Skip to main content

เอมี่-ธรรมศาสตร์-รัฐประหาร

คอลัมน์/ชุมชน

ภาพชุดวาบหวิวของดาราสาวเอมี่ในงานประกาศผลรางวัลสุพรรณหงส์เป็นอะไรที่น่าดูสำหรับคนหลายกลุ่ม (ซึ่งสารภาพว่าผมก็อยากดูด้วย) แต่มันอาจระคายเคืองต่อมจริยธรรมของคนบางกลุ่มทั้งนี้ขึ้นกับจริตและตำแหน่งแห่งที่ที่แตกต่างกัน


 


ประเด็นที่ว่าการแต่งกายของเอมี่อนาจารหรือไม่นั้นน่าจะเลิกเถียง เลิกถามกันได้แล้ว เพราะไม่มีมาตรฐานที่ไว้ใจได้ในการวัด ในการบ่งชี้ว่าเส้นแบ่งของความอนาจารและไม่อนาจารอยู่ตรงไหนและเรื่องของมาตรฐานก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับอำนาจ ใครเป็นผู้กำหนดมาตรฐานพวกนั้นก็ได้รับอำนาจในการตัดสินและประณามไป


 


สิ่งที่ผมอยากตั้งข้อสังเกตอันเนื่องมาจากความหงุดหงิดใจในเรื่องนี้ก็คือ การที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อันเป็นสถาบันการศึกษาที่เอมี่ศึกษาอยู่ ได้เรียกเอมี่เข้าไปตักเตือน ซ้ำเติม กดดัน เพื่อให้เอมี่รู้สึกผิดต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป


 


อันที่จริงเรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่หรือธุระของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เลยแม้แต่น้อย เป็นเรื่องที่น่าสมเพชเวทนาและหน้าด้านอย่างแรงที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กล้าตักเตือนเด็กในเรื่องนี้  หากเมื่อลองมองไปที่คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย ตลอดจนบรรยากาศในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขณะนี้ ผมคิดว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์น่าจะเป็นสถาบันแห่งสุดท้ายด้วยซ้ำที่สามารถออกมาพูดเรื่องจริยธรรม ความเหมาะสมได้ เพราะว่าอะไร?


 


1. สมมุติว่าถ้าเอมี่ทำผิดจริงคนที่ควรจะเตือนเอมี่เป็นคนแรก ๆ ก็คือคนใกล้ชิดซึ่งก็คือพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ตลอดจนเพื่อนฝูงที่สนิทสนมกัน ไม่ใช่ว่ามหาวิทยาลัยไม่ควรสอนเด็กเรื่องจริยธรรม ที่จริงแล้วควรอย่างยิ่ง แต่ข้อเท็จจริงที่ว่ามหาวิทยาลัยนั่นแหละที่เป็นแดนสนธยาที่ขาดจริยธรรมอย่างที่สุด - ผมจะยกตัวอย่างในข้อต่อไป เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วมหาวิทยาลัยที่มืดบอดต่อจริยธรรม จะสอนเรื่องจริยธรรมให้แก่เด็กได้อย่างไร แม้จะสอนได้ก็คงจะเป็นจริยธรรมชนิดที่ปากว่าตาขยิบแบบที่มหาวิทยาลัยเป็นอยู่


 


2. เหตุการณ์แต่งกายวาบหวิวครั้งนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยเสียหน่อย คนละกาละเทศะกันเลย แต่ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คงอยากจะให้สังคมรับรู้ว่าดินแดนแห่งนี้ตลอดจนคณะผู้บริหารยังมีจริยธรรมหลงเหลืออยู่ ดังนั้นจึงเต้นไปตามสื่อ ช่วยสื่อรุมทำร้ายเอมี่ แทนที่จะปกป้องศักดิ์ศรีให้แก่เธอ (ผมนึกตลกที่เสี่ยเจียงประกาศว่าจะไม่ใช้งานเธออีกแล้ว คำถามของผมก็คือคุณคิดหรือว่านักธุรกิจที่คิดถึงแต่กำไรจะมีจริยธรรม? หรือถ้ามีผมก็ขอเรียกว่าเป็น "จริยธรรมแบบเสี่ยงเจียง" ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคือแบบไหน)


 


3. เอมี่ไม่ใช่เด็กประถม เธอโตพอที่จะตัดสินใจเองได้แล้วในเรื่องของความเหมาะสม แต่สังคมที่มีแต่ "เด็กกับผู้ใหญ่" พยายามยัดเยียดความเป็นเด็กให้แก่เธอ ในขณะที่เสี่ยเจียง ผู้บริหารมหาวิทยาลัย และคุณหญิงคุณนายจากกระทรวงวัฒนธรรมล้วนแล้วแต่สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นผู้ใหญ่ (แน่นอนว่าผู้ใหญ่ต้องมีอำนาจ และรู้จักความผิดถูกชั่วดีมากกว่าเด็ก!?)


 


การรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ที่เกิดขึ้นก็เกิดจากผู้ใหญ่ที่รู้ดีกว่าเด็ก ผู้ใหญ่ที่ยัดเยียดความเป็นเด็กให้แก่สังคมแล้วสถาปนาตนเองขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ผูกขาดความถูกต้อง ผูกขาดจริยธรรม ผูกขาดความรักชาติ และผูกขาดอนาคตของประเทศไทย แน่นอนรัฐประหาร 19 กันยา คือการข่มขืน "เด็ก"


 


4. ถ้าสมมุติว่าเอมี่แต่งกายน่าเกลียดจริง (ในสายตาของผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสายตาของคุณหญิงคุณนายจากกระทรวงวัฒนธรรมและสายตาของสื่อ) ผมว่าคณะผู้บริหารและอาจารย์บางท่านของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์มีความน่าเกลียดกว่าหลายร้อยเท่า ตรรกะของผมง่ายนิดเดียวคือ


 


การแต่งกายโป๊ะ (สมมุติว่าโป๊ะ) ของเอมี่นั้นเลวร้ายน้อยกว่าการรับใช้รัฐประหาร รับใช้ทรราชย์อำนาจเถื่อนอย่างเทียบกันไม่ติด ผมคงไม่จำเป็นต้องบอกนะครับว่ามีอาจารย์ท่านใดบ้าง-น่าสงสัยว่าจะเรียกว่าอาจารย์ได้อีกหรือไม่


 


อาจารย์ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่รับใช้รัฐประหาร 19 กันยายน ควรจะสำเหนียกตัวเองได้แล้วว่าเป็นผู้มีความวิปริตทางจริยธรรมโดยเฉพาะทางจริยธรรมทางการเมือง แล้วเมื่อจริยธรรมเกิดความวิปริตบิดเบี้ยวเสียแล้ว อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ควรจะรู้ตัวเองว่าไม่ควรไปสั่งสอน ตักเตือนใครในเรื่องจริยธรรมอีก อันที่จริงอาจารย์ธรรมศาสตร์ที่รับใช้รัฐประหารอย่างเซื่อง ๆ ไม่น่าจะมีความภูมิใจในตนเองหลงเหลืออยู่แล้วด้วยซ้ำ  และเหตุผลข้อนี้เพียงข้อเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต่อบทบาทในเรื่องเอมี่


 


--------


 


กลุ่มสิทธิสตรีน่าจะออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างจริงจังเพราะนี่เป็นอีกกรณีหนึ่งที่ศักดิ์ศรี คุณค่าของผู้หญิงถูกละเมิดโดยสังคม โดยผู้ชาย ไม่ควรจะปล่อยให้เอมี่ต้องเผชิญกับความรู้สึกผิดที่สังคมยัดเยียดให้โดยลำพัง


 


เอมี่กลายเป็นเหยื่อของสังคมไทยที่กำลังมีความวิปริตทางจริยธรรมอย่างแรง หากสมมุติว่าเอมี่หน้าด้าน คนที่หน้าด้านยิ่งกว่าก็คือผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่รับใช้รัฐประหารที่ตักเตือนเธอ คือคณะรัฐประหารที่ข่มขืนประชาธิปไตย   คนเหล่านี้ไม่เคยสำเหนียกแม้แต่น้อยเลยว่ามีระดับจริยธรรมในระดับที่ต่ำกว่าเอมี่เสียอีก.