สามสาวลีโอ VS สามสาวเคเอฟซี
คอลัมน์/ชุมชน
สาวลีโอ ขึ้นหน้าหนึ่ง หนังสือพิมพ์หัวสีที่ขายดีที่สุดในประเทศเมื่อสัปดาห์ก่อน กับลีลาของสามสาวในคอนเซปป่าซาฟารี พร้อมบทสัมภาษณ์ของคุณลูกเกด ซุปเปอร์โมเดล เจ้าของโปรเจกนี้ กล่าวถึง ความงดงามของศิลปะในคอนเซปนี้และที่สำคัญ คือ โปรเจกนี้เป็นโปรเจกที่เรียกได้ว่าเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ลูกค้าเบียร์ลีโอ ในศกหน้านี้อีกด้วย
หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกัน แต่ ต้องพลิกไปหน้า สอง สามสาว นู้ด เหมือนกัน ไม่มีบทสัมภาษณ์ถึงคอนเซปชัดเจน แต่ในหนังสือพิมพ์บอกว่า เป็นกลุ่มเปลือยประท้วงจากองค์กร PETA (People for the Ethical Treatment for Animal) ซึ่งทำงานเรื่องการต่อสู้เพื่อปกป้องไม่ให้เกิดความรุนแรงในสัตว์ ในภาพการประท้วงครั้งนี้ชัดเจนว่า ต้องการให้หยุดการคุกคามและทรมานไก่ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับร้านเคเอฟซี ซึ่งมีสาขาอยู่ทั่วโลก ต่อไปนี้ผมขอเรียกสาวกลุ่มนี้สั้นๆ ว่า สาวเคเอฟซี นะครับ
ความคิดแวบแรกที่เกิดขึ้นระหว่างสาวลีโอ กับสาวเคเอฟซีในสมองของผม คือ นู้ดที่เหมือนกัน แต่ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยเช่นกัน ผมลองค่อยๆ กลับมานั่งลำดับความคิดที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดคำถาม และความเห็นดังนี้ครับ
อย่างแรก ในเรื่องของคอนเซป และเหตุผลของการเปลือย สาวลีโอนั้นคงจะต้องคิดหนักมากเพราะ สามสาวล้วนเป็นคนดังและมีชื่อเสียงในสังคม อายุอานามก็ยังน้อยๆ กันอยู่ ในสังคมวัฒนธรรมแบบบ้านเรานี้ ถ้าจะมาถ่ายแบบนี้คงคิดหนักเหมือนกันว่าพ่อแม่จะรู้สึกเช่นไร แฟนตัวจริงหรือแฟนที่ชื่นชอบผลงานของตัวเองจะรู้สึกยังไง แต่ อืมมมมม...ค่าจ้างก็มากโขอยู่นา
ทางฟากฝั่งสาวเคเอฟซี ก็คงจะคิดหนักไม่แพ้กัน ว่าเอ... จะทำอย่างไรให้คนคิด และตระหนักถึงภัยคุกคามที่เกิดจากการทรมานไก่เพื่อให้ได้มาตรฐานไก่ของเคเอฟซี และเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมต่อความรุนแรงนั้น เช่น หยุดกินไก่ที่ร้านเคเอฟซีตลอดชีวิต เป็นต้น
เมื่อสาวทั้งสองกลุ่ม ผ่านการคิดมาอย่างหนักแล้วจึงได้เวลาเปลือย (NUDE) ทั้งนี้เมื่อได้คิด พิจารณา ไตร่ตรองอย่างถ้วนถี่แล้ว
เมื่อทั้งสาวลีโอ และสาวเคเอฟซี ได้ตัดสินใจเปลือยแล้ว ก็ถึงคราวต้องติดตามกันหน่อยว่าเกิดกระแสอะไรในสังคมบ้าง
สาวลีโอก็คงต้องมีการฝึกเตรียมพร้อม ซักซ้อมคำตอบกันไว้บ้างแล้ว เช่น ถ้ามีนักข่าวหรือใครถามว่า ถ่ายโป๊แบบนี้คิดว่าจะมีกระทบต่อภาพลักษณ์ของเรารึป่าว คำตอบก็อาจจะเป็นประมาณว่า "คิดว่าไม่โป๊นะคะ เพราะไม่ได้เห็นหัวประทุมถัน (แอบยืมคำนี้มาจากเกจินู้ดชื่อดังของมติชนนะคร๊าป) และทีมงานก็เซฟ" และตบด้วย "มันเป็นงานศิลปะ" เป็นคำตอบสุดท้ายค่ะ
ต่อคำถามเดียวกัน สาวเคเอฟซี อาจตอบประมาณว่า (ทำสีหน้าเอาจริงเอาจัง) "ท่านรู้มั้ยคะว่ากว่าจะมาเป็นไก่ทอดเคเอฟซีที่ท่านกินอยู่ในตอนนี้ มีการทรมานไก่ยังไงบ้าง เริ่มตั้งแต่ต้องฉีดฮอร์โมนเร่งการเติบโตให้ไก่โตเร็วที่สุดจะได้ไม่เปลืองค่าอาหารไก่ รวมไปถึงการฉีดฮอร์โมนเพื่อเร่งการเติบโตเฉพาะที่ เช่นน่องไก่จะได้อวบอิ่มดูน่ารับประทาน และทำให้ไก่ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วจะต้องมีขน ไร้ขนโดยสารเคมี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาถอนขนให้เมื่อยมือ" "มันเป็นการทรมาณสัตว์ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกัน พวกเรารับไม่ได้เป็นอย่างยิ่งค่ะ"
อืมมมมมม.......... (เครียดนะเนี่ย)
ต่อครับว่า จริงๆ แล้ว ในความคิดของผม คอนเซปซาฟารี ของสาวลีโอนั้นก็คือสัตว์ป่า ทีนี้ทางด้านสาวเคเอฟซีนั้นก็พูดถึงเรื่องสัตว์เช่นกัน ในแง่ความรู้สึก ไม่ว่าคอนเซปซาฟารีจะมีเป้าหมายลึกๆ ให้คนรักสัตว์หรือให้หันมาทะนุถนอมสัตว์ สำหรับผมแล้ว เมื่อได้ดูปฏิทินชุดดังกล่าว กลับไม่เกิดอารมณ์ไปในทางนั้นแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกับกลุ่มสาวเคเอฟซี ซึ่งทำให้ผมฉุกคิดถึงขนาดกะว่าจะเลิกกินไก่เคเอฟซีไปตลอดชีวิตเลย
ผมว่าเรื่องหนึ่งที่มันช่างบังเอิญตรงกัน คือเรื่องของจินตนาการ และความคิดที่ยากจะยับยั้งไม่ให้เกิดขึ้น จะต่างก็ตรงที่รายละเอียดเนื้อหาของจินตนาการนั้น เพราะจินตนาการสำหรับสาวลีโอคือ การได้จินตนาการถึงรูปร่างที่สมส่วน อาจจะเลยไปจนถึงการสำเร็จความใคร่ และเป็นเจ้าของเรือนร่างสมส่วนเหล่านั้น (ขอโทษด้วยนะครับหากผมตรงไปตรงมาจนอาจทำให้ใครบางคน (ทำเป็น) ยอมรับไม่ได้) แต่ ในทางกลับกันจินตนาการของผมสำหรับสาวเคเอฟซี ก็คือ ไก่รูปร่างประหลาด เหมือนเป็นง่อย เดินไป เดินมา รอเวลาถูกเชือด และส่งไปที่กระทะร้อนๆ สำหรับการทอดให้สุก ก่อนถูกส่งเข้าปากคนค่อนโลก
เอาล่ะครับ ผมว่าผมควรจะเลิกฟุ้งซ่านได้แล้ว
แหล่งข้อมูลอ้างอิง :
2. http://fwmail.teenee.com/strange/1322.html