Skip to main content

มาจากไหนจะไปไหน ฟ้าดินใดใครเล่าเขาลิขิต (1)

                         


 


1


โอ้-ชีวิตยังรู้สึกยังนึกคิด


โอ้-ชีวิตยังสั่นส่ายยังว่ายไหว


ทุกอณูเลือดเนื้อทุกเยื่อใย


ยังรู้สึกนึกได้…หนอชีวิต


 


 


2


มาจากไหนจะไปไหน


ฟ้าดินใดใครเล่าเขาลิขิต


เวรหรือกรรมอำนาจใดกำกับทิศ


เนรมิตลีลาชีวาวาด


 


            3


เจตนาหรือไม่ได้มาอยู่


เป็นหนึ่งผู้ในโลกลักษณ์อันประหลาด


เป็นมนุษย์เป็นสัตว์ชั้นสูงสามารถ


กล่าวประกาศประกอบรูปนามนานา


 


            4


โอ้-ชีวิตยังรู้สึกยังนึกคิด


โอ้-ชีวิตยังพรึงพรั่นหวั่นผวา


มาจากไหนจะไปไหนในมรรคา


ไยลีลาอยู่ในโลกเพียงชั่วยาม


 


            5


น่าฉงนสนใจนะชีวิต


ยิ่งครุ่นคิดยิ่งหลงใหลในคำถาม


ซึ่งมิอาจมีใครตอบให้ชอบความ


เป็นนิยามจริงแท้ได้แน่ชัด


 


            6


มาจากไหนจะไปไหนต่อไปนี้


คำตอบมีเพียงศาสดาที่กล้าตรัส


ปุถุชนอย่างเราเขลาชะมัด


ยากจะคัดค้นคำตอบได้ชอบใจ


 


            7


มาจากไหนจะไปไหนไกลเกินฝัน


เลิกถามกันเสียทีจะดีไหม


แค่โลกนี้ที่เป็นอยู่สู้ต่อไป


เรายังไม่รู้จักกระจ่างแจ้ง


 


            8


นับประสาอะไรจะไปรู้


โลกที่อยู่นอกทางทิศคิดแถลง


ที่จากมาที่จักไปได้แสดง


เลิกคลางแคลงเลิกคิดฝันกันเสียที


 


             9


แค่ตรงหน้าโลกนี้ที่เผชิญ


ขณะเดินตามเส้นทางลายวิถี


หนึ่งชั่วโมงอันยุ่งยากต่อจากนี้


จักเกิดมีเหตุการณ์ใดยังไม่รู้


 


            10


ไม่อาจรู้จะรู้ไปทำไมเล่า


ชีวิตเราถูกจำกัดมัดให้อยู่


ภายใต้กรอบเหตุผลของตนกู


เพียงตาหูจมูกลิ้นกายใจ


 


11


คิดก็คิดได้แค่คั้นมันสมอง


มองก็มองเท่าที่ตาไม่พร่าไหว


ฟังก็ฟังเท่าที่เสียงเรียงร่ำไร


สัมผัสได้ก็เท่าเนื้อเอื้อให้ชิด


 


            12


ความเป็นคนของเราก็เท่านี้


ไม่ว่ามีหรือไม่มีใครลิขิต


ต่ำเพียงดินสูงเพียงฟ้าน่าเพ่งพิศ


ทุกชีวิตขับเคลื่อนไปด้วยใจกาย


 


            13


เวลาเล่าเขาก็ทำให้จำกัด


ไม่อาจขัดขืนต่อขอขยาย


โอ้-ชีวิตเหมือนเชือกควั่นพันต้นปลาย


วันคืนคล้ายมีดคอยบั่นให้สั้นลง


 


14


ไม่ยกเว้นราชากระยาจก


ล้วนต้องตกดินยุ่ยเป็นผุยผง


ยามคมมีดแห่งคืนวันฟาดฟันลง


เฉียบฉับตรงเบื้องปลายสายสัมพันธ์


 


15


เหลือเพียงแค่ผลกรรมเคยทำไว้


ให้คนได้เล่าลือระบือลั่น


ทำความดีคนแซ่ซ้องยกย่องกัน


ร่ำรำพันโอ้อาลัยไม่สร่างซา


           


            16


รักทำชั่วไม่กลัวบาปกรรมใด


ใครต่อใครเขาก็แย่งกันแช่งด่า


ถึงคราวตายคนทั้งหลายโมทนา


สาธุ!สาท่วมหัวกันทั่วไป


 


            17


เพื่อที่จักถูกลืมไปในวันหนึ่ง


เมื่อยามถึงกาลล่วงลับเกินนับไหว


ทั้งดีชั่ววอดวายสิ้นกายใจ


เหมือนอย่างไม่เคยมีมาแล้วลาเลือน


 


            18


โอ้-ชีวิตคิดไปไร้สาระ


เห็นสัจจะรูปรอยการคล้อยเคลื่อน


แห่งชีวิตแห่งวิถีแห่งปีเดือน


มันไหลเลื่อนเป็นวงวัฎสัมพัทธ์กัน


 


            19


อยู่ในโลกทำความดีมีคุณค่า


บางเวลาก็ขืนขัดอึดอัดอั้น


กับความดีที่น่าเบื่อ…ในบางวัน


ต้องอดกลั้นอดอยากต้องตรากตรำ


 


            20


อยากจะทำความชั่วก็กลัวบาป


กลัวถูกสาปถูกเสียบถูกเหยียบย่ำ


แต่ความชั่วบางอย่างช่างงามล้ำ


จึงแอบทำบ้างด้วยรักสมัครใจ


 


31 มกราคม 2550


กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่