Skip to main content

ธา (1)

คอลัมน์/ชุมชน

ผืนแผ่นดินแคบลงมวลมนุษย์เพิ่มขึ้น             สีขาวสลายสีดำทะมึนรวมตัว                       


ฝนไม่ตกตามฤดูกาล                                  ร้อนไม่เหมือนแต่ก่อนฉันท์ใด                     


ฉันท์นั้นเงินเต็มกระบุง                                แต่ข้าวไม่เต็มกระบุง                                 


คนกินข้าวไม่เห็นต้นข้าว                             คนกินน้ำไม่เห็นต้นน้ำ                               


แล้วลูกฉันจะอยู่อย่างไร                             เหลนฉันจะอยู่อย่างไร                               


ลูกสาวทอผ้าไม่เป็น                                   ลูกชายจักสานไม่เป็น        


 


(ส่วนหนึ่งของเพลง ธา  คำร้อง-ทำนองโดย ชิ สุวิชาน :  อัลบั้ม เพลงนกเขาป่า)


 





 


มอถ่า หรือบ้านแจ่มหลวง เป็นชุมชนหนึ่งในชุมชน มูเจ่คีเพียงไม่กี่หมู่บ้านที่แม่น้ำแจ่มไหลผ่านหมู่บ้านชุมชนแห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของผมในวัยเด็ก เป็นชุมชนที่แม่ของผมเติบโตและเป็นชุมชนที่ตาของผมฝังรกผมไว้ที่นี่


 


แม้ว่าเมื่อผมจำความได้ พ่อจะพาครอบครัวย้ายไปอยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งก็ตาม  แต่มอถ่ายังคงเป็นแหล่งความรู้ที่สนุกสนานทุกครั้งเมื่อมีโอกาสได้ไปหาตากับยาย


 


ผมปีนต้นไม้สูงๆ ได้ ยิงนกเป็น ตกปลา ทอดแหเป็น ดักหนูเป็น เล่นลูกสะบ้าเป็น เดินขาหย่างไม้เป็น และว่ายน้ำเป็นที่หมู่บ้านแห่งนี้


 


โค้งน้ำแต่ละโค้ง จะมีชื่อของมันตามลักษณะ เช่น โค้งน้ำมะม่วงเนื่องจากมีต้นมะม่วงป่าอยู่ติดริมน้ำ โค้งน้ำลึกเนื่องจากน้ำลึก  โค้งน้ำแต่ละโค้งนั้นส่วนใหญ่จะเป็นแอ่งน้ำ น้ำจะนิ่งและค่อนข้างลึกกว่าลำแม่น้ำที่ตรงภาษาปวาเก่อญอจะเรียกว่า "กุ๊ย" กุ๊ยเหล่านี้จึงเป็นสระว่ายน้ำของพวกเราเด็กๆ ในชุมชน


 


กุ๊ยที่บ้านมอถ่าที่เด็กๆ ชอบเล่นน้ำมากที่สุดมีสามแห่ง คือ กุ๊ยเหล่อ หรือแอ่งน้ำหิน กุ๊ยโตโล หรือแอ่งใต้สะพาน และกุ๊ยโตหล่านิหรือแอ่งสะพานไม้ตึง เด็กที่ฝึกหัดว่ายน้ำใหม่ๆ และเด็กผู้หญิงมักจะนิยมเล่นน้ำที่กุ๊ยโตโลกับกุ๊ยโตหล่านิมากกว่า เนื่องจากมีผู้ใหญ่สัญจรไปมาตลอด เวลามีเด็กจมน้ำหรือทะเลาะกันจะอยู่ในสายตาผู้ใหญ่โดยที่ผู้ใหญ่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที


 


แต่สำหรับเด็กผู้ชายที่โตอายุประมาณสิบสองปีขึ้นไป มองแอ่งน้ำทั้งสองเป็นเพียงแค่แอ่งน้ำอนุบาลหรือของมือสมัครเล่นเท่านั้น  ที่เล่นน้ำจึงเป็นที่กุ๊ยเหล่อ การเล่นน้ำที่กุ๊ยเหล่อนั้นต้องเป็นคนที่เล่นน้ำคล่องแล้ว


 


คนที่ไปเล่นน้ำที่กุ๊ยเหล่อจะสัมผัสกับความท้าทายมากมาย จนรู้สึกกดดันนิดๆ ที่กุ๊ยเหล่อจะอยู่เหนือขึ้นไปทางหมู่บ้านห่างจากสายตาผู้ใหญ่ คนเล่นน้ำมีแต่ผู้ชายล้วน น้ำที่ลึกท่วมหัวขนาดชูมือขึ้นแล้วมือไม่   สามารถโผล่เหนือน้ำได้  มีเกมการแข่งขันเล่นน้ำ เช่น แข่งดำน้ำ เกมแมวน้ำไล่จับปลา เมื่อคุณเป็นแมวน้ำคุณต้องจับปลาให้ได้ แล้วปลาที่ถูกจับได้จะต้องมาเป็นแมวน้ำต่อ เกมนี้คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นอาจต้องเป็นแมวน้ำทั้งวัน ลักษณะคล้ายๆ ลิงชิงบอล เกมใช้มือตีน้ำใส่กันเพื่อวัดความอึด


 


แต่การแข่งขันที่เป็นการวัดกันทางอ้อมคือหลังจากเล่นน้ำได้พักหนึ่งก็จะมีการพักยก ทุกคนจะออกจากแอ่งน้ำมานอนบนทรายที่ริมน้ำเพื่อเพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกายและพักเหนื่อยภายในตัว  โดยแต่ละคนจะนอนหงายทำให้กระบอกปืนสามารถเงยรับแดดลมอย่างเปิดเผย ช่วงนี้จะเป็นการประชันกระบอกปืนของแต่ละคนว่าใครใหญ่หรือยาวกว่าใคร ถ้าของใครเล็กก็ต้องแอบๆไว้ ของใครเด่นกว่าก็จะได้รับคำชมและลือกันในหมู่เด็กๆว่าเขาเป็นพี่ใหญ่


 


เด็กๆจะหยุดไปเล่นน้ำก็ต่อเมื่อมีหญ้ารกขึ้นมารบกวนด้ามกระบอกปืน ถือว่าเป็นหนุ่มแล้วไม่ใช่เด็กแล้ว  ถ้าชวนเพื่อนคนใดในหมู่บ้านแล้วไม่ยอมไปเล่นน้ำแล้วทำท่าอายๆ ก็จะรู้กัน  แล้วก็จะไปวิพากษ์วิจารณ์กันในกลุ่มเด็กคนเล่นน้ำด้วยกันเกี่ยวกับหญ้าขึ้นของเพื่อนคนนั้น


 


ผมไม่ได้ไปเล่นน้ำที่กุ๊ยเหล่อนานแล้ว ด้วยเหตุผลเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆ ผมทั้งรู้สึกดีใจและเสียใจ เสียใจที่กิจกรรมบางอย่างไม่ได้เล่นและไม่ได้ทำ รวมทั้งไม่กล้าทำเหมือนเด็กอีกแล้ว  ดีใจที่จะได้มีโอกาสทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำกันเช่น การได้จับปืนล่าสัตว์ การได้บังคับควายไถนา รวมทั้งการเที่ยวจีบสาวๆ ซึ่งเด็กๆไม่มีโอกาสได้ทำ