Skip to main content

ไปไพรด์กันเถอะ

คอลัมน์/ชุมชน

 


ไพรด์ เป็นชื่อเทศกาลของชาวสายรุ้ง  ชื่อนี้มาจากคำว่า Pride ซึ่งแปลว่า "ความภาคภูมิใจ" 


 


เมื่อ 6 ปีที่แล้ว  ฉันได้ไปงานไพรด์ครั้งแรกในชีวิตด้วยความบังเอิญ  เพราะว่าฉันไปเข้าคอร์สการเป็นผู้ฝึกอบรมเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม  ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย  ช่วงเวลาที่อบรมบังเอิญไปตรงกับเทศกาลไพรด์ของเมืองเข้า 


 


ฉันเลยตื่นเต้นดีใจตั้งแต่อยู่เมืองไทย  พอเข้าคอร์สแล้วก็ตื่นเต้นอย่างเปิดเผยจนเพื่อนที่เข้าร่วมอบรมรู้กันไปหมด 


 


จุดไคลแม็กซ์ของงานไพรด์นั้นจะอยู่ที่การเดินพาเหรดของชาวสายรุ้ง  แม้ว่าพาเหรดจะตรงกับวันอาทิตย์  แต่ก็บังเอิญตรงกับวันที่ฉันต้องเข้าอบรม  ผู้ฝึกอบรมบอกไว้ล่วงหน้าแล้วว่าต้องเข้าอบรมทุกวัน  ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ จะขาดไม่ได้   แต่ก็เป็นเรื่องบังเอิญอีกว่า  ผู้ที่อบรมฉันนั้นเป็นเกย์  ฉันจึงไปทำตาละห้อยด้วยความจริงใจว่า  อยากออกไปดูพาเหรดมากจริง ๆ เพราะ "ชีวิตนี้น่ะ ไม่รู้ว่าจะได้มีโอกาสไปไพรด์กับเขาอีกรึเปล่านะ"  ตาตี่ ๆ ละห้อย ๆ ใช้ได้ผล  เขาอนุญาตให้ "ไปได้หนึ่งชั่วโมง" 


 


ฉันจึงรีบจับรถจับราไปยังสถานที่ ๆ เขามีพาเหรดกัน  พอแทรกตัวผ่านบรรดาฝรั่งตัวใหญ่ ๆ ไปยืนยื่นหน้าอยู่ข้างขบวนพาเหรดละลานตาได้  ฉันถึงกับตะลึง  ก็ในชีวิตไม่เคยเห็นชาวสีรุ้งมารวมตัวกันเยอะเท่านั้นมาก่อน   อย่างมากก็แค่ไม่กี่ร้อยที่เคยเห็นในงานอัญจารีไนท์  แต่นี่คนเยอะเป็นพันเป็นหมื่น  ข้างหน้า ข้างหลัง  ข้าง ๆ เต็มไปด้วยชาวสายรุ้ง  ตรงนั้นก็เกย์ยืนจับมือกัน  ตรงนี้ก็ผู้หญิงกับผู้หญิงอุ้มเด็กที่เหมือนจะเป็นลูกมาดูพาเหรด  บนรถโฟล้ตในพาเหรดก็มีเกย์เต็มไปหมด แล้วนั่นก็เป็นขบวนของพ่อแม่ที่มีลูกเป็นเกย์เลสเบี้ยน  ต่อด้วยเกย์ผู้พิการเข็นรถเข็นกันมาร่วมพาเหรด   แล้วนี่อีกล่ะ  ขบวนของศาสนาต่าง ๆ ที่เปิดกว้างสำหรับชาวสายรุ้ง ต่อด้วยขบวนรถนางงามที่มีกะเทยไทยแต่งชุดนางงามนั่งโบกมือยิ้มหวานอยู่ 


 


ฉันยืนดูพาเหรดที่สนุกสนานด้วยน้ำตานองหน้า  ใครเห็นคงงงว่าสาวหน้าจีนคนนี้ทำไมมายืนร้องไห้ข้างรถโฟล้ตที่มีเกย์ใส่กางเกงในตัวเดียวยืนเต้น ๆ กันอยู่  น้ำตานี้ไม่ได้มาจากความเศร้าที่ได้เห็นสรีระของผู้ชาย  แต่มันเกิดจากความตื้นตันใจที่ว่าวันนี้เป็นวันที่เราไม่ต้องอยู่ในโลกนี้อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ  ใคร ๆ ก็เป็นเกย์ เป็นเลสเบี้ยน  เป็นกะเทยกันได้อย่างเปิดเผย    ณ ที่นี้เรายืน (หรือนั่งโบกมือ) ได้อย่างภาคภูมิใจในความเป็นตัวเอง  ความกลัวว่าใครจะรู้ว่าตัวตนจริง ๆ ของเราคืออะไร  กลายเป็นฝุ่นผงที่เทียบอะไรกับรถโฟล้ตใหญ่โตนั้นไม่ได้เลย


 


ข้างรถโฟล้ตนั้นเอง  ฉันเข้าใจได้ว่าทำไมเขาจึงเรียกงานนี้ว่า Pride


 


ด้วยเวลาจำกัดที่ผู้อบรมให้  ทำให้ฉันอยู่ดูพาเหรดไม่ได้นาน  ฉันรีบกลับไปที่ฝึกอบรมด้วยความเสียดาย  ผู้ฝึกอบรมเห็นหน้าฉันก็ร้องถามว่า  "เป็นยังไงบ้างงานไพรด์"  ฉันตอบว่า "อือม์  มันเยี่ยมมากเลยจอร์จ" (เขาชื่อจอร์จจริง ๆ) แล้วฉันก็เล่าให้เขาฟังว่าการไปงานครั้งนี้  ทำให้ฉันเข้าใจว่าพาเหรดไพรด์ไม่ใช่เป็นแค่งานสนุกสนานรื่นเริง  แต่ยังเป็นรูปแบบหนึ่งของการเดินขบวนเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม


 


"ใช่แล้ว  มันเป็นการประท้วงด้วยสันติวิธีที่สร้างสรรค์และมีสีสันมากด้วย  ต่างจากรูปแบบการประท้วงทางสังคมอื่น ๆ มาก"  จอร์จเพิ่มเติม


 


ใช่แล้ว  ไพรด์เป็นการประท้วงความไม่เท่าเทียมกันในสังคม  ประท้วงการกำจัดสิทธิของคนกลุ่มหนึ่ง ประท้วงการเลือกปฏิบัติและความรุนแรง  ประท้วงข้อจำกัดที่ว่าความรัก, เพศสัมพันธ์, และการสร้างครอบครัวต้องเป็นไประหว่างผู้หญิงและผู้ชายเท่านั้น  ไพรด์เป็นการทำความเข้าใจกับสังคมว่าชาวสายรุ้งเป็นใคร  โดยไม่ต้องรอให้สังคมมานิยามด้วยคำนิยามที่เต็มไปด้วยอคติ 


 


สีสัน  เสียงเพลง  ลีลาการเต้น  การแต่งตัว  การถือลูกโป่งสีรุ้ง การจูงมือคนรักหรืออุ้มลูกไปร่วมงานพาเหรด  เป็นวิธีการเปลี่ยนแปลงสังคมตามสไตล์ของไพรด์   


 


ฉันพกความเข้าใจนอกห้องเรียนเช่นนี้กลับมาจากการอบรมครั้งนั้น 


 


ที่เมืองไทย ในอาทิตย์ที่จะถึงนี้  เราจะมีงานไพรด์กันอีกแล้ว  ปีนี้เราใช้ชื่อว่า Bangkok Together 2006  จุดมุ่งหมายหลักของงานก็คือ  สร้างความเป็นชุมชนระหว่างชาวสายรุ้งด้วยกัน  และเป็นเวทีให้เราสื่อสารเรื่องราวของเราให้สังคมรับรู้  ปีนี้เป็นปีพิเศษเพราะอัญจารีจะนำขบวนของผู้หญิงเข้าร่วมอย่างเป็นทางการด้วย 


 


อยากชวนคุณไปไพรด์ด้วยกัน  ไม่ว่าคุณจะรักเพศไหนก็ไปได้  (เหมือนใคร ๆ ก็ไปร่วมงานตุลาได้  โดยไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนเดือนตุลา)  หรือถ้าคุณเป็นคนรักเพศเดียวกัน  ยิ่งอยากชวนคุณไป  เราจะได้มาพบปะเจอะเจอกัน  เวลาเรามารวมกันมาก ๆ น่ะ  มันมีพลังมากมายมหาศาล  คุณจะรู้สึกได้ว่า  คุณและแฟนคุณไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว  ไม่ต้องกลัวนะว่าจะต้องไปเต้นบนรถโฟล้ต  ถ้าคุณไม่ชอบเต้นต่อหน้าสาธารณะ  ไปงานเสวนาประสาผู้หญิงวันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคมก็ได้ เราจะคุยกันเรื่อง "เปิดปิดคิดยังไง" เวลาบ่ายสองถึงห้าโมงเย็น  ที่ร้าน Bug &Bee ติดสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง  หรือไปงานในสวนลุมวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน  มีงานทั้งของเกย์และหญิงรักหญิงทั้งวัน  สำหรับของผู้หญิงจะมีการแสดงของวงดนตรีผู้หญิง  การเดินแฟชั่น        แบรนด์ Damen แบรนด์สำหรับทอมและสาวห้าวโดยเฉพาะ  (โปรดทราบ  นายแบบเป็นทอมล้วน และมีเสื้อผ้ามาขายด้วย  อย่าพลาดเด็ดขาด)  จะเดินหาซื้อของมือสองไปฝากแฟนก็ได้ (รายได้เข้ากลุ่มอัญจารี)  ไปเล่นเกม หรือไปดูซุ้มที่ให้สาระความรู้เรื่องสุขภาพผู้หญิงก็เป็นประโยชน์ดีสำหรับชีวิต 


 


แล้วก็อย่าลืมจุดไคล์แม็กซ์ของงาน  คือพาเหรดวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน  ที่ถนนสีลม  (ถ้ายังไม่อยากเปิดเผยตัวเองมากนัก  หรือกลัวกล้องทีวีจะจับภาพเราให้ที่บ้านเห็น  ลองใช้วิธีที่เพื่อนฉันเคยทำคือ  ไปยืนดูที่ป้ายรถเมล์  ทำเป็นรอรถเมล์  แล้วก็ทำเป็นว่ารถขาดต้องรอนานมากเป็นชั่วโมง ๆ  หรือจะไปดูบนสะพานลอยหรือรถไฟฟ้าศาลาแดงก็ได้)  หลังพาเหรดมีปาร์ตี้สำหรับผู้หญิงที่ร้าน Shela ซอยหลังสวน  เป็นงานหาทุนให้อัญจารีเพื่อนำรายได้ไปทำงานสำหรับหญิงรักหญิงต่อไป


 


หวังว่าจะได้พบคุณในงานไพรด์ปีนี้นะ 


 


-----------------------------------------------


 


ข้อมูลเพิ่มเติมของงานดูได้ที่ www.pridefestival.org