ด้วยสายตาเจ้าตัวเล็ก
คอลัมน์/ชุมชน
หนทางที่ทอดยาวไปสู่ผืนแผ่นดินมากมาย ในช่วงเวลานี้ และคงรวมถึงช่วงเวลาอื่นๆ ที่ผ่านพ้นไปแล้วนั้น มากมายหลากหลายที่ถนนทอทอดไปในสุมทุมพุ่มไม้ ขุนเขา สายน้ำ บางช่วงบางแห่งมีภาพที่ปรากฎงดงามยิ่งนัก ทิวไม้ที่สอดส่ายสานกิ่งก้านคลุมถนน เรียงตัวทอดยาวออกไปสักระยะ ร่มรื่นงามนัก หรือริมฝั่งน้ำ ถนนบางสายก็มิได้แนบชิดสายน้ำตลอดเวลา หากแต่ได้เล่นล้อกับสายน้ำสอดประสานขับเน้นภาพบางภาพ ขับเน้นอารมณ์ให้เบิกบานตามไปด้วย ขณะเดินทาง บางช่วงถนนและสายน้ำแนบชิด บางช่วงก็แยกห่างหยอกล้อกันไปตามแต่ภูเขา และผืนแผ่นดินจะนำพา การเดินทางเช่นนี้ช่างงดงามและเบิกบานเสียนี่กระไร
ผืนแผ่นดินดำรงอยู่อย่างงดงามอยู่แล้วในตัวมันเอง โดยไม่ต้องเติมแต่งใส่สีตีไข่ โดยไม่ต้องสรรค์สร้างทั้งด้วยจินตนาการหรือด้วยสมอง ว่าก็คือเราไม่ต้องไปรู้สึกว่ามันงาม เราไม่ต้องไปคิดว่ามันงาม แต่ส่วนสำคัญที่จะทำให้เราได้เห็นภาพเช่นนั้นก็ด้วยสายตาของเราเอง เรามีสายตาที่ทอดมองสรรพสิ่งอย่างไร เราก็จะเห็นสรรพสิ่งเป็นเช่นนั้น หลายครั้งหลายหนในชีวิตที่เราจะพบว่า ความเป็นผู้ใหญ่ การเป็นคนดี การเป็นคนเก่ง การก้าวหน้าในชีวิตและการงานทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆ เปลี่ยนไป แม้กระทั่งบางครั้งเราก็มองเห็นต้นไม้ใบหญ้าเป็นภาพที่ขัดหูขัดตา แต่ส่วนใหญ่เรากลับไปชื่นชมภาพที่ช่างไร้ค่าของอนารยธรรมโลกาภิวัฒน์ ว่ามันเป็นสิ่งคู่ควรกับชีวิต แน่นอนว่าสิ่งหนึ่งที่เราพูดถึงกันมากมายว่า สิ่งที่มันสูญเสียไปจากการเติบโตของเราก็คือ เวลา ทั้งๆ ที่เสียงพร่ำบ่นของผู้คนก็ต่างรำพึงรำพันกันว่า เราไม่มีเวลา เราอยากมีเวลา แล้วสิ่งที่พูดถึงกันเสมอก็คือ เวลามันมีอยู่เท่าเดิม แล้วสิ่งที่สูญเสียไปมันคืออะไรกัน...?
ภาพลักษณ์ที่ตีตราเราด้วยสังคมทุนนิยมดูจะเป็นเงื่อนไขหนึ่ง ว่าก็ว่า มันก็เป็นแนวคิดแบบตะวันตก เราถูกแยกความรู้สึกกับความคิด เราถูกแยกอารมณ์ออกจากเหตุผล กระทั่งเราถูกแยกชีวิตออกจากการงาน การแสดงความรู้สึกดูจะเป็นเรื่องเลวร้าย ว่าในแง่นี้สิ่งที่สูญเสียไปมากที่สุดในชีวิตของเราก็คือ วัยเยาว์ เราลืมวัยเยาว์ของเราเอาไว้ในวัยเยาว์ของเรา เราไม่ได้นำพาวัยเยาว์ของเราออกเดินทางพร้อมกับเรา ถึงกระทั่งบางครั้ง บางผู้คนก็ดูถูก ดูแคลนและกดคุณค่าของวัยเยาว์ของตัวเอง นั่นหมายถึงเราสูญเสียความตื่นตาตื่นใจ สูญเสียความตื่นเต้น สูญเสียความกระหายใคร่รู้ ที่สุดมันคือการสูญเสียแววตาสุกใสเมื่อพบสิ่งต่างๆ มากมายอันงดงามบนผืนแผ่นดิน เช่นนั้นแล้ว เราจึงมองโลกด้วยสายตาอันแห้งผาก ขาดความละมุนละไม เรามองโลกด้วยสายตาของผู้ใหญ่ ที่ช่างหยาบกระด้าง แข็งตัว ไร้ชีวิตชีวา ในบางคนที่เข้าใจว่าตัวเองช่างรอบรู้และเก่งกล้า ก็ดูเหมือนว่าโลกช่างไม่มีอะไรใหม่สำหรับเขาเลย หรือเปล่า...มั้ง
...
ก็ด้วยสายตาของวัยเยาว์นี่เอง ที่เราจะได้เห็นความงามอันสดใหม่เสมอของโลก เมื่อการเดินทางของชีวิตด้วยพกพาสายตาของวัยเยาว์ เราย่อมได้ดื่มด่ำกับโลกในแบบฉบับที่ยังคงความงามอันทรงค่าเสมอ ความตื่นเต้นเร้าใจต่อภาพอันงดงามทั้งหลายมันย่อมกลับไปหล่อเลี้ยงหัวใจเรา หัวใจที่ถูกทำร้ายไปทุกวันด้วยเหตุและผลอันแข็งตัว หัวใจที่บอบช้ำโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะเราหลงเชื่อวว่านั่นคือความสำเร็จของชีวิต ....เชิญเถิดท่าน ทดลองดูว่ามันจะให้ความรู้สึกที่ต่างไปหรือไม่ หากได้เห็นภาพอันงดงามของผืนแผ่นดิน โปรดหยุดอยู่สักครู่ เฝ้ามองภาพเบื้องหน้าอย่างจริงแท้ ดื่มด่ำกับภาพนั้นด้วยสายตาอันอ่อนโยน ผ่านไปหล่อเลี้ยงหัวใจอันอ่อนโยน โปรดอย่าเหนี่ยวรั้งตัวเองออกจากความงามนั้น ด้วยข้ออ้างที่ว่า...ไม่มีเวลา...