Skip to main content

บันทึกระหว่างทาง

คอลัมน์/ชุมชน

โลกมิเคยห่างร้างความหมาย


ดั่งเดียวกับชีวิตไม่เคยห่างร้างการเดินทาง


 


บางผู้คนเดินทางไกล บางผู้คนเดินทางใกล้


บางผู้คนเดินทางบ่อย บางผู้คนเดินทางนาน ๆ ครั้ง


บางผู้คนเดินทางตลอดเวลา


 


ความสงบมีอยู่ในทุกถิ่นทาง ความอ้างว้างก็เช่นกัน


ในอาคารหรูหรา ผู้คนพลุกพล่าน แต่บางมุมบางห้องของอาการก็สงบเงียบ เงียบในความหมายที่ไม่ได้ไร้เสียงคุ้นเคย…อันที่จริงก็ดูเหมือนว่า การเดินทางอันยาวไกลของชีวิต ในทุกช่วงเวลา เราได้พบกับสถานที่ เหตุการณ์ ปรากฏการณ์ที่คุ้นเคยอยู่เสมอ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง แต่ทั้งหมดนั้นมันก็ดำเนินอยู่บนความแปลกใหม่เช่นเดียวกัน


 


เมื่อมองเห็นโลกเป็นองค์รวม ในขณะเดียวกัน ทุกสิ่งก็ยังมีภาวะปัจเจกอยู่ด้วยเสมอ แม้แต่อารมณ์ สภาวะอารมณ์ อย่างว่าความเศร้า


 


ความเศร้าอาจเป็นอารมณ์ที่แสดงออกเป็นผลสะท้อนจากภาวะภายในผู้คน มันเป็นเครื่องมือหรือหนทางกระนั้น… แต่ความเศร้าก็ดำรงอยู่อย่างเป็นตัวตนด้วย เช่นนั้นแล้ว ความเศร้าก็อาจมีอารมณ์ทั้งสองด้านแฝงฝังอยู่ และมันอาจจะมีความเบิกบานอยู่ในนั้น เช่นกัน ในความเบิกบานจึงมีหยาดน้ำตาแห่งความเศร้า


การเดินทางระหว่างนั้นหลายครั้งครา เราอยู่นอกเหนือการควบคุม ชีวิตลอยคว้างอยู่เหมือนใบไม้ที่หลุดจากกิ่งแล้วลมก็พัดไป สิ่งที่ทำได้ก็เพียงแค่รอ รอจนกว่าสายลมนั้นจะนำพาใบไม้ไปหล่นลงสักที่บนผืนดิน…


 


ในวันเวลาของชีวิต ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา วันเวลาอันยาวนาน เรื่องราวมากมายผ่านไป ผ่านไป ดีงาม เลวร้าย ส่วนหนึ่งของชีวิต ผู้คนใช้ไปกับการทำความเข้าใจโลก ไม่มากก็น้อย บางผู้คนก็ละเลย จนทำให้ชีวิตตื้นเขิน บางผู้คนก็เคี่ยวเค้นจนกดดัน เหน็ดเหนื่อย ประหนึ่งว่าได้แบกโลกไว้ทั้งโลก ทั้งหลายทั้งปวงในการเติบโตนั้น ผู้คนได้พยายามแค่ไหนในการทำความเข้าใจตัวเอง… เมื่อเราได้มองเข้าไปในโลกภายในนั้นเราเห็นอะไร …สิ่งที่ซ่อน บางสิ่งที่เราพยายามหลบเลี่ยงที่จะรับรู้และเผชิญ บางสิ่งที่รุกเร้ากล่าวประกาศ…อย่างเงียบงัน…


 


ณ วาระหนึ่งขณะการเดินทาง …วันนี้ หนทางอันพลุกพล่านซึ่งสงบ ได้มองบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งก็ดูเหมือนเราก็เห็นมันอยู่แล้วตามปกติ แต่เมื่อมีเวลาก็ได้มองอย่างเฉื่อยช้า…การเติบโตนั้น การเรียนรู้ทั้งหลาย การค้นพบทั้งหลายนั้น ทำให้เราสามารถทำอะไรได้ตั้งมากมายในชีวิต บางเรื่องราวที่ประสบผลสำเร็จเป็นความภาคภูมิใจ บางเรื่องราวที่เห็นทางรำไรไปสู่ความสำเร็จ ในด้านหนึ่งมันคือความภาคภูมิใจ มันคือความประทับใจ และมันได้ต่อเติมแต่งยอดเป็นแรงบันดาลใจ แล้วในมุมหนึ่งนั้น ความรู้ ความสำเร็จ ความภาคภูมิใจ ก็นำความผยองมาสู่เรา


 


ความมั่นอกมั่นใจ ความสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่า มันก็ได้ต่อเติมแต่งยอดความผยองทะนงตนกลายเป็นความเจ๋ง แต่ในความรู้ที่แท้นั้นเล่า ย่อมต้องมองพ้นไปจากความสำเร็จหรือล้มเหลว แต่มันได้มองเข้าไปให้เห็นภาวะภายในด้วยภาพอันจริงแท้…เห็นความสำเร็จ เห็นความล้มเหลว เห็นความผยองและเห็นความท้อแท้ภายใน


 


ความเจ๋งที่แท้ของชีวิตอาจจะไม่ใช่ความสำเร็จหรือความภาคภูมิใจในความรู้ของตัวเอง หากแต่ความเจ๋งที่แท้น่าจะหมายรวมถึงการมองเห็นทุกสิ่งในตน เห็นความเข้มแข็ง สติปัญญา ความสำเร็จ เห็นความล้มเหลว ความโง่เขลา ความเปราะบาง และเห็นความไม่เจ๋งที่มีอยู่ในตน


 


เช่นนี้เองที่เราจะได้พบภาวะทั้งหมดภายใน เผชิญหน้าและยอมรับมัน แต่นั่นก็ใช่จะหมายความว่ายอมรับแล้ว ต้องยอมจำนน แต่การยอมรับนั้นต้องนำมาสู่การแสวงหาหนทางที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งดีงามในที่สุด จะดีงามได้เพียงใดนั้นก็อาจจะสุดแท้แต่บุญบารมี แต่หากก้าวทุกก้าวคือปลายทางแล้ว การเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยนั้นก็ดีงามนักแล้ว


 


ท้องฟ้าใส เมฆสูงสีขาว ในฤดูกาลที่สายลมพัดมาจากภาคเหนือ สายแดดอ่อนลงในฤดูนี้ นี่คือวันเวลาที่ดี