เรื่องของตลาดและการกิน 2
คอลัมน์/ชุมชน
ช่วงนี้ฝนตกไม่ขาดเม็ด ฟ้าครึ้มค่ำคืนไม่มีดาวกลางวันแสงรำไร ผมติดอยู่ในเกาะไม่ได้ออกไปไหนไกล อาจด้วยเพราะไม่สะดวกเรื่องการเดินทางและสุ่มเสี่ยงต่อความป่วยไข้ของชีวิตเล็กน้อย การหาอยู่หากินจึงทำได้เพียงไปตลาดใกล้ๆ ซื้อผักปลานิดหน่อย หาช่องว่างระหว่างฝนแล้วรีบกลับโดยปราศจากความเปียก
ตลาดหน้ามรสุมอย่างนี้อะไรๆ ก็ราคาแพงขึ้นแต่นั่นก็ต้องเป็นไปตามฤดูกาล พูดถึงเรื่องของการกินแล้วผมจึงอยากบอกเล่าเรื่องราวในมื้ออาหารของ "ชาวบ้าน" ภาคใต้บ้างสักนิด ก็เริ่มตั้งแต่ก่อนมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติลงไป สภาพชุมชนในภาคใต้เป็นสังคมเกษตรกรรมเกือบทั้งสิ้น มีค้าขายบ้างในเมืองหลักๆ การกินโดยทั่วไปแล้วเรียบง่าย พึ่งพิงตัวเองไม่พิถีพิถันมากนัก
ในมื้ออาหารก็มักมีพวกข้าวสวย (เจ้า) อาหารคาว (แกงต่างๆ) และพวกน้ำพริกต่างๆ และ "ผักเหนาะ" (ผักเครื่องเคียง) เท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วจะต้องมีแกงเผ็ด 1 อย่างชูรสเสมอ (ข้อสังเกต แกงปักษ์ใต้ดั้งเดิมจะไม่นิยมใส่ผักลงในแกง แกงจะมีแต่เนื้อสัตว์กับน้ำแกง) เช่น พวกแกงพุงปลา (ไตปลา) แกงส้ม (คนภาคอื่นมักเรียกแกงเหลือง) แกงพริก แกงกะทิ เอกลักษณ์คือแกงทุกแกงจะมี "ขี้มิ้น" (ขมิ้น) เป็นส่วนผสมในเครื่องแกง และพวกน้ำชุบ (คนปักษ์ใต้เรียกน้ำพริกว่าน้ำชุบ)
แต่มีเหมือนกันที่กินอาหารประเภทนึ่ง ทอด ผัด ต้ม ย่าง ยำ หรือตำ แต่ถ้าคนเก่าคนแก่ก็ถือว่าน้อยครับ เพราะอาหารประเภทนี้เพิ่งเข้ามาภายหลังมีการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแล้ว
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ไม่ใช่เฉพาะแต่เรื่องอาหาร แต่เป็นไปทั้งระบบ เปลี่ยนไปจากสังคมพึ่งตัวเองเป็นสังคมแบบชุมชนพึ่งพิงไปแล้ว ทั้งยังส่งผลต่อการดำเนินและดำรงชีวิตของชาวบ้านอย่างกว้างขวางด้วย
มาว่ากันเรื่องอาหารกันต่อแล้วกัน เมื่ออาหารพื้นเมืองของชาวใต้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่ความหลากหลายโดยการนำเข้า ทั้งการปรับทั้งรูปแบบดั้งเดิมและรับรูปแบบของภายนอกเข้ามา เช่น การมีถนนหนทาง การเปลี่ยนถ่ายภูมิปัญญาซึ่งกันและกัน การเกิดขึ้นของระบบตลาด ด้วยเหตุดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้เราเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง บ้างนำเนื้อสัตว์มาผัดและทอดมากขึ้นหรือว่าไปถึงการที่มีตำรับอาหารมากชนิดขึ้นด้วย
อาหารพื้นเมืองในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก เหตุนี้ก็เพราะมีการเรียนรู้ใหม่ๆ นั้นก่อให้เกิดการผสมผสานในรูปแบบของอาหาร เช่น มีแกงส้ม แกงพริก แกงกะทิหลากแบบขึ้น ทั้งยังมีการเติมผักต่างๆ ลงเป็นส่วนประกอบในแกงพวกนั้นด้วย มีต้มหลากชนิดขึ้น มีอาหารประเภทผัด นึ่ง ทอด ปิ้ง ย่างแบบใหม่ๆ ขึ้น
เอาเป็นว่าผมสรุปไว้พอคร่าวๆ ให้ได้เข้าใจกันง่ายๆ นะครับ อาหารพื้นถิ่นใต้ก็ยังคงดำรงอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นไว้ได้ไม่น้อย ยังคงมีคนกินแกงส้ม แกงกะทิ แกงพุงปลา ฯลฯ อยู่ แม้รายละเอียดเกี่ยวกับรูปแบบได้เปลี่ยนไปบ้างแล้วก็ตาม ส่วนใหญ่ที่ยังคงอัตลักษณ์ไว้นั้นจะเป็นอาหารที่มีลักษณะจำเพาะที่มีรสเผ็ดมาก เช่นพวกแกงพุงปลา แกงเผ็ด แกงพริก แกงส้ม และอาหารที่ใช้พืชเฉพาะถิ่น เช่น ขี้มิ้น สะตอ เหรียง เป็นต้น และอาหารของเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ภาคใต้มีการผสมผสานทางชาติพันธุ์หลากหลาย จึงทำให้เกิดกลุ่มสังคมวัฒนธรรมหลากหลายด้วย เช่นอาหารของกลุ่มคนไทยเชื้อสายจีน อาหารของกลุ่มคนไทยเชื่อสายชวา-มลายูเป็นต้น
ข้อสังเกตโดยทั่วไปที่พบเห็นได้ง่ายก็ตามเมนูอาหารในร้านอาหารปักษ์ใต้ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศนั่นเอง ทั้งยังไม่เว้นที่มีอยู่เกลื่อนรายในภาคใต้เองด้วย
เรื่องของตลาดจริงๆ แล้วก็เป็นตัวชี้วัดอะไรได้หลายอย่าง แต่ผมคงต้องเว้นวรรคไว้เท่านี้ก่อน หากใครมีประสบการณ์อะไรหรือความรู้อะไรก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแลกเปลี่ยนครับ เอาเป็นว่าครั้งหน้าเราจะพูดกันถึงเรื่องอาหารและการกินของกลุ่มชาติพันธุ์กันต่อก็แล้วกัน (สวัสดี)
บนแผ่นดินเหนือทะเลสาบ-เกาะยอ-สงขลา
แกงเผ็ด
แกงเผ็ด 2
แกงส้ม
ขมิ้น
น้ำชุบ