ศิษย์รัก
คอลัมน์/ชุมชน
ถึงแม้จะย้ายแยกจากกันไปแล้ว ครอบครัวของเด็กชายมนตรีก็ยังคงติดต่อกับธีระซึ่งเป็นครูสอนพิเศษให้กับมนตรีอยู่เสมอ แม่ของเด็กจะโทรมาบ่นเรื่องลูกชายให้ฟังว่าไม่ค่อยทำการบ้าน ชอบไปมั่วสุมอยู่กับเด็กโต
"จะจบมอ.3 หรือเปล่ายังไม่รู้เลยครู" แม่ของเด็กพูดทางโทรศัพท์ "ทางโรงเรียนเรียกพบผู้ปกครอง 2 ครั้งแล้ว"
"ที่จริงมนตรีเป็นเด็กฉลาดนะครับ" ธีระว่า "เพียงแต่ซนไปหน่อย"
"โอ๊ย ไม่หน่อยหรอกครู หัวค่ำไม่กลับบ้าน ชอบไปนั่งกับพวกเด็กโต พวกวินมอไซค์ ครูไม่ลองมาดูลูกศิษย์รักหน่อยเหรอ"
"ก็ดีนะครับ เอ่อ วันเสาร์นี้ ผมก็ว่าง ๆ ครับ ผมจะเข้าไปครับ ดีเหมือนกัน" ธีระถามเส้นทางไปบ้านลูกศิษย์โดยละเอียด
ที่จริง ธีระไม่ว่างนักหรอก แต่เขาคิดถึงลูกศิษย์ อยากเห็นว่าโตขึ้นขนาดไหน น่ารักน่าชังเหมือนเดิมหรือเปล่า บางคืนเขานอกนึกถึงลูกศิษย์ นึกถึงความรักใคร่สนิทสนมที่เขามีต่อลูกศิษย์ของเขา
"โอ้ โห เป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว หล่อเสียด้วย" ธีระพูด ลูบหัวลูกศิษย์อย่างรักใคร่ มนตรีเรียนอยู่ชั้นมัธยม 1
"ไปตกปลากันดีกว่าครู" ธีระชวน
แถวบางบัวทอง บางจุดยังคงเป็นทุ่งนา และสวนผัก ผลไม้ มีลำคลองหลายสาย อากาศปลอดโปร่งสบาย
"ไปวางข่ายดักปลาดีกว่า มีปลาซิวแยะเลย" พ่อของเด็กพูด ถึงแม้จะมาอยู่เมืองกรุงนานหลายปี แต่ความเป็นลูกทุ่งยังไม่จางจากไปไหน
"มาครู มานั่งกับผม" มนตรีบอกให้ธีระซ้อนมอเตอร์ไซค์
"มนตรีขี่เป็นเหรอ"
"สบายมาก"
พ่อของเด็กขี่นำไปก่อน มีเพื่อนบ้านซ้อนท้ายไปด้วย ธีระได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเสื้อผ้าของมนตรี
"แม่บอกว่าเกเร จริงหรือเปล่า"
"ผมไม่มีเพื่อน" มนตรีตอบ "แถวนี้มีแต่พวกเด็กโต"
พ่อของเด็กจอดรถริมคลอง เปลื้องผ้าออกเหลือแต่กางเกงใน แล้วเดินลุยไปในคลอง มนตรีถอดเสื้อออกแต่ยังนุ่งกางเกงขาสั้นไว้ เขาถือปลายข้างหนึ่งของตาข่ายดักปลาไว้
"พาไปทางโน้น" พ่อเขาสั่ง
น้ำลึกเกือบท่วมหัวของมนตรี หนุ่มน้อยจึงทุลักทุเลไม่น้อย ธีระลงไปช่วย มนตรีเกาะไหล่ของธีระไว้
"เก็บหอยไปด้วยสิ เอาไปต้มแกล้มเบียร์" พ่อของเด็กชายพูด
มนตรีแนะนำธีระว่าหอยมันจะเกาะอยู่ตามก้านของวัชพืชที่อยู่ริมคลอง แต่มันหลบอยู่ในน้ำ มนตรีบอกว่าตรงคุ้งน้ำข้างหน้ามีหอยเยอะ
ธีระเดินลุยน้ำไปโดยมีมนตรีเกาะที่ไหล่ เท้าตีน้ำเป็นฟอง
มนตรีเก็บหอยอย่างคล่องแคล่ว ธีระมองลูกศิษย์ดำผุด ดำว่ายอย่างชื่นชม ศิษย์รักของเขามีเลือดของลูกทุ่งเต็มตัว
"ครู ตัวเล็ก ๆ ไม่ต้องเอา" มนตรีบอก
มนตรีเอาหอยที่เก็บได้ กองไว้ริมตลิ่ง ธีระเอาไปกองรวมไว้ จู่ ๆ มนตรีก็พูดขึ้นว่า
"ครู ผมเลิกกับแฟนแล้วล่ะ"
"ทำไมล่ะ"
"ก็เขาบังคับให้ผมโทรไปหาทุกวัน เปลืองค่าโทรศัพท์จะตาย" มนตรีกับแฟนอยู่คนละโรงเรียนกัน ไม่ได้เจอกันบ่อยมากนัก
"ก็ดีแล้วนี่ แฟนหาเมื่อไหร่ก็ได้"
ผ่านไป 15 นาทีเห็นจะได้ พี่ผู้ชายก็บอกให้มนตรีไปเก็บตาข่าย ธีระเข้าไปช่วย มีปลาซิวจำนวนมากอย่างเหลือเชื่อติดตาข่ายขึ้นมา มันสะบัดตัวไปมา เกล็ดแวววาวของมันสะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเย็น ต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะปลดปลาซิวออกจากตาข่ายได้หมด
"เอาไปเผื่อเพื่อนที่ทำงานด้วย" พ่อของมนตรีพูด
พอกลับถึงบ้าน พ่อของมนตรีเอาปลาซิวส่วนหนึ่งไปต้ม ส่วนครูธีระอาบน้ำ โคลนติดเต็มตัว เสื้อสีขาวกลายเป็นสีดำคล้ำซักยังไงก็คงไม่ออก
เด็กชายมนตรีเอาการบ้านมาทำ และจะเรียกธีระเป็นระยะเมื่อทำไม่ได้ อันที่จริงมนตรีแทบไม่ได้ทำเองเลย ธีระทำให้เรียบร้อย เขาไม่อยากทรมานเด็กด้วยการปล่อยให้เด็กทำไปทั้ง ๆ ที่ไม่เข้าใจ และอธิบายยังไงก็ยังไม่เข้าใจ ดังนั้น เขาจึงทำเองเสร็จสรรพ
"แหม พอครูมา ก็มีการบ้านเลยนะ ปกติไม่เคยมี" แม่ของมนตรีพูด
"เอ้า ลองชิมปลาที่ไปหามาสิ" ปลาซิวต้มเสร็จแล้ว
ธีระเคี้ยวปลาตัวเล็กจนละเอียด
"เป็นไง"
"ก็อร่อยดีครับ หวานดี"
เวลาผ่านไป พ่อของมนตรีบอกให้ลูกชายเข้านอน
"ผมจะให้ครูเล่านิทานให้ฟัง" มนตรีว่า
ธีระเล่านิทานให้ลูกศิษย์ฟังพลางคิดถึงวัยเด็กของตนเอง และรู้สึกเหมือนกันว่าเขากำลังเล่านิทานให้วัยเด็กของเขาที่อยู่ในร่างของลูกศิษย์.