Skip to main content

วันหนึ่ง โรงซ่อมอวัยวะมนุษย์

คอลัมน์/ชุมชน

22 ปีแล้วสิหนอ ที่ฉันเดินไปเดินมาในโรงซ่อมมนุษย์  ฉันอยากจะเรียกอย่างนั้นไม่ว่าหลังนี้ หรือหลังไหน ไม่เคยต่างกัน โรงเรือนใหญ่ๆ ที่ไม่มีใครอยากผ่าน  แม้เพียงแวะไปเยี่ยมเยือนชั่วครู่  ยังต้องตัดใจยากเย็น


 


โรงเรือนสีขาว  ม่านสีฟ้า


กลิ่นยา  น้ำยาฆ่าเชื้อฉุนจมูก


ม้านั่งแถวยาว  และผู้คนใบหน้าอมทุกข์


เรียกขานชื่อดัง… ก้องกังวาน


เตียงเหล็กและโต๊ะข้างเตียงเก่าๆ เรียงราย


หรือเพียงชื่อของฉันเท่านั้น  ที่คนหน้าแปลกๆ ต่างผ่านมาเรียกซ้ำๆ แล้วผ่านไป


ในโรงเรือนสีขาวหลังนี้


 


เวลาที่เปลี่ยนผ่านแต่ละวัน เราเรียกช่วงเวลาเช้าถึงเย็นว่า เวรเช้า ตอนเย็นถึงกลางดึกเรียกว่า เวรบ่าย  และกลางดึกจนถึงเช้าเรียกว่า เวรดึก 


 


เราหมายถึงผู้ที่ทำหน้าที่ซ่อมบำรุงทั้งหลาย  ทั้งหมอเวร  พยาบาลเวร และน้องเวร (Helper)


ในบางดึกอากาศหนาว ผู้ซ่อมจะกลายเป็นผู้ถูกซ่อมไปได้เหมือนกัน  เมื่อต้องโต้รุ่งไปหลายๆ ดึก


เมื่อถึงขั้นตอนการซ่อมแซม  อุปกรณ์ในการซ่อมแซมทั้งหลายควรจะพร้อมใช้งาน  นั่นเป็นข้อมาตรฐานของโรงซ่อม ที่ตั้งไว้ว่าจำเป็นต้องมี  แต่ขนาดคนทำงานเช่นฉัน  ยังต้องผ่านมา 22 ปี อุปกรณ์ในร่างกายยังชำรุดทรุดโทรม ผ่านการซ่อมแซม  ตัดทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า  นับประสาอะไรกับอุปกรณ์อื่นๆ 


 


บางชิ้นมีอายุเกิน 100 ปี


แทบจะจุดธูปเวลาใช้งาน  เดาอารมณ์ไม่ถูกว่าจะใช้ได้หรือเปล่า


 


แล้วประโยคที่บอกว่า  รู้เขารู้เรา  รบพันครั้งชนะพันครั้ง นั่นเล่า ผ่านไปได้เลย


เพราะเมื่อผ่านมาถึงวันนี้ ฉันก็บอกตัวเองได้ว่า ไม่มีอะไรเลยที่แน่นอน


 


ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงและไม่มีอะไรน่าติดยึด


มีเพียงความดีงาม และปรารถนาดีเท่านั้น  ที่จะหมุนโลกไปได้


 


พูดถึงผู้ซ่อม ถึงอย่างไรก็เป็นปุถุชนที่เต็มไปด้วยกิเลส บางคนพยายามละลด แต่บางคนยิ่งพอกพูน แต่ถึงกระนั้น ยังทุกข์ร้อน เมื่อเห็นคนอื่นทุกข์ ทรมานเมื่อเห็นคนอื่นทรมาน และมีใจอยากให้คนอื่นพ้นทุกข์  ด้วยเสี้ยวหนึ่งในหัวใจที่มีสิ่งนี้อยู่ ทำให้บรรยากาศโรงซ่อมยังคงงดงาม แม้ว่าจะต้องรับมือกับผู้ถูกซ่อมมากมายหลายประเภท เปิดตำราแทบไม่ทัน  แต่บรรยากาศการเอื้อเฟื้อยังคงมีให้เห็น


 


ในบางวันที่หนักเหนื่อย  เมื่อเราเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียก


 


"มาหาคนไข้"


"ชื่อและนามสกุลล่ะคะ"


"ไม่รู้จัก"


"เป็นอะไรคะ"


"เป็นคนข้างบ้าน"


"ไม่ใช่ เป็นอะไรมาคะ"


"มาคลอดลูก"


"เขาอยู่ที่ไหน"


"อยู่ข้างบ้าน"


(จะหัวเราะ หรือร้องไห้ดีหนอ)


 


"บ้านเดิมของเขาอยู่ไหนคะ"


"อยู่อุทัยธานี"


"อ๋อ น่าจะเป็นห้อง 414 ลองเคาะประตูเปิดเข้าไปดูสิคะ ถ้าไม่ใช่ก็ขอโทษเขาก็แล้วกัน"


 


พอได้ยินเสียงเปิดปิดประตู  ก็มีเสียงเฮ .. ดังลั่น


โล่งใจไปที ใช่จริงๆด้วย     


เออหนอ อย่างนี้ก็มีด้วย