Skip to main content

คอมมิวนิสต์

คอลัมน์/ชุมชน

 







ในช่วงหลังรัฐประหาร จนถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ (ที่เดินเข้าไปจับมือกับอดีตคอมมิวนิสต์เก่าทั่วทุกเขตงาน) แน่นอน ในยามนี้เราจึงมักได้ยินผู้คนพูดถึงคำว่า "คอมมิวนิสต์" "เผด็จการ" "ประชาธิปไตย" "ทุนนิยม" และ "เศรษฐกิจพอเพียง" ไม่รู้สิ้น กระทั่งคนรุ่นใหม่งุนงง สับสนว่าอะไรคือ ดี งาม จริง ลวง


 


ท่ามกลางกระบอกเสียงคนละค่าย ต่างฝ่ายต่างโหมโฆษณา (ชวนเชื่อ) กันดังอึ้งมี่ กลุ่มนายทุนก็โหมโฆษณาลดแลกแจกแถม ก่อนเร่งกอบโกย ในขณะอีกกลุ่มหนึ่งก็ออกมาบอกย้ำ พอเพียง ๆ จนกลายเป็นแฟชั่น


 


บทกวีชื่อ "คอมมิวนิสต์" ส่งตรงมาจากเขตงานเก่าอีสานใต้ พร้อมจดหมายแนบแบบเสียดสีบอกว่า สถานการณ์ในขณะนี้ ที่ต่างฝ่ายต่างเรียกร้องให้คนพออยู่พอกิน นั่นก็เพราะที่ผ่านมาพวกโรคห่ามันเอาลงมาแด_ก กันหมด      



ภาพจาก www.baanjomyut.com


 


 


-1-


 





มันมีปากกว้างใหญ่ใจอย่างสัตว์              คอยจ้องกัดกินตัวเข้าหลืบลิ้น


เขี้ยวมันยาวเป็นศอกออกหากิน              ลิ้นมันปลิ้นเป็นหนามยามกัดคน


 


ตาเป็นไฟแดงฉานสะท้านไหว                เล็บมีไว้จิกหนังรังขุมขน


ตัวสูงยาวเขาใหญ่ไม่ใช่คน                    คอยวกวนสูบเลือดอย่างเย็นใจ


 


มีวัวควายไถนาก็ไม่ใช้                          จับคนไปลากแอกแบกเอาไว้


แม้แต่พระสงฆ์เจ้ามันเอาไป                   เอาไปใช้แรงงานแทนไอ้ทุย


 


จับคนเฒ่าคนแก่ไปแล่เนื้อ                    เอาใส่เกลือเถือหนังฝังทำปุ๋ย


กระดูกแข็งเอาทำปี่ที่มันคุย                   บ้างขุดคุ้ยไส้เดือนกินแทนข้าว


 


เดินผอมโซซี่โครงโพรงกระร่อง              นอนก่ายกองเลือดนองปวดรวดร้าว


เสียงร่ำร้องโหยหามาครั้งคราว                กลิ่นคราบคาวราวเลือดเดือดน้ำตา


 


ต่างโฆษณาด่าสัตว์คอมมิวนิสต์              อำมหิตชั่วโฉดโหดชั่วช้า


วิทยุโทรทัศน์ซัดออกมา                       เสียงแช่งด่าว่าไปไม่ใช่คน


 


กระดูกไทยกระเด็นไปไกลกี่ท่อน           เชิงตะกอนเผาไฟไปกี่หน


ที่คอขาดเพื่อชาติไปกี่คน                      ตะโกนก่นบอก "ไอ้คนหนักแผ่นดิน"


 


-2-


 


เสียงแว่วมาพาบอกให้เรารู้...                 บ้างต้องอยู่หวาดกลัวความโหดหิน


แต่ว่า "คอมฯ" อยู่ไหนเพียงได้ยิน          ที่ชาชินจนชาคือมัน "จน"


 


มีวัวควายไถนาก็ขายหมด                     ต้องซื้อรถมาไถใจสับสน


แม้นแต่พระสงฆ์เจ้าเฝ้านิมนต์                ท่านเทศน์บ่นบอกว่าคนหลงเมามัว


 


เหลือคนเฒ่าคนแก่แกเฝ้าบ้าน                ซากเรือนชานถิ่นบ้านร้างไปทั่ว


นาก็แล้งน้ำฝนคนหมองมัว                     บางครอบครัวติดหนี้ต้องขายนา


 


ต่างซัดเซพเนจรหอบหมอนมุ้ง                ในเมืองกรุงนอนก่ายกองร้องเรียกหา


บ้างก็มุดคุดคู้ตามชายคา                       ชานชาลาสถานีหัวลำโพง


 


โฆษณาขันแข่งแย่งอย่างสัตว์                โทรทัศน์มากเห็นเป็นโขมง


ข่าวก็บอกออกมาทุกชั่วโมง                   มีเรื่องโกงเรื่องโกยเรื่องหากิน


 


มันมีปากว้างใหญ่ใจอย่างสัตว์                คอยจ้องกัดกินตัวเข้าหลืบลิ้น


เขี้ยวมันยาวเป็นศอกออกหากิน              ลิ้นมันปลิ้นเป็นหนามยามกัดคน


 


ตาเป็นไฟแดงฉานสะท้านไหว                เล็บมีไว้จิกหนังรังขุมขน


ตัวสูงยาวเขาใหญ่ไม่ใช่คน                    คอยวกวนสูบเลือดอย่างเย็นใจ


 


เสียงร่ำร้องผอมโซโอ้ชีวิต                     ฟ้าลิขิตขีดเส้นเป็นไปได้


เป็นบาปบุญคุณโทษโกรธอะไร              จึงยากไร้จนจรร้อนระทม


 


กระดูกไทยกระเด็นไปไกลกี่ท่อน           เชิงตะกอนเผาไฟใจสั่งสม


วิญญาณปู่กู่ก้องร้องระงม                      ที่ขื่นขมเพราะไอ้คน "คนหนักแผ่นดิน"


 


 


รัชนี  รัตติกาล


อีสานใต้