จดหมายถึงปรีดี [1]
คอลัมน์/ชุมชน
ถึงลุงปรีดีที่รัก
สวัสดีครับลุงปรีดี ผมมีความอึดอัดกระอักกระอ่วนใจ ที่ต้องเขียนจดหมายระบายความในใจให้ใครซักคน ครั้นจะเขียนไปส่งคอลัมน์เสพย์สมบ่มิสมของหมอนพพร ก็เกรงว่าจะมิตรงประเด็นกับคอลัมน์นั้น เพราะมันเป็นเรื่องการเมือง (มิใช่การมุ้ง)
อนึ่ง รูปแบบกาลเทศะของจดหมายฉบับนี้ออกจะดูเล่นๆ และไม่ให้ความเคารพท่านเท่าไร ในความอึดอัดใจของผมที่จะเขียนมาระบายนี้มันก็มีเรื่อง ความเคารพ เป็นส่วนประกอบด้วย
เอาล่ะ ผมขอระบายความในใจกับท่านตามประสา ฝ่ายซ้าย คุยกัน ซึ่งลักษณะสำคัญของฝ่ายซ้ายนั้นก็คือความเคารพในความเท่าเทียมและเสรีภาพในการพูด จะหัวหงอกหัวดำยศถาบรรดาศักดิ์แตกต่างกันนั่นไม่ใช่ปัญหา และยิ่งการบิดเบือนเทิดทูนกันให้กลายเป็น วัตถุมงคล นั้น ฝ่ายซ้ายอย่างเราๆ คงที่จะรับไม่ได้ (ผมคิดว่าท่านคงจะคิดแบบนั้นเช่นกัน
หรือใครจะมาเถียงผมว่าท่านไม่ได้คิดแบบนั้น ผมกับคนคัดง้างก็มิทราบจะหาข้อลงเอยอย่างไร เนื่องจากตอนนี้ท่านก็ได้ดับสูญไปแล้ว ... เอาเป็นว่าในเนื้อที่จดหมายของผม ผมมีสิทธิ์คิดว่าท่านเป็นฝ่ายซ้าย และมีสิทธิ์คิดว่าท่านคงจะคิดแบบที่ผมกล่าวไปนั้นแล้ว)
สถานการณ์โลกของเรามันยังไม่มีท่าทีที่จะคลี่คลายไปสู่หนทางแห่งการปลดปล่อยเหมือนช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่เช่นเคย ส่วนการเมืองบ้านเราการต่อสู้ของผู้มีอำนาจมันก็คลับคล้ายคลับคลาตอนที่ท่านช่วงชิงความได้เปรียบกับจอมพล ป. กุ้งเผาท่านนั้น และผมกลับคิดว่าการที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ชาวนา,กรรมกร, ชนชั้นล่างในปัจจุบันแทบที่จะไม่ใช่ประเด็นที่จะถูกนำมาพูดอีกแล้วในปัจจุบัน ... ล่าสุด เอาอีกแล้ว มีคนเดินตามรอยตีนของท่านและคณะ ที่ขัดขืนอำนาจด้วยวิธีหักดิบ ใช้อาวุธยุทโธปกรณ์มาข่มขู่ -- แต่ในครั้งนี้อุดมการณ์เป้าหมายของพวกเขา แตกต่างกับท่านและคณะลิบลับ ที่มีอยู่เหมือนกันก็คือ พวกเขาเป็นอภิสิทธิ์ชนเหมือนท่าน และก็เอาประชาชนเช่นผมๆ ไปอ้าง แบบเดียวที่ท่านเคยทำมาก่อน
ผมอ่านเกมเดาใจท่านว่า ที่ท่านตั้งโรงเรียนการเมืองขึ้นมาเพื่อผลิตคนรุ่นต่อๆ ไปหลังจากท่านให้สลัดความคิดที่ว่าปุถุชนคนธรรมดาไม่สามารถดูแลกันเองได้ ต้องพึ่งอำนาจเหนือธรรมชาติสถานเดียว ช่วงแรกๆ นักเรียนจากที่นั่นก็ดีๆ อยู่ครับ การเมืองเราเป็นอย่างที่ท่านหวัง ในสภาสามารถอภิปรายได้เกือบทุกเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับปากท้องคนสยาม แต่หลังจากนั้น .. ตั้งแต่ท่านพลาดพลั้งเสียทีในเกมแห่งอำนาจให้กับจอมพล ป. กุ้งเผา จอมพล ป. กุ้งเผาไปพลาดให้ จอมพลผ้าเตี่ยวแดงอีกที (นอกจากผ้าขาวม้าแดงแล้วแกยังชอบใส่ผ้าเตี่ยวแบบซูโม่ เมียน้อยคนที่ 238 เคยเล่าให้ยายผมฟัง ผมเลยเอามาเล่าต่ออีกที) . จากนั้นโรงเรียนการเมืองก็แทบที่จะหมดสิ้นพลังไป (ยกเว้นวันเตะบอลกับโรงเรียนชมพูนุชศึกษา)
พูดถึงโรงเรียนชมพูนุชศึกษา ... ถือว่าเป็นคราซวยของคนสยามอีกครั้ง โรงเรียนอันดับหนึ่งของประเทศเรา ที่ในอดีต คัดเอาเฉพาะคนเก่งๆ กีดกันคนโง่ (ตามที่สังคมจำกัดความว่าเขาโง่) เช่น ผมและลูกหลานคนยากทั้งหลาย ขณะนี้ก็กำลังจะถูกขายทอดตลาด สร้างเป็นโรงเรียนกึ่งโรงรับจำนำ เอาเด็กเข้าไปจำนำ ให้พ่อแม่คอยจ่ายดอกแพงๆ เป็นระยะ พอผ่อนส่งเสร็จ ไถ่เด็กคนนั้นออกมา กลายเป็น บัณฑิตจากมหาลัยอันดับหนึ่ง เป็นหน้าเป็นตาเป็นเกียรติให้โคตรเหง้าวงตระกูล --- แต่ขอบอกว่า การจำนำครั้งนี้ ครอบครัวคนจนหมดสิทธิ์สังฆกรรมแน่นอน!
ส่วนโรงเรียนการเมืองของท่าน ล่าสุดครูใหญ่คนปัจจุบัน กลับไปเข้าพวกที่จะคืนอำนาจของประชาชน เอาไปก้าวเดินถอยหลัง แล้วปาทิ้งลงคลองไป (และก็นอนผิวปากสบายไปแล้ว เพราะพวกเขาทำสำเร็จ) .. ตอนนี้ก็เห็นภาพออกมาเรียกร้องให้บ้านเราอยู่แบบพอกินพอเพียง นำพานักศึกษาไปดำนาซะงั้น (ไม่รู้ว่าช่วงเก็บเกี่ยวนักศึกษาเหล่านั้นจะใช้รถอะไรขนข้าวเปลือก 3 doors , Zupra รึว่า Revo ;-) จิตวิญญาณของนักประชาธิปไตยจากโรงเรียนการเมืองแห่งนี้ หายไปไหนครับท่าน!
ทั้งๆ ที่การศึกษา เทคโนโลยี ในยุคนี้ก้าวหน้าก้าวไกลกว่ายุคท่านโขนัก .. แต่เสรีภาพในการพูดในการวิจารณ์ การที่จะไม่นับถือสถาบันอะไรซักอย่างของเรากลับแทบที่จะเป็นไปไม่ได้
ลองสวนกระแสสังคมช่วงที่คนทั้งประเทศรวมใจเป็นหนึ่งเดียวสิครับ
เตรียมหลบหนีออกจากประเทศหรือเตรียมเป็นศพ(เพราะถูกรุมกระทืบ) ได้เลย
ผมก็เดาใจอ่านเกม (อีกครั้ง!) ว่าท่านเองก็คงจะโทษตัวเองและอยากเขกหัวตัวเองอยู่ไม่น้อยที่ท่านพลาดอะไรไปหลายอย่าง
แต่อย่างว่าแหละครับ ใครมันจะไปย้อนเวลาได้ อย่างน้อยท่านก็ได้ทำอะไรซักอย่างล่ะวะ! ถ้าจะมีความผิดพลาดอะไร ก็คงจะเป็นคนรุ่นต่อๆ มาจากท่าน ที่ใจถึงไม่ถึงขั้นท่าน ไม่กล้าทำอะไร ขี้ขลาดและกลับปล่อยให้อะไรๆ มันเลยตามเลยไป
อย่างไรก็แล้วแต่ ผมเคารพในความใจถึงของท่าน แต่ไม่เคยเคารพในความเป็น รัฐบุรุษอาวุโส ของท่านเลย
ตำแหน่งนั้นมันไม่เคยทำให้ใครอยู่ดีกินดีหรือมีเสรีภาพขึ้นมา (อย่างน้อยก็ท่านล่ะหนึ่งคน)
ในสังคมไทย ทั้งๆที่เราเอาปรัชญาพุทธมาพูดในเรื่องของการไม่ยึดถือเรื่องยศถาบรรดาศักดิ์ใส่ไว้ในแบบเรียนพุทธศาสนา
แต่การกระทำของพวกเรากลับถือเรื่องนั้นเป็นสำคัญ ฐานันดร ยศตำแหน่ง สูงส่ง เป็นสิ่งที่แตะต้องมิได้ - - - เราเอาคำพุทธมาอ้างให้เท่ๆ เท่านั้นหรือ ?
สุดท้ายนี้ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน สักวันพวกเราที่ยังอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ซ้าย, ขวา, หน้า, หลัง, เจ้า, ชาวนา,กรรมกร, นายทุน, มาร์กซ์, เหมา, เต๋า, พุทธ, โอมชินริเคียว ฯลฯ จะตามท่านไป เพราะไม่มีใครที่อยู่ค้ำฟ้าได้ซักคนเดียว ไม่มีข้อยกเว้นครับสำหรับความตาย! (ฝากบอกจอมพล ป. ด้วย ถ้าคืนดีกันแล้วและยังคบหากับท่านที่นั่น น้ำจิ้มกุ้งเผาสูตรของท่านจอมพลรสชาติจัดจ้านมาก ขอบอก!)
ถ้าสมมติว่าท่านรับรู้กับเหตุการณ์ที่เกิดนี้ และท่านสามารถทำอะไรได้ซักอย่าง ผมวอนขอท่าน ช่วยคนสยามจนๆ เป็นครั้งสุดท้าย ... ขอเลขท้าย 3 ตัวเจ๋งๆ ให้คนจนๆ อยากพวกผมซักงวด ผมจะกระจายข่าว ให้แทงกันหนักๆ ให้พวกอภิสิทธิ์ชนมันชิบหายไปเลย เพราะหวยคือพลังคนจนของจริงที่สามารถเปลี่ยนสังคมได้ (ก่อนที่พวกมันจะยกเลิกหวยนะท่าน เร็วๆ หน่อย[2])
(ปล. ถึงผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จในบ้านเมืองนี้ขณะนี้ นี่เป็นจดหมายในรูปแบบของงานศิลปะแบบ Dadarists + Pop art ถ้าผู้ใดจะติดใจเอาความคิดว่ามันเป็นข้อเขียนที่เข้าข่ายผิดกฎหมายข้อใดข้อหนึ่ง, ทำลายความมั่นคง, ทำลายความสมานฉันท์ หรือหมิ่นประมาทใครก็แล้วแต่ --- แสดงว่าคนนั้น โง่ และ ไม่เข้าใจในศิลปะ
ขอร้องให้ไปไกลๆ ไปตามจับคลื่นใต้น้ำ (ถ้ามันมี) หรือเตรียมจับคนปั่นค่าเงิน-เก็งกำไรค่าเงิน ในอนาคต หรือไปตามจับคนคอรัปชั่นทั้งในอดีตและปัจจุบันนู่น อย่ามายุ่งกะผม ผมเป็นเพียงศิลปินตัวกระจ้อยร่อย ;-)
000
เชิงอรรถ
[1] หมายเหตุ บทความชิ้นนี้เคยตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เลี้ยวซ้ายในเวอร์ชั่นที่ใช้ชื่อแฝงว่า ดีปลี พนมสารคาม และยังเคยถูกลอกเลียนไปยังอีกหลายๆ ที่ --- ส่วนเวอร์ชั่นนี้ได้นำมาดัดแปลงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และเปลี่ยนนามปากกาเสียใหม่
[2] ในสมุดปกเหลืองของปรีดี และสมุดปกขาวของ ร.7 อันเป็นการโต้ตอบกันระหว่างนโยบายการวางแผนเศรษฐกิจของฝ่ายก้าวหน้าและฝ่ายอนุรักษ์นิยม ในยุคแรกๆ หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทั้งปรีดีและ ร.7 แทบที่จะไม่มีความเห็นตรงกันในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจซักเรื่อง แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ทั้ง ปกเหลือง และ ปกขาว เห็นพ้องต้องกันโดยมิได้นัดหมายในนโยบายเศรษฐกิจ นั่นคือ สนับสนุนให้รัฐออกสลากกินแบ่งรัฐบาล.
ข้อมูลตัวเลขที่สำคัญๆ ของ ปรีดี พนมยงค์ สำหรับคอหวย ที่จะนำไปใช้ในการวิเคราะห์มีดังนี้ ..
|