะเลิกหวยบนดิน  คนที่คุ้นเคยและถูกปลูกฝังความเชื่อไปแล้วว่าหวยบนดินเป็นสิ่งที่ดีก็คงออกมาคัดค้านกัน หลักใหญ่ๆ ตามเหตุผลของรัฐบาลชุดก่อนที่บอกว่า ไหนๆ คนก็ซื้อหวยใต้ดินอยู่แล้ว สู้เอามาไว้บนดินไม่ดีหรือ เราจะได้งบประมาณเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่งมาใช้ประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้ จะพูดอย่างนั้นก็คงได้ ทว่า สิ่งที่อยากจะให้หวนกลับมาคิดก็คือ เราจะเห็นแค่การได้เงินมาโดยไม่ต้องดูว่าที่มาของเงินเป็นอย่างไรกระนั้นหรือ สังเกตว่าในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้คนไทยจำนวนไม่น้อยที่คิดแค่ว่าจะทำอย่างไรก็ได้ขอให้ได้เงินมาโดยไม่ได้สนใจว่าที่มาของเงินจะเป็นอย่างไรมากขึ้น  หรือว่าบ้านเมืองเรากำลังจะพบกับวิกฤตทางด้านคุณธรรมกันแล้ว


 


อันที่จริง หวยคืออบายมุขชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นประเภทเดียวกับการพนัน แต่รัฐบาลไปให้ความชอบธรรมว่า เป็นสิ่งถูกกฎหมายหากซื้อจากรัฐบาล แต่จะผิดกฎหมายหากซื้อจากคนอื่นๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล  ทั้งที่ จริงๆ แล้วการจะซื้อหวยที่รัฐบาลผลิตหรือจะซื้อจากผู้อื่นก็ล้วนเป็นพฤติกรรมเดียวกัน และเป็นสิ่งที่เป็นอบายมุขเหมือนเดิมนั่นแหละ ในทางศีลธรรมย่อมไม่ใช่สิ่งที่ควรประพฤติทั้งสิ้น


 


แม้ว่าในสังคมโลกที่ไม่ได้เป็นรัฐศาสนา อบายมุขบางตัวถูกยอมรับให้ถูกกฎหมาย แต่ก็ควรยืนยันไว้เสมอว่า ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่ควรสนับสนุนให้คนใช้บริการกันเยอะๆ จึงไม่จำเป็นต้องมีการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ หรือพยายามส่งเสริมการขายให้มากขึ้น แม้มีข้ออ้างว่า นี่คือการสร้างรายได้ให้กับรัฐอีกทางหนึ่ง ซึ่งต้องพิจารณากันให้ดีด้วยว่า การที่รัฐบาลมีรายได้มากขึ้นจากการส่งเสริมให้ประชาชนลุ่มหลงอบายมุขนั้นเป็นแนวคิดที่ถูกต้องเหมาะสมจริงหรือ


 


แน่นอนว่ารายได้จากหวยมีมากมาย แต่เงินที่ได้นั้นเอาไปทำประโยชน์อะไรบ้าง และเรื่องที่ว่ามีบนดินแล้วลดใต้ดินนั้นก็ไม่เป็นจริง เพราะถึงวันนี้หวยใต้ดินก็ยังคงอยู่และยังขายได้ดีเช่นเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะว่าคนกล้าที่จะซื้อมากขึ้น  ในอดีตการพูดถึงเรื่องซื้อหวยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซื้อได้เฉพาะลอตเตอรี่ของรัฐ แต่ตอนนี้เวลาพูดเรื่องซื้อหวยเป็นคำปกติไปแล้ว เนื่องจากเป็นสิ่งที่กระทำได้โดยถูกต้องตามกฎหมายจึงไม่ต้องระมัดระวังกันอีกต่อไป และการเปิดให้มีหวยบนดินนั่นเองที่ทำให้เกิดใต้ดินเพิ่มขึ้น เพราะคนขายบนดินส่วนหนึ่งก็รับแทงเลขใต้ดินด้วย โดยมีไม่มีใครสงสัยหรือจะเข้ามาเอาผิดได้เพราะเห็นว่าขายหวยบนดินอยู่ (ไม่มีตัวเลขที่แน่นอนยืนยันในที่นี้ แต่ที่นำมากล่าวนั้นเป็นข้อมูลที่ได้มาจากคนที่ใกล้ชิดวงการหวย)  ในขณะที่ในอดีตนั้นอาจต้องหลบๆ ซ่อนๆ ซื้อขายกันอยู่เฉพาะวงการที่รู้กัน


 


ดังนั้น หากยังคงเสียดายเม็ดเงินมหาศาลที่ได้มาจากอบายมุข และใช้แนวคิดเพียงว่า ต้องการจะหารายได้ให้ประเทศโดยไม่คำนึงถึงที่มาของรายได้ว่าจะเป็นอย่างไร การแก้ปัญหาเรื่องหวยก็คงจะยาก เพื่อเห็นแก่ประเทศไทย เราควรเลิกสนับสนุนการมอมเมาประชาชนโดยรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการให้มีหวยบนดิน หรือคาสิโน ซึ่งมีวิธีคิดเดียวกันว่า ยังไงๆ คนไทยก็เล่นอยู่แล้ว เรื่องอะไรจะเอาเงินเสียที่อื่น ควรจะเปิดคาสิโนในประเทศเสียเลย ซึ่งไม่ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เมื่อไหร่ ก็ขอพูดกันไว้ก่อนเลยว่า ไม่ว่ารัฐจะได้เงินเข้าประเทศจากการมีคาสิโนเท่าไรก็ตาม แต่ประชาชนหรือชาวบ้านธรรมดานั้นไม่เคยได้ประโยชน์จากคาสิโนเลย ไม่เชื่อไปดูที่มาเก๊าได้ คาสิโนรุ่งเรืองมาก คดีอาชญากรรมก็มากตาม และคนจนยังมีอยู่เต็มเมือง


 


กล่าวโดยสรุป เห็นด้วยอย่างยิ่งหากรัฐบาลไม่ว่าจะชุดนี้หรือชุดต่อๆ ไปจะมีนโยบายใดๆ ขึ้นมาปฏิบัติเพื่อเลิกการมอมเมาประชาชนให้หมกมุ่นอยู่กับอบายมุข และส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักหาเลี้ยงชีพโดยสุจริตด้วยความขยันหมั่นเพียร ไม่นั่งรอลาภลอยไปวันๆ