เรื่องของการชนควายเกาะสมุย
คอลัมน์/ชุมชน
น่าแปลกใจเลยทีเดียวใช่ไหมครับ ที่คราวนี้ผมพูดถึงเรื่องกีฬาชนควาย หลายคนอาจสงสัยว่ามันจะ "ใต้" ตรงไหน ถ้า "ชนวัว" สิ น่าจะ "ใต้" มากกว่า
เปล่าเลยครับ คนเกาะสมุย-สุราษฎร์ธานีเขารู้กันดีว่านี่แหละ "แบบว่าเรื่องใต้ใต้" แน่นอน
กีฬาชนควายที่ว่านี้เป็นกีฬาพื้นเมืองเฉพาะถิ่น ปัจจุบันไม่มีในพื้นที่ใดของภาคใต้ มีเพียงเฉพาะในพื้นที่เกาะสมุยเท่านั้น กีฬาชนควายนี้มีกีฬาประเภทนี้ไปบอกเล่าลูกหลานต่อไป
เมื่อครั้งอดีตกีฬาชนควาย หรือ ฟันควายสนุกสนานและเป็นที่สนใจของคนทั่วไปที่แวะเวียนมาเที่ยวชมธรรมชาติบนเกาะสมุยเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว หากเราศึกษากันดีๆ ก็พบว่า กีฬาชนควายนั้นก็มีการเล่นกันเป็นประจำโดยทั่วไปในจังหวัดอื่นๆ ของภาคใต้ด้วย แต่ที่เป็นที่รู้จักอย่างมากก็ที่เกาะสมุยนี่แหละครับ
"ชนควาย" นับว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเกาะสมุย บางทีก็เรียก "ฟันควาย" แล้วแต่จะเรียกครับ โดยปกติแล้วผู้ชมส่วนใหญ่ก็เป็นคนบนเกาะสมุยนั่นแหละ แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามาท่องเที่ยวที่รู้เรื่องการชนควายนี้ก็อดไม่ได้ที่จะไปเสาะหาดู
แต่เดิมการชนควายเป็นเพียงความนิยมที่เล่นกันเพื่อความสนุกสนานภายในชุมชนหลังฤดูเก็บเกี่ยวเท่านั้น ซึ่งมักจัดขึ้นโดยไม่มีพิธีรีตองอะไรเลย สนามชนควายก็หาเอาพื้นที่โล่งๆ ทั่วไป บ้างก็ในนาที่เก็บเกี่ยวเสร็จแล้วเป็นสนามประลองความตามสะดวก การชนแบบนี้เรียกกันว่า "ชนควายลาน"
แต่ในปัจจุบันกีฬาประเภทนี้ก็ถูกเปลี่ยนไปจากเดิมมาก มีการเลี้ยงควายเพื่อชนกันโดยเฉพาะไม่ใช่จุดประสงค์เพื่อความสนุกสนานหลังฤดูการเก็บเกี่ยวแต่อย่างเดียวแต่มีการพนันขันต่อแทรกเข้ามามีส่วนร่วมด้วยจนถึงทุกวันนี้ และเปลี่ยนจากชนบริเวณลานเป็นชนในบ่อน มีการจัดชนกันเป็นนัดๆ เป็นคราวๆ ไปเหมือนการชนวัวของชาวบ้านภาคใต้โดยทั่วไป
เมื่อมีพัฒนาการดังที่ผมบอกมาแล้ว การเลี้ยงควายของชาวเกาะสมุยจึงมีความพิถีพิถันมากขึ้นกว่าเดิมมาก กีฬาชนควายที่จากเดิมเพื่อความสนุกสนานก็มีลักษณะเอาจริงเอาจังมากยิ่งขึ้น มีการคัดเลือกควายเพื่อการชนโดยเฉพาะ มีตำราควายชนตามแบบของ "นักเลงควายชน" (ไม่ใช่คำด่าของใครนะครับ) เชื่อถือกันซึ่งต้องเข้าตามตำราหลายอย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นเขา ขา กีบเท้า ลำตัว จิปาถะตามแบบฉบับ "ต้องหายาก" นั่นแหละถึงจะดี ฮา.. ยกตัวอย่างกันสักหน่อยก็แล้วกันแต่อย่าหาว่าผมเป็น "นักเลงควาย" เฮ้ย! "นักเลงควายชน" ก็แล้วกันนะครับ
เช่น ถ้าเป็นควายดำก็ต้องหางยาว ถ้าสีขาวหางต้องสั้นและข้อเท้าสั้น ควายชนหนังต้องตึง จมูกกว้าง มีเหงื่ออยู่เสมอ ถ้าเป็นควายดำสนิทถือว่าดีมีไหวพริบ มีเล่ห์เหลี่ยมสูงอดทนในการต่อสู้ ส่วนควายที่มีสีแดง นักเลงควายชนมักไม่นิยมใช้ทำควายชนเพราะสีของมันไม่ทำให้รู้สึกว่าองอาจหรือดุ...เป็นไงบ้างครับ นี่ไม่ใช่ตำรานักเลงควายเมศนะ ฮา...
การชนควายในเกาะสมุยก็เหมือนกับการชนวัวโดยทั่วไป คือก่อนการชนควายบรรดาเจ้าของควายก็เอาควายของตนมา "เปรียบ" เพื่อหาคู่ชนที่เหมาะสมไม่เสียเปรียบหรือได้เปรียบจนเกินไปแล้วก็ตกลงเดิมพันกันเสร็จสิ้นในคราวเดียว มากน้อยก็แล้วแต่เชื่อเสียงของควายชนแต่ละตัว จากนั้นต่างฝ่ายก็ต่างฟิตซ้อมควายของตัวเองเหมือนนักมวยเลย วิ่งตอนเช้า ออกกำลังกาย ซ้อมชน คุมอาหาร ฯลฯ สารพัดสารเพวุ่นวายไปหมด บางทีอาจเลี้ยงดูดีกว่าเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียเสียอีก ฮา...ฮา...จะไม่ดีได้อย่างไรเพราะอาหารที่ให้ควายกินยังต้องให้ "หมอ" เสกให้กินทุกมื้อเชียว น่าอิจฉา...(แต่ยังไม่อยากเกิดเป็นควายหรอกครับ) ทั้งนี้ก็เพราะเชื่อว่าจะป้องกันคุณไสย์ของฝ่ายต่อสู้นั่นเอง
เกือบลืมไปว่าก่อนวันชนหนึ่งวันเขาจะนำควายมาทำพิธีสำคัญที่เรียกว่า "ทำควาย" หรือ "แต่งควาย" ซึ่งเป็นพิธีทางไสยศาสตร์ โดยมากจะทำกันที่บ้านหรือที่ที่หมอไสยศาสตร์คิดว่าเป็นมงคล ในระหว่างพิธีเจ้าของควายจะระมัดระวังไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ควายของตนเป็นอันขาดเพราะเกรงว่าควายของตนจะถูกทำคุณไสย์เข้า เรียกได้ว่าก่อนจะชนควายนั้นต้องทำพิธีแต่งควายกันจนอดหลับอดนอนกันเลยทีเดียว ยุ่งกันจริงๆ เลย
ถึงเวลาชนแล้วรับรองความมันส์แน่นอนครับ เรื่องอย่างนี้บอกกันยากว่าสนุกสนานแค่ไหน ต้องหาเวลามาดูชมกันเองก็แล้วกัน แต่ขอเตือนกันไว้ก่อนว่าการพนันอาจไม่ช่วยให้ท่านๆ ทั้งหลายรวยขึ้นมาได้หรอกครับ ทั้งยังผิดศีลผิดกฎหมายเข้าอีกต่างหาก วัฒนธรรมประเพณีเรามีไว้ให้ท่านได้ศึกษาเรียนรู้และได้โปรดพิจารณาว่าท่านควรดูชมกันอย่างไร
เราอาจปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนบางกลุ่มมองว่า การชนควายเป็นการทรมานสัตว์ แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้เหมือนกันว่า มีคนอีกบางกลุ่มเช่นกัน ที่มองว่าการชนควายนั้นเป็นประเพณีการละเล่นที่สนุกสนาน แต่นั่นอาจไม่ใช่สาระสำคัญอะไรของใครบางคน
บ้านในสวนยาง-นาขยาด-พัทลุง
๒ มกราคม ๒๕๕๐