Skip to main content

หัวใจและวิญญาณ 2

คอลัมน์/ชุมชน


"งานอองซานซูจี ครบ๖๐ ปีที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่"


 


ต่อจากฉบับที่แล้วนะคะ เรื่องคนต้นคิด เป็นงานของดอกเตอร์-เคิต คอฟมันน์ กับศาสตราจารย์ อูฟ เย็นส์ ครูส (ชาวเยอรมัน) แปลโดย ซ.สมบัติ ราคา 1 บาท พิมพ์เมื่อปี 2475


 


ตอนที่แล้ว เล่าเรื่องอาหารของนักคิดและทิ้งท้ายเอาไว้ว่า คุณจะเป็นนักคิดใหม่ ๆ ได้หรือเปล่า  ขอเล่าต่อถึงกำเนิดความคิด


 


ในหนังสือเล่มนี้กล่าวว่า หัวใจและวิญญาณของผู้ทำการประพันธ์นั้นเป็น "ความคิดต้นคิด"เช่นเดียวกับผู้ทำงานใช้ความคิดอื่น ๆ เช่น ผู้ชำนาญการพิเศษในด้านต่าง ๆ  ความคิดต้นคิดนั้นอธิบายว่า  เป็นการใช้ความคิดขบปัญหาใหม่ ๆ หรือมีวิธีการ หรือทำการอธิบายความคิดเก่า คนต้นคิดนั้นไม่เพียงแต่ใช้ความคิดที่ได้เรียนรู้มาจากคนอื่นเท่านั้นแต่ได้คิดเพิ่มขึ้น ไม่ได้ทำงานด้วยความจำแต่ทำงานด้วยสมองของเขา เขาอาจใช้ความคิดเก่าก็ได้


 


นักคิดควรจะอ่านหนังสือ เมื่ออ่านหนังสือจบลงเล่มหนึ่ง ผู้อ่านจะเกิดความคิดที่จะนำมาสู่การเป็นต้นคิดได้ 


 


ความคิดใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นในสมองได้อย่างไร


 


หัวข้อนี้น่าสนใจยิ่ง สำหรับนักคิดนักเขียนฉันเชื่อว่าจะต้องมีปัญหาที่ว่าทำไมไม่มีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นเลย เรามักจะได้ยินเสียงบ่น ในทำนองว่า เรื่องที่เขียนก็เป็นแนวคิดเก่า ๆ ไม่มีอะไรใหม่


 


คราวนี้เรามาลองดู ที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้ เกี่ยวกับเรื่องความคิดใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในสมอง


 


"มีความเชื่อกันว่าเกิดจากเซ็ลล์ที่ผสมกันขึ้นใหม่ในสมองส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นภาคความรอบรู้ของมันสมอง ถ้าเพียงแต่เรามีวิธีผสมก็จะเกิดขึ้นได้


 


เฮล์มฮอลท์ซ นักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงได้กล่าวสุนทรพจน์ ในวันเกิดครบ 70 ได้พูดถึง "ทางความคิด" ที่เกิดขึ้นแก่เขาว่า


 


"ในขณะที่ฉันลำบากใจบ่อย ๆ ต้องคอยความคิดใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในใจนั้น ฉันได้สำเหนียกว่าทางความคิดเคยเกิดขึ้นบ่อย ๆ  ปรากฏว่ามันซ่อนตัวมาในกระแสความคิด ในครั้งแรกจะไม่ปรากฏแก่สมองอย่างชัดเจน มันปนเปอยู่ในความจำ  บางทีมันก็เกิดขึ้น ทันทีทันใดโดยไม่ต้องพยายาม คล้ายกับว่ามันเกิดขึ้นจากภายนอก แต่เมื่อสมองฉันเหน็ดเหนื่อยแล้ว มันไม่เคยเกิดขึ้นแกฉันเลย ครั้งแรกฉันค้นหาความรอบรู้จากสิ่งรอบ ๆ ข้าง แล้วฉันหยิบปัญหาที่ต้องการคิดไว้ในใจต่อมาก็ปล่อยให้สมองหยุดพักอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง เมื่อสมองกลับสดชื่นความคิดใหม่ก็เกิดขึ้น และโดยมากเกิดขึ้นบ่อย ๆ ในเวลาตื่นนอนเช้า และบางทีก็เกิดขึ้นในขณะที่ฉันกำลังเดินเล่นอยู่ที่เนินต้นไม้ใกล้บ้าน"


 


นี้เป็นวิธีสร้างความคิดใหม่ของเฮล์ม ฮอล์ซ ครั้งแรกก็บรรจุข้อความที่ต้องการแล้วหยุดพักหรือนอนหลับ แล้วความคิดจะเกิดขณะที่สมองกลับสดชื่นขึ้นแล้ว


 


มีข้อสำคัญ 3 ประการในวิธีนี้ที่จะต้องจดจำให้ดีคือ


1. สมองต้องมีหัวข้อที่จะคิด


2. ต้องไม่เหน็ดเหนื่อย


3. ต้องปล่อยให้สมองสร้างความคิดได้อย่างอิสระ


 


สกิลเลอร์พูดว่า ความคิดเกิดขึ้นแกเขาได้ง่ายที่สุดในวันแดดจ้า ครั้งหนึ่งเขาได้เขียนถึงโกเธว่า


 


"คนเราจะได้รับผลได้อย่างไรเมื่อธรรมชาติก็ซ้ำเรา ฉันได้คิดถึงปัญหาข้อนี้เป็นเวลาห้าอาทิตย์ไม่สำเร็จ แต่เมื่อแสงแดดจ้าในภายหลังฉันคิดได้ใน 3 วัน"


 


คนที่อยู่ในประเทศที่มีแสงแดดเสมอ จะไม่มีความคิดเกิดขึ้นมาก ความคิดสำคัญ ๆ โดยมากเกิดแก่คนที่อยู่ในประเทศที่อากาศมืดมัวแต่ความรู้สึกร่าเริงของสมองในวันที่มีแสงแดดต่อจากวันมืดมัวนั้น


 


คนใช้ความคิดบางคนชอบเล่นดนตรี บางคนชอบเขียนรูป วอลท์ วิทแมน ชอบเดินในถนนที่ชุมชน นักประดิษฐ์หลายคนชอบฟังเสียงเครื่องจักร ทุก ๆ คนย่อมมีเครื่องมือสนับสนุนสมองของเขา


 


คริสเตียนเสนได้พูดว่า สมองเปรียบเหมือนแม่น้ำที่ไหลลงหลายสาย ถ้าสายหนึ่งหยุดสายอื่น ๆ ก็ไหลแรง ถ้าสายอื่น ๆ หยุดหมดเหลือไว้แต่สายเดียว กำลังของน้ำทั้งหมดก็จะประดังไหลมาทางเดียว


 


ทั้งนี้หมายความว่า ถ้าเราต้องการใช้สมองคิดอย่างเต็มกำลังแล้ว เราจะต้องขับไล่ความคิดเรื่องอื่น ๆ เสียชั่วคราว นี้แสดงให้เห็นได้ว่า ผู้ใช้ความคิดบางคนทำการขบคิดปัญหาของเขาอย่างเงียบ ๆ คนเดียวเป็นเวลานาน และเหตุใด รอยส์และเอดิสัน จึงไม่เป็นอันกินไม่เป็นอันนอนหลาย ๆ วัน ขณะที่เขาทำงานหนักอยู่ เขาบังคับสมองของเขาให้ใช้กำลังอย่างเต็มที่ชั่วขณะหนึ่ง


 


ข้อที่จะจำก็คือ ชีวิตคนเราเป็นกำลังอันหนึ่งซึ่งเป็นกำลังความคิด กำลังกาย และกำลังใจรวมกัน ถ้าเราส่งกำลังอันนี้ไปในปัญหาอันหนึ่ง ถ้าเราพุ่งกำลังชีวิตทั้งหมดของเราไปยังจุดอันเดียวกันได้ แล้วการสร้างความคิดก็จะถึงสุดยอด แต่ก็นาน ๆ จะทำได้สักครั้ง ถ้าใครทำได้ก็จัดว่าเป็นคนสำคัญผู้หนึ่ง


 


ไม่มีใครที่จะคิดปัญหาได้ ขณะที่มีเสียงโทรศัพท์ดังอยู่ตลอดเวลา  และมีแขกมาคอยพบ


 ทุกคนควรมีห้องเรียนเงียบ ๆ ไม่ใช่เรียนในสำนักงานของเขา ต้องเป็นสถานที่ที่ไม่ถูกรบกวน ซึ่งเขาได้นำปัญหามาคิดหรือทำโครงการ หรือเรื่องอื่น ๆ ที่ต้องใช้ความคิดอย่างแน่วแน่


 


ความคิดสำคัญสำคัญ ๆ เกิดขึ้นในห้องสมุดชั้นสูงสุดมากกว่าในพระราชวัง ทำไม ? เพราะว่าห้องสมุดไม่มีเสียงรบกวน คนหรูหราฟูมเฟือยนั้นเราเชื่อว่าไม่มีความคิดสำคัญเกิดขึ้นได้เลย


 


เมื่อคนใช้คามคิดอยู่แต่ลำพัง และไม่มีเสียงรบกวนแล้วกำลังชีวิตของเขาก็จะส่งกำลังเต็มที่ไปในการสร้างความคิด


 


คราวนี้ท่านทราบแล้วว่า ทำไมที่ประชุมรัฐสภาจึงขบปัญหาได้น้อยเต็มที ความคิดไม่ได้เกิดจากการพูด การสนทนาและการกล่าวสุนทรพจน์ไม่ได้เกิดจากการสร้างความคิด คนพูดเก่งที่สุด ตามที่เราทราบ เป็นคนความคิดตื้นที่สุด


 


นักหนังสือพิมพ์น้อยคนที่จะเป็นคนต้นคิด เขาเพียงแต่เขียนข่าวประจำวันและกระแสแห่งความเห็น เขาคิดแต่เรื่องความเป็นไปในตลาด แต่เขาเองก็ไม่ได้ทำสินค้าออกจำหน่าย ประเทศที่มีหนังสือพิมพ์ชักนำนั้นไม่ดี เพราะได้แต่นำความตื่นเต้นของคนหนึ่งไปสู่คนหนึ่งเท่านั้น


 


ทุกวันนี้ปัญหาที่ยากที่สุดอันหนึ่งคือป้องกันอันตรายจากหนังสือพิมพ์และรัฐสภา และนักการเมืองที่เป็นผู้นำ ทำอย่างไรจึงมีคนต้นคิดเป็นผู้นำ แต่ยังไม่มีประเทศที่ปกครองตัวเองขบปัญหานี้ได้


 


การเป็นคนต้นคิดจะต้องสละความโลภ บรรดาผู้ซึ่งจะมีความคิดสำคัญ ๆ จะต้องใช้เงิน และเงินจะไม่ทดแทนเขาเลย


 


บรรดาผู้ซึ่งอยู่เพื่อความคิดจะมีความคิด


 


กำลังใจนั้นเป็นสิ่งสำคัญของการสร้างความคิด คนเราจะต้องสละความต้องการหลายอย่าง ถ้าเขาประสงค์จะใช้ความคิดอย่างเต็มที่ เขาต้องสละความสนุกสนานในสังคม เขาต้องทำอย่างนี้จนกว่าจะหมดเวลาใช้ความคิด ซึ่งกำลังแห่งความคิดของเขาจะได้พุ่งไปในทางเดียว แล้วความคิดก็จะเกิดขึ้นได้


 


เราอาจจะพูดได้ว่า สมองเป็นเครื่องจักรที่ปราณีต ซึ่งต้องทำงานอย่างดีจึงจะได้รับผลดีที่สุด เครื่องพิมพ์นั้นไม่อาจจะใช้พิมพ์ในที่กลางแจ้งในท่ามกลางลมพายุได้ และสมองก็ไม่อาจจะใช้ในขณะที่ความรู้สึกถูกรบกวนอยู่


 


คนทำงานใช้ความคิดบางคน เป็นผู้มีความเฉียบแหลมในบางคราว ซึ่งเขาทำงานได้ดีที่สุดในบางขณะ ไม่มีทางดีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงนิสสัยของเขา เขาต้องเชื่อฟังกฏแห่งนิสสัยของเขา เขาต้องทำตามความพอใจของเขา เขากำลังใช้ความคิดอย่างเต็มที่ และไม่พยายามขืนใจตัวเขา นักดนตรีและนักศิลปสำคัญ ๆ มักจะเป็นเช่นนี้ซึ่งเป็นสิ่งอันหาค่ามิได้


 


ความคิดสำคัญ ๆ ในหนังสือของอีเมอสันนั้นเกิดขึ้นแกเขาในทุกสถานที่ในทุกกาลทุกเมื่อ เขาอาจจะลุกขึ้นในเวลาเที่ยงคืนและจดความคิดของเขาไว้ แล้วภายหลังจึงมาคัดเลือกออกเขียนเป็นเรื่อง ๆ


 


คนใช้ความคิดบางคนใจเร็ว ทำงานอะไรต้องให่เสร็จ ๆ ไป เขาคิดถึงเรื่องอื่นไม่ได้จนกว่าจะแล้วเสร็จ เช่นนักประพันธ์เขียนเรื่องละครเขาเขียนจบวันละเรื่อง ทั้งนี้เป็นไปตามนิสสัยของคนเราทั้งนั้น


 


สมองเป็นเครื่องจักรสำหรับใช้ความคิด แต่มีความรู้สึก พอใจ และความเคยชิน


 


อันตรายสำคัญที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นแก่คนใช้ความคิดทุก ๆ คนคือ อันตรายที่พอใจทำงานอย่างเลว ความคิดจะเลวลงตามความต้องการของตลาด เขาจะเขียนหนังสือตื้น ๆ เสีย 6 เล่ม แทนที่จะเป็นเล่มเดียวซึ่งจะอยู่ไปได้หลายชั่วอายุ


 


บรรดาหนังสือสำคัญ ๆ ทุกเล่ม เราพูดได้ว่า ได้เขียนด้วยเลือดชีวิตของนักประพันธ์ นี้เป็นความจริงแก่งานสำคัญ ๆ ทั้งหมด จะเป็นการแต่งหนังสือหรือสร้างเรือเดินทะเลหรือสร้างโรงงาน คนชนิดที่เราเรียกว่าคนสำคัญนั้น คือคนที่เอาใจ และหัว และวิญญาณ ฝังลงในงาน เมื่องานนั้นแล้วเสร็จสิ่งนั้นก็คือตัวเขา


 


กำลังแห่งการใช้ความคิดที่สำคัญที่สุดก็คือ ความรัก ไม่มีการปลุกใจใด ๆ จะวิเศษยิ่งไปกว่าการระลึกถึงภาพแห่งมารดา ภริยา บุตร หรือเพื่อนที่รักของท่าน ไม่มีสิ่งอื่น ๆ ที่จะปลุกกำลังความคิดของท่านให้ได้ผลดียิ่งกว่านี้ และทำให้ท่านได้รับความบันเทิงในงาน


 


จบเรื่องราวของ กำเนิดความคิด หัวใจและวิญญาณด้วย…ความหวังถึงประโยชน์แห่งการเป็นนักคิดทั้งเพื่อตัวเองและผู้อื่น