ไปที่ชอบที่ชอบเถิด ผีคนเป็น
คอลัมน์/ชุมชน
ตะหงิดๆ ตั้งแต่อ่านเรื่องย่อของหนังเรื่อง "ผีคนเป็น" แล้วว่าฆาตกรโรคจิต ที่ตำรวจตามหาไม่เจอ แล้วผีต้องมาคอยบอกว่าใครเป็นคนฆ่าเธอนั้นจะต้องเป็นหญิงรักหญิง (ที่รับบทโดยเพ็ญพักตร์) แต่ที่เซอร์ไพร์สกว่านั้นคือ เรื่องราวตอนสองนี่น่ะสิ กลายเป็นว่าผีตัวจริงของหนังเรื่องนี้ คือผีกะเทยโรคจิต ที่ตายเพราะไปทำศัลยกรรม เป็นผีแล้วก็ยังมีความอิจฉาริษยาเป็นเจ้าเรือน ต้องไปตามจองล้างจองผลาญนางเอก แถมตามฆ่าชาวบ้านชาวช่องเขาอีก
หนังอาจจะเป็นแค่หนัง บางคนดูหนังเรื่องนี้เสร็จก็อาจจะลืมไปได้ชั่วข้ามคืน แต่ฉันเกรงว่าไม่ใช่เราทุกคนที่จะโชคดีเช่นนั้น ฉันเคยไปฟังอาจารย์จิตวิทยาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พูดว่า เคยมีการทดลองทางด้านจิตวิทยา ที่ให้คนห้าคนค่อย ๆ เข้าไปทักคน ๆ หนึ่งที่ปกติดีว่า ท่าทางเขาจะไม่ค่อยสบายนะ พอคนแรกเข้ามาทัก คนที่ปกติดีคนนี้ก็เริ่มสงสัยแล้วว่า เอ นี่เราไม่สบายจริงหรือ แต่พอมีคนเข้ามาทักแล้วทักอีก โดยย้ำข้อความที่ว่าเขาไม่สบายๆๆ พอถึงคนที่ห้า แน่นอนว่าคน ๆ นี้จะเกิดรู้สึกไม่สบายขึ้นมาได้จริงๆ ฉันลองคิดดูว่าถ้าเกิดมีคนมาทักเราอย่างนี้จริงๆ ไม่ต้องถึงห้าครั้งหรอก หลังจากคนที่สองเดินจากไป ฉันคงต้องรีบไปส่องกระจกดูแล้วว่าสีหน้าท่าทางฉันดูป่วยจริงๆ หรือนี่
การสื่อสารซ้ำๆ เช่นนี้ส่งผลทางด้านจิตวิทยาแก่คนเป็นอย่างมาก จนสามารถทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นมาตามสารนั้นได้จริงๆ หนังก็สามารถก่อให้เกิดผลทางจิตวิทยาเช่นนี้ได้เหมือนกัน
อย่างเช่น จำได้ว่าตอนเด็กๆ มักจะได้ดูหนังที่นางเอกทอม ๆ ห้าว ๆ ถูกพระเอกปล้ำ พอตื่นมาก็กลายเป็นผู้หญิง "แท้" หายอาการทอมเป็นปลิดทิ้ง แถมยังแสดงอาการดีใจเล็ก ๆ ที่ได้ตกเป็นของพระเอกอีกต่างหาก สารจากหนังเช่นนี้มีอิทธิพลอย่างมากค่ะ ต่อคนที่เป็นทอม เธอจะได้รับการตอกย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเธอผิดปกติๆๆๆๆ ถ้าโชคร้าย เธออาจจะเชื่อเช่นนั้นจริงๆ และไม่สามารถรับความเป็นตัวของตัวเองได้ สำหรับคนที่เป็นผู้ชาย สารเช่นนี้จะบอกว่า ความเป็นชายแท้นั้นต้องใช้ความรุนแรง และคุณมีสิทธิที่จะใช้ความรุนแรงนั้นเปลี่ยนทอมให้เป็นผู้หญิงได้
แล้วก็ได้ผลค่ะ มีผู้ชายที่คิดจะใช้ความรุนแรงกับทอมจริง ๆ ตัวอย่างหนึ่งที่ฉันเจอกับตัวเองคือ สมัยตอนฉันอยู่มหาลัย ฉันไปเปิดเผยกับเพื่อนผู้ชายที่ฉันสนิทด้วยว่า ฉันเป็นแฟนของผู้หญิงคนที่เขากำลังแอบชอบอยู่ เพื่อนที่ฉันไว้ใจมากคนนี้ตอบกลับมาว่า "พวกนี้นี่นะ โดน...ทีเดียวก็หายแล้ว" คำพูดที่เขาไม่พูดออกมานั้น เข้าใจได้ว่าเขาหมายถึงการโดนบังคับให้ร่วมเพศหรือข่มขืนนั่นเอง ฉันล่ะช็อค เพื่อนพูดหน้าซื่อ ๆ เหมือนมันเชื่อของมันอย่างนี้จริงๆ แม้ตอนที่ฉันจบปริญญาโทแล้ว ยังมีเพื่อนทอมบอกว่า เห็นสติ๊กเกอร์ติดหลังรถเขียนว่า "รับซ่อมทอมทั่วราชอาณาจักร" เพื่อนอีกคนบอกว่าเห็นเหมือนกัน แสดงว่าไม่ได้มีสติ๊กเกอร์เพียงแค่อันเดียว ถึงจะยังไม่มีใครพิสูจน์ว่า อคติเช่นนี้เป็นอิทธิพลจากหนัง แต่มันก็ช่างละม้ายคล้ายคลึงกับสิ่งที่หนังไทยสื่อออกมาเสียจริง
มาบัดนี้ "ผีคนเป็น" ได้พัฒนาการสื่อสารกับหญิงรักหญิงไปอีกขั้นแล้ว ก้าวหน้าไปจนเขียนเรื่องให้หญิงรักหญิงกลายเป็นฆาตกรโรคจิต พร้อมๆ กับมีผีกะเทยโรคจิตมาสมทบด้วย ช่างน่าตื้นตันใจเสียเหลือเกิน
ฉันคาดว่าคนที่ไปดูหนังเรื่องนี้คงได้บริโภคความเป็นโฟเบียไปบ้างไม่มากก็น้อย ดูแล้วหญิงรักหญิงบางคนอาจจะเริ่มสงสัยว่าฉันนี่มันโรคจิตรึเปล่านะ คนรักต่างเพศอาจจะเกลียดผู้หญิงที่รักผู้หญิงด้วยกันมากขึ้น ก็พวกนี้น่ะ อารมณ์รุนแรงเป็นพวกวิปริตกันทั้งนั้น หรือถ้าเจอกะเทยก็อาจจะมองกะเทยแบบเหยียด ๆ นี่ก็วิปริตด้วย ชอบไปทำศัลยกรรม ไม่พอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็น ตายไปคงไม่ได้ไปสู่สุคติ ต้องไปเป็นผีหลอกหลอนชาวบ้านเขา
หนังเรื่องนี้น่ากลัวจริงๆ อย่างที่เขาโฆษณา ไม่ใช่ผีในเรื่องหรือภาพผีที่โผล่ขึ้นมาจากสถานที่ถ่ายทำจริงที่น่ากลัว แต่เป็นความคิดที่สะท้อนโฟเบียสองเด้งเช่นนี้ (เด้งแรกต่อหญิงรักหญิง เด้งสองต่อกะเทย) ฉันว่าโฟเบียอย่างนี้นี่ล่ะค่ะ คือผีตัวจริง
ผีตัวนี้นี่ไม่ได้อยู่แต่ในหนังเท่านั้น มันวนเวียนมาหลอกหลอนนอกจอด้วย ดูข่าวเมื่อเร็วๆ นี้สิ สาวแสบพาเพื่อนทอมปล้นบ้าน แล้วทอมก็แทงเจ้าของบ้านที่ท้อง 9 เดือน จนลูกในท้องตาย พฤติกรรมโหดร้ายเช่นนี้เหมือนเพ็ญพักตร์ในหนังมากเลยค่ะ คนอ่านข่าวนี้แล้วไปดูหนัง "ผีคนเป็น" เข้าไปอีกก็จะรับสารซ้ำเข้าไปเต็มๆ ว่า พวกทอมหรือพวกผู้หญิงที่รักผู้หญิงด้วยกันนี่เป็นพวกโหดร้าย ๆๆๆ ผนวกกับข่าวอื่นที่เคยรับรู้ เช่น ทอมหึงโหด ทอมฆ่าดี้ อะไรอย่างนั้น ยิ่งตอกย้ำอคติกันไปใหญ่
แล้วก็แปลกมากค่ะ ข่าวที่ออกมาส่วนใหญ่ก็เป็นข่าวความรุนแรงที่เกิดจากผู้ชายและผู้หญิง ข่าวทอมน่ะเป็นส่วนน้อย แต่ก็ไม่มีใครเหมารวมว่า "พวกผู้ชายนี่นะ เป็นพวกอารมณ์วิปริตรุนแรง" หรือ "ผู้หญิงน่ะเป็นโจรแสบกันทุกคน" แต่พอข่าวทอมออกมา ทอมทั้งกลุ่มกลับถูกตราหน้าไปเลยว่าเป็นพวกอารมณ์รุนแรง
นี่เป็นวิธีการหลอกหลอนอย่างหนึ่งของผีโฟเบียค่ะ มันทำให้คนทั่วไปมีอคติว่าคนกลุ่มนี้ (กลุ่มทอม หญิงรักหญิง หรือกะเทย ) เลวร้ายวิปริตกันทุกคน เจอที่ไหนควรถอยออกห่าง หรือไม่ก็ต้องใช้ความรุนแรงทำร้ายให้หายไปจากโลกนี้ซะ
มาร่วมด้วยช่วยปราบผีโฟเบียกันเถอะค่ะ ใครที่ถูกผีตัวนี้สิงอยู่ โดยเฉพาะคนทำหนังและนักข่าว เราคงต้องช่วยกันใช้ข้าวสารที่เสกด้วย "การเปิดใจยอมรับคนที่แตกต่าง" ไล่ผีออกไปไกลๆ แล้วก็ต้องปกป้องบรรดาคนที่ยังไม่ถูกสิงด้วยสายสิญจน์แห่ง "ความเข้าใจ" ส่วนผีโฟเบียนี้ เราคงต้องกรวดน้ำอุทิศ "ทอมกุศล" ให้ไปเกิดใหม่ในที่ชอบที่ชอบซะ จะได้ไปสู่สุคติเลิกออกมาหลอกหลอนชาวบ้านเสียที
ส่วนคนที่คิดจะไปดูหนังเรื่องนี้ ขอแนะนำว่าทำจิตใจให้มั่นคงเข้าไว้ อย่าหวั่นไหวไปให้ผีโฟเบียสิง ถ้าจะให้ดีจริง ๆ หาหนังเรื่องอื่นที่ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตมาดูดีกว่า มีหนังต่างชาติหลายเรื่องที่ให้สารที่ดีกับหญิงรักหญิง ดูแล้วรู้สึกได้ว่า หญิงรักหญิงก็เป็นคนปกติธรรมดาเหมือนชาวบ้านเขา ถ้าจะดูหนังไทยนี่หายากหน่อย มีเรื่อง "ทางรักสีรุ้ง" ที่ขายอยู่ที่ร้านแมงป่อง ที่ดูแล้วให้ความรู้สึกดีกับทอมได้ หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของทอมคนหนึ่ง ที่ช่วยให้ผู้หญิงอีกคนยอมรับความรู้สึกรักผู้หญิงด้วยกันได้ เรื่องนี้ดูได้อย่างสบายใจค่ะ รับรองได้ว่านางเอกในเรื่องนี้ดูเป็นบุคคลที่มีสุขภาพจิตดีทุกประการ และตอนจบนางเอกก็ไม่ได้กลายไปเป็นแฟนพระเอก (เพราะพระเอกนั้นในที่สุดก็ยอมรับได้ว่าตัวเองเป็นเกย์)
หวังว่าในอนาคตคงจะมีหนังอย่างนี้ออกมาอีกหลายๆ เรื่อง ไม่เช่นนั้น ฉันอาจจะต้องไปหัดทำหนังหรือไปเรียนวิชาปราบผีเองเสียแล้ว