Skip to main content

ความงามที่แตกต่าง

คอลัมน์/ชุมชน

ในบรรดาผู้คนผู้แสวงหาสุนทรียภาพแห่งชีวิต...  สุดแท้แต่รสนิยมอันเลอเลิศวิไลแห่งตนนั้น  หลากหลายมากมายวิถี ปัจจัย เหตุ ผล ที่มา ที่ไป การพานพบ โชคชะตา  ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบแห่งการแสวงหานั่นเป็นแน่แท้  ในยุคสมัยที่ผู้คนดำรงอยู่แตกต่างกัน น้อยบ้าง มากบ้างนี้  การณ์ปรากฏก็ยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น....  ว่ากันว่าอย่างนี้ว่า


           


เมื่อคนรฤกนึกถึง "กระท่อม"  และในภูมิทัศน์ที่แตกต่างออกไป  เป็นกระท่อมเชิงเขาบ้างกระท่อมปลายนาบ้าง  กระท่อมริมน้ำบ้าง หรือกระทั่งกระท่อมชายทะเล  ก็ว่ากันไป   วูบแรกในคำนึง  คนนึกถึงภาพใด   บางผู้คนอาจเห็น กระท่อมไม้ไผ่มุงหญ้าคา ลมพัดพาชายคาสะบัดปลายชายคานั้น  ด้านหลังคือพฤกษ์ไพรอุดมสมบูรณ์  กระท่อมที่ถูกออกแบบสร้างให้เรียบง่ายและงดงาม  เป็นไปตามทิศทางลม ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่ง สบายเหมาะแก่ภูมิอากาศในประเทศเขตร้อนชื้น  ใต้ถุนไม่สูงนักพอให้ลมได้พัดมาผ่านพื้น  ระเบียงถูกตกแต่งด้วยกิ่งก้านเถาวัลย์ไม้เลื้อย ต้นไม้ในกระถาง หรืออาจแต่งแต้มด้วยกล้วยไม้ดอกสีสวยสดใส  ของใช้ในเรือนที่สรรหามาเพื่อเข้ากับอารมณ์อันแสนโรแมนติก  และใช้ประโยชน์ได้  คนผู้อยู่กระท่อมเอกเขนกมองต้นไม้ใบหญ้า หมู่นกที่โผบินยามสนธยา  เสพสุนทรียภาพที่น้อยคนนักในยุคสมัยเดียวกันจะได้สัมผัส


           


อีกหนึ่งกระท่อม....ปลูกอยู่ในหุบเขาห่างไกลสร้างอย่างเรียบง่ายกว่าด้วยเครื่องไม้เครื่องมือที่มีไม่มากนัก วัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น แบบก็เป็นแบบง่ายที่เป็นความรู้สิ่งสมมาจากคนรุ่นก่อน ด้วยการคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยเป็นด้านหลัก  ว่าก็คือ กันฝนได้ดีหน้าฝน  กันแดดกันร้อน  และกันลมหนาว  ฝากระท่อมจึงอาจจะถูกปิดทุกมุม  ด้านในกระท่อมจึงดูมึดทึบทึมอยู่ทั้งวัน  และภายในนั้นก็ตกแต่งตามสะดวก จัดสรรพื้นที่อย่างง่ายๆ มุมหนึ่งนอน มุมหนึ่ง ครัว และหลายมุมก็อาจใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง  มุมที่นอนก็รับแขกได้  อะไรอย่างนี้เป็นต้น 


 


เครื่องไม้เครื่องมือก็มีพอประมาณ ทุกสิ่งถูกใช้อย่างสมประโยชน์  ไม่มีทรัพย์ส่วนที่เกินความจำเป็น  และทุกอย่างนั้นก็ใช้งานได้ แข็งแรง แทบทุกส่วนทำขึ้นด้วยมือ  ด้านนอกนั้นเล่า  ไม่มีสวนด้านหน้า  อาจจะมีกล่วยไม้ติดอยู่หน้าบ้าน ด้วยหิ้วติดมือมาจากไร่  ใต้ถุน ด้านหน้า ด้านหลัง  ก็เป็นไปตามธรรมชาติ ต้นไม้จะขึ้น หญ้าจะงอก  ถ้ามันไม่ได้รบกวนวิถีชีวิตก็ปล่อยมันไป  หรือบางครั้งก็หยอด วางเมล็ดพันธุ์บางอย่างลงไปที่ใดที่หนึ่งรอบๆ นั้นว่ากันไป  โดยไม่ได้มานั่งคิดว่ามันจะต้องเกิดและโตมาเข้ากับภูมิทัศน์อย่างไร  กับคนผู้อยู่กระท่อม  ผู้ตรากตรำทำงานในไร่ นา ในตลอดฤดูการเพาะปลูก  เอกเขนก เล่นกับลูกหลานายามสนธยา มิได้ใส่ใจกับหมู่นกแถวนั้น


 


คนผู้อยู่ในกระท่อมสองหลังนี้อาจมีมิติ วิถีการแสวงหาความงามเช่นเดียวกัน  หากแต่สภาพปัจจัยแวดล้อม การหนุนนำ ทำให้เกิดรสนิยมที่ต่างออกไป  ความงามจึงต่างกัน  นั่นแปลว่าในหัวใจของคนนั้นมีความงาม  แต่แตกต่างกันในการสร้างภาพความงาม  การเกี่ยวข้องกับความงาม การเสพ และการใช้สอย    แต่น่าสงสัยอยู่ว่าขณะที่ดูเหมือนคนในกระท่อมหลังที่สองนั้นอาจมองเห็นมิติความงามของกระท่อมหลังที่หนึ่ง  แต่คนในกระท่อมหลังที่หนึ่ง จะมองเห็นกระท่อมหลังที่สองด้วยความรู้สึกแบบใด


 


และ...บนแผ่นดินที่ไกลออกไป.......ดินแดนที่ไม่อาจมี กระท่อม  ผู้คนจำต้องสร้างบ้านหลังใหญ่  มันเป็นรสนิยมร่วมของยุคสมัยหรือเปล่า   บ้านที่รูปแบบเกือบจะเหมือนกัน ไม่ใหญ่มาก ใหญ่มาก บางที่อาจเรียกคฤหาส ปราสาทก็ว่าไป ทรัพย์ที่มีก็แปรมาเป็นสิ่งประดิษฐ์ประดับประดาตกแต่งวิจิตรบรรจงด้วยช่างผู้ชำนาญในการเนรมิตศิลปกรรมเลิศเลอ  สวยงามตระการตา  ด้วยวัสดุหายากจากดินแดนไกลโพ้น  ราคาแพง  กับคนผู้อยู่ใน บ้าน นั้นเสพสุนทรียภาพจากเครื่องใช้ไฟฟ้า เทคโนโลยีนำสมัย  มองดูความเป็นไปของโลกจากจอภาพ ฟังดนตรีจากเครื่องเสียงชั้นดี  ศิลปะที่บอกเล่าถึงความงามของธรรมชาติ  ด้วยว่าไม่มีโอกาสได้ไปเยือนของจริงนัก....


 


ว่ามาเช่นนี้....พื้นฐานหัวใจมนุษย์ย่อมมิได้แตกต่างกัน  ว่าในแง่มิติ วิถีของการแสวงหาสุนทรียภาพแห่งชีวิต  แต่สายตาของมนุษย์แตกต่างในการมองเห็น ว่าก็ว่า สายตาที่เห็นแม่น้ำที่ไหลโครมครามเบื้องหน้า  กับสายตาที่เห็นแม่น้ำยามหลาก ไหลล้นฝั่งคดเคี้ยวทอดยาวเลื้อยเลาะร้องภูเขาหล่อเลี้ยงชีวิต สู่ทุ่งเบื้องล่าง  เอื้อเฟื้อเกื้อกูลชีวิตโดยไม่เลือกเผ่านพันธ์     นั่นเป็นภาพแม่น้ำสายเดียวกัน  ด้วยสายตาคนละสาย  แล้วเรื่องราวทั้งหมดนี้มันเกี่ยวข้องกันอย่างไรเล่า...ทุกอย่างมันจึงเป็นไปเช่นนั้นเอง