Skip to main content

รายงานจากไพรด์ บางกอกสมานฉันท์ 2549

คอลัมน์/ชุมชน

ผ่านไปแล้วสำหรับงานไพรด์  ขอเล่าถึงพาเหรดไพรด์ซึ่งเป็นจุดไคล์แมกซ์ของงานก่อนนะคะ 


 


สีสันของพาเหรดสายรุ้งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ชาวสีลมอยู่ไม่น้อย  เป็นครั้งแรกค่ะ  ที่ผู้หญิงเราได้เข้าไปร่วมเดินอย่างเป็นทางการกับเขาด้วย  งานนี้ทีมอัญจารี  ร่วมกับ 2002 AC สาวอีสาน และสะพาน จัดขบวนแห่ขันหมากตามประเพณีไทยที่คุ้นตากันดี  มีกลองยาวมานำขบวน  ต่อด้วยเถ้าแก่ทอมนำหน้ามาขอเจ้าสาว  ตามด้วยสมาชิกหญิงรักหญิงจากกลุ่มต่าง ๆ  ที่แต่งชุดไทย ๆ ทั้งชุดหญิงชุดชาย บ้างก็ถือกล้วยถืออ้อย  บ้างก็ถือป้ายรณรงค์สิทธิของหญิงรักหญิง  แล้วปิดท้ายด้วยเจ้าสาวสองคนแต่งชุดไทยงามพริ้งนั่งอยู่บนรถกระบะ  งานนี้ไม่มีเจ้าบ่าวเหมือนที่เคยคุ้นตาค่ะ บนรถยังติดป้ายอธิบายเผื่อคนไม่เข้าใจไว้ด้วยว่า  คู่นี้เขาเป็น "ข้าวใหม่ปลามัน" นะจ๊ะ


 


ต้องขอชื่นชมคนที่ร่วมกันคิดไอเดียนี้ออกมา   เพราะมีสีสันสนุกสนานทำให้ดูน่าสนใจมาก  แต่ขณะเดียวกันก็จุดประเด็นให้คนได้คิดว่า ผู้หญิงกับผู้หญิงก็รักกันได้  และถ้าเขาสองคนจะแต่งงานกันมันก็เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ควรจะทำได้    อีกอย่างที่น่าสนใจคือ  การแต่งงานนี้ทำแบบไทย ๆ ค่ะ  ซึ่งสื่อให้เห็นว่า  หญิงรักหญิงนั้นก็อยู่ในวัฒนธรรมไทยเรามาแต่โบร่ำโบราณ  และแม้แต่ในขณะนี้เราก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคม  ไม่ใช่มารักผู้หญิงเพราะได้รับอิทธิพลตะวันตกอย่างที่บางคนเข้าใจ


 


ขบวนขันหมากนี้ไม่ได้สื่อสารกับคนนอกกลุ่มอย่างเดียว  ฉันคิดว่าสำหรับหญิงรักหญิง  มันเป็นเหมือนกับการสร้างวิสัยทัศน์ของการแต่งงานที่บางทีหญิงรักหญิงเองก็ไม่เคยนึกมาก่อนว่ามันจะเป็นไปได้จริง  ถ้าเราได้เห็นภาพอย่างนี้บ่อย ๆ แน่นอนว่ามันจะเป็นพลังช่วยให้เราสามารถจินตนาการชีวิตที่เราอยากให้เป็นได้ 


 


ขบวนแห่นี้ทำได้เป็นจริงเป็นจัง  มีพลังมากค่ะ  คนแห่ก็สนุกสนานเหมือนไปงานจริง ๆ  ฉันเองไปช่วยแบกกล้วยในขบวน  บางทียังลืมไปด้วยซ้ำว่านี่เขาไม่ได้แต่งกันจริง ๆ   ที่มีพลังอีกอย่างก็คือ  ไม่มีใครใส่หน้ากากที่เตรียมไว้สำหรับคนที่ไม่กล้าเปิดตัวเลยค่ะ  เปิดกันหมดทุกคน  เห็นกันจะ ๆ ค่ะว่าใครเป็นใคร  แล้วพอเราเปิดเผยตัวเทคโนโลยีก็เป็นใจช่วยให้เราเปิดมากขึ้น  ก็บรรดาไทยมุงนี่สิคะ  ต่างก็ยกโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปกันสนั่น  มองไปข้างหน้านี่ไม่ค่อยเห็นหน้าคนหรอกค่ะ  เห็นแต่มือถือ  มือถือ แล้วก็มือถือ  คงเป็นประสบการณ์เปิดตัวที่น่าประทับใจสำหรับหลาย ๆ คนค่ะ  ผ่านมือถือเป็นพัน ๆ เครื่องมาแล้ว  ก้าวต่อไปของการเปิดตัว  มันก็คงจะง่ายขึ้นอีกเยอะ  


 


พูดถึงภาพรวมของงานไพรด์แล้ว  นับเป็นก้าวสำคัญก้าวหนึ่งของวงการหญิงรักหญิงค่ะ  เพราะทำให้เกิดการร่วมมือกันของกลุ่มหญิงรักหญิงต่าง ๆ  อย่างที่เป็นน้องใหม่มาเปิดตัวในงานนี้ก็คือ  สาวอีสาน  เว็บมาสเตอร์มาแห่ขันหมากด้วยตัวเอง  บางคนนั่งรถมาจากขอนแก่นเพื่อร่วมงานเสวนาเปิดปิดคิดยังไง  อีกกลุ่มหนึ่งมาตรงจากขอนแก่นเพื่อมาดูพาเหรดโดยเฉพาะกลุ่ม 2002 AC ก็เอาราชรถกระบะมาช่วยแห่เจ้าสาว  พร้อม ๆ กับถ่ายวีดีโอให้ด้วย  แก๊งสาว ๆ จากสะพานก็ทำทุกอย่างค่ะ  ตั้งแต่งานใช้แรงงาน  แบกข้าวแบกของในงานที่สวนลุม  ไปจนถึงงานประณีตอย่างแต่งหน้าเจ้าสาว  จากภาคธุรกิจ Shela กับ Zeta ก็มาร่วมด้วยช่วยสร้างความบันเทิงให้กับงานได้อย่างมาก  กลุ่มหญิงรักหญิงฝรั่งและจีนก็ไม่น้อยหน้าค่ะ  มาร่วมตั้งแต่งานเสวนาที่ทำให้เราได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องราวหญิงรักหญิงจากที่ต่าง ๆ  รวมทั้งได้ฝึกภาษาอังกฤษไปในตัว  งานพาเหรดก็มาร่วมกันแต่งชุดไทยไปช่วยกันขอเจ้าสาว   พร้อมกับทำงานแจกลูกอมที่มีที่ติดต่อของอัญจารีให้ผู้คนสองข้างทางไปด้วย


 


อีกก้าวสำคัญก็คือ  กลุ่มหญิงรักหญิงได้มีโอกาสร่วมงานกับกลุ่มชายรักชายและทีจี (ทรานสเจนเดอร์)  ซึ่งเป็นการสร้างชุมชนเราให้เข้มแข็งมากขึ้น  ไม่ได้สร้างไปเพื่อหาเรื่องกับใครหรอกค่ะ  แต่บางทีการเปิดประเด็นในสังคมมันก็ต้องใช้เครือข่ายที่ช่วยกันเป็นปากเป็นเสียง  หลาย ๆ เสียงดังกว่าเสียงเดียวกระเทียมลีบ 


 


เรื่องหนึ่งที่เป็นประเด็นสัมมนาในงานไพรด์ซึ่งเครือข่ายสายรุ้ง  ในนาม "กองทุนสนับสนุนและปกป้องสิทธิมนุษยชนของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ" กำลังดำเนินงานอยู่ก็คือ  การฟ้องกระทรวงกลาโหมเพื่อให้แก้ไขใบ สด. 43 ที่ออกไปในอดีต  ซึ่งระบุว่ากะเทยไม่ผ่านการเกณฑ์ทหารเพราะเป็นโรคจิต บางรายถูกระบุร้ายกว่านั้นอีก  บ้างก็ว่าเป็นโรคจิตทราม  โรคจิตถาวร  โรคจิตผิดปกติขั้นรุนแรง  จนไปถึงจิตวิปลาสก็มี   คนที่มีใบ สด. 43 ระบุไว้เช่นนี้  จะไปสมัครงานที่ไหนก็คงไม่มีใครรับ  ที่เครือข่ายเขาต้องฟ้องนี่ไม่ใช่เพราะเขาคุยกันไม่รู้เรื่องหรอกนะคะ  มีการตกลงกับกระทรวงกลาโหมแล้วว่าต่อจากนี้ไปจะไม่ระบุว่าเป็นโรคจิตแต่จะใช้คำอื่น ๆ เช่น  "หน้าอกผิดรูป" แทน  แต่ไอ้ใบที่เขาเคยออก ๆ มาในอดีตนี่เขาว่ามันกลับไปเปลี่ยนไม่ได้แล้ว  ก็ลงเอยที่ต้องใช้กลไกทางศาลเข้าว่าล่ะค่ะทีนี้  น้องน้ำหวาน  ซึ่งถูกระบุในใบสด. ว่าเป็นโรคจิตถาวร  เป็นผู้ยื่นฟ้อง  คุณฉันทลักษณ์ จากกลุ่มสะพาน  ก็ร่วมฟ้องกับเขาด้วย  เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมากอย่างไม่เป็นธรรม  หลาย ๆ ฝ่ายคงต้องเข้ามาช่วยกันร่วมผลักดันกันต่อไป


 


ฉันคิดว่างานไพรด์ปีนี้ประสบความสำเร็จตามสโลแกนของงานที่ว่า  "เอื้อมมือถึงกันและกัน  ก้าวมั่นสู่ความภาคภูมิ"  งานแม้จะเล็ก และมีการประชาสัมพันธ์ที่เทียบอะไรไม่ได้กับงานพืชสวนโลก  เพราะมีงบน้อยกว่ามากนัก  แต่ก็ทำให้ความสัมพันธ์ในกลุ่มชาวสายรุ้งแน่นแฟ้นขึ้น  หวังว่าปีหน้าคุณ ๆ หญิงรักหญิงจะมาร่วมงานมากขึ้นกว่านี้อีก  โดยเฉพาะหน้าใหม่ ๆ   เครือข่ายเราจะได้เข้มแข็งมากขึ้น  และสามารถสื่อสารเรื่องราวของเราให้สังคมรับรู้ในวงที่กว้างออกไป   แล้วก็คนที่เดินดูพาเหรดอยู่บนฟุตบาทหรือบนสถานีรถไฟฟ้า 


 


ปีหน้าลองกระโดดลงมาร่วมพาเหรด  มาผ่านประสบการณ์เผชิญหน้ากับมือถือพัน ๆ เครื่องด้วยกัน  แล้วคุณจะได้ลิ้มรสว่า  การก้าวมั่นด้วยความภาคภูมิในความเป็นหญิงรักหญิงอย่างเต็มตัวนั้นมันเป็นยังไง