Skip to main content

'เรื่องเพศ'

คอลัมน์/ชุมชน

อีกหนึ่งเรื่องจริงในสังคมไทย


ไม่น่าจะผิดนัก หากจะอธิบายคำว่า "ความเป็นจริง" ให้เทียบเคียงได้กับ "ความสัมพันธ์" - - ระหว่างสิ่งหนึ่งกับอีกสิ่ง ระหว่างคนกับอีกคนหรืออาจจะอีกหลายคน


อย่ากระนั้นเลย ไม่น้อยคนนักหรอกที่มองความจริงจากความสัมพันธ์นั้น ๆ ที่เกิดขึ้น หรือบ้างก็มองความจริงจาก "ปฏิบัติการ" แต่ละเรื่องแต่ละระดับ


ปฏิบัติการในที่นี้ว่าไปก็คือ "การเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์" ซึ่งเลี่ยงแทบไม่ได้ที่ต้องอาศัย "พลังอำนาจ"


จนทุกวันนี้ คุณเห็นด้วยไหมว่า …
ความสัมพันธ์, ปฎิบัติการ กับ เรื่องของการแย่งชิงอำนาจ ล้วนเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่มีผู้ใส่ใจติดตามกันอยู่เป็นเนืองนิจ เพราะมันเกิดขึ้นท่ามกลางการดำเนินชีวิตทางสังคม


ปัจจุบัน ในการศึกษาเรียนรู้เพื่อก้าวให้ทันโลก, ทันสังคม ต้องจับตามองเรื่องราวของ ชุมชน และการรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หนีไม่พ้นที่จะ "แห่" กันไปศึกษา …"ชุมชนใดชุมชนหนึ่ง ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน กระทั่งมีโอกาสที่จะเกิดการปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์เชิงอำนาจ"…
หากเป็นที่น่าตั้งคำถามว่า ความสัมพันธ์อีกหลาย ๆ อย่าง ที่เห็นกันจะแจ้ง แต่เสมือนยอมรับร่วมกันว่า "หมกไว้ใต้พรมน่ะดีแล้ว"


ตัวอย่างหนึ่งที่ไม่ได้หมายจะยกขึ้นมาเพื่อประชดประชัน แต่ยกขึ้นมาทีไรไม่วายหลายท่านใจหาย
"เรื่องเพศ!?"
ไม่รู้จะตกใจกันไปทำไม เพราะทุกทีที่หยิบยกเรื่องนี้ก็มีทั้งแง่มุมของความสัมพันธ์, ปฎิบัติการ, เรื่องของการแย่งชิงอำนาจ ทั้งยังมีการรวมกลุ่มด้วย


ในหลายวงสนทนาของท่านที่ถือได้ว่าเป็น "ปัญญาชน" ยังคงได้ยิน คำกล่าวทำนองว่า "จะศึกษาเรื่องเพศ ไปทำไม?" ในกรณีที่จะศึกษาเรื่องเพศกันสักทีก็ผลักไปศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเพศของเด็กและเยาวชน เพื่อหวังควบคุม ป้องปราม


ทว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเพศในวัยผู้ใหญ่นี้ต่างหากที่น่าศึกษากันให้หนัก เพราะค้นลึกทีไรไม่วายพบการช่วงชิงพลังอำนาจได้สักที จะหมกไว้ให้มิดชิดด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นเรื่องส่วนตัว หรือแม้จะมีการรวมกลุ่มกันบนฐานของเรื่องเพศก็ไม่น่าศึกษาเพราะเป็นการมั่วสุม, เป็นการหมกมุ่น ทัศนะทำนองนี้จัดว่าล้าหลังอยู่มาก เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเพศไม่ใช่เรื่องคาวไปเสียทุกเมื่อทุกวาระ ทว่าการแสดงออกทางเพศ กลับเป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อรูปชุมชนแบบใหม่ ๆ ขึ้นมากมายในขณะนี้

ทุกวันนี้ชาวบ้านชาวเมืองล้วนรับรู้และให้ความสนใจกับการปรากฏตัวของคนกลุ่มต่าง ๆ อาจเนื่องมาจากสื่อ หลายแขนง นำเสนอภาพการรวมกลุ่ม และ ความสัมพันธ์กันภายในกลุ่มของคนที่มารวมกันด้วยประเด็นร่วมประเด็นใด ประเด็นหนึ่งอย่างจำเพาะเจาะจง ทั้งนี้ การรวมกันบนฐานของเรื่องเพศ จึงถูกนำเสนอและถูกจับตาไปด้วย


บางช่วงเวลา กลายเป็นกระแสของการแพร่ภาพความสัมพันธ์ระหว่างเพศรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่ต่างๆ ทั้งแง่ดี และแง่ลบ ซึ่งก็เป็นเรื่องทั่วไปที่ คนหนึ่ง หรือ ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ต้องมีทั้งแง่บวกและลบ หากประเด็นที่สะท้อนออกมาจากการรวมกลุ่มบนฐานของเรื่องเพศก็คือ ความเป็นคนในยุคนี้ มีแง่มุมใหม่ มีการรวมกลุ่มเพื่อทำกิจกรรมสะท้อนวิถีชีวิตแบบใหม่ ต่างคนต่างต้อง "พูด" ต้อง "เปล่งเสียง" ร้องหาที่ยืนกันทั้งนั้น


แต่น่าสนใจว่า การรวมกลุ่ม, กิจกรรม, คุณค่า, ความหมาย และ อะไรอีกมากมายเกี่ยวกับคนที่เรียกร้องเรื่องเพศยังถูกตั้งคำถามจากคนไทยหมู่มาก ว่า "จะกล่าวถึงคนเหล่านี้ ทำไม? สำคัญยังไง" งั้นก็ต้องเอาปี๊บคลุมหัวคนกลุ่มนี้ไว้ กระนั้นหรือ


ว่าก็ว่าเถิด ปฏิสัมพันธ์ของคนกับคนในชีวิตประจำวัน หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ที่หญิง ชาย รวมทั้งเพศอื่นๆ และคนประเภทต่างๆ อีกหลากหลาย ต้องร่วม (บาง) สถานการณ์เดียวกัน จุดนี้หากมองตามความหมายที่เสนอไว้ข้างต้น ก็เรียกได้ว่าเป็น "ความจริง" (ในระดับหนึ่ง) เพราะอย่างน้อยก็มีโอกาสให้เกิด "ความสัมพันธ์"…


ที่น่าสนใจต่อไปก็คือ หลายภาคส่วนยอมรับร่วมกันว่าความไหลลื่นของสื่อนั้น เป็นระบบขนส่งที่ชั่วแล่นที่สุด และสื่อ ก็ทั้งเผย ทั้งแผ่ร่าง และเรื่องราวของคนและเพศ ออกมาในเชิงบันเทิง รวมถึงในแง่ของสาระ ความรู้
เผยแผ่จนรับรู้กันไม่น้อยอีกเช่นกันว่า เรื่องราวเอย วิถีชีวิตเอย ของคนหลายหมู่หลายพวกนั้นเป็นเรื่องที่ศึกษาหาความรู้และหากินจากเรื่องดังกล่าวได้ - - ทุกชนเผ่าไม่มีละเว้น ถูกหยิบเอามาเป็นเรื่องหากินได้ทั้งสิ้น… ทว่า คำถามทำนองว่า จะศึกษาเรื่องเพศไปทำไมกัน ก็มีออกมาเรื่อยๆ เป็นที่น่าสนใจไม่น้อยเลยว่าผู้ที่ตั้งคำถามนั้น ในหนึ่งวัน…


ได้รับสื่อบ้างไหม? นิยมรับสื่อประเภทใด? สื่อที่ได้รับ…สะท้อนภาพรวมของสังคมแล้วหรือไม่?
การรวมกลุ่มให้เพื่อเห็นความสำคัญของเรื่องเพศ นับว่าเป็นกลุ่มชนกลุ่มหนึ่งหรือไม่?


การถล่มทับด้วยคำถามที่ว่า ศึกษาเรื่องเพศ…ทำไม เสมือนประหนึ่งจับคนที่กล้าพูดเรื่องเพศ ทุกคนขึ้นรถด่วนขบวนหนึ่งอย่างแออัด แล้วให้รถด่วนนั้นพุ่งลงเหว ระเบิด สลาย ไปพร้อมกันเสีย
คำถามที่น่าจะถาม มันควรจะอยู่ที่ว่า
"เรื่องราวทางเพศ … เคยเป็นเรื่องที่ไม่นิยมกล่าวถึง แต่ทำไมขายได้โครม ๆ อยู่ทุกวันนี้"
"ทำไม คน กับเรื่องเพศของคน จึงต้องถูกหมกปิดเอาไว้ (มาช้านาน) ?"


หรือ เรื่องเพศ ถือตามคติแบบไทย ยังต้องเป็นเรื่องที่สมควรเหนียมอายชั่วกาลอวสาน?
หรือ เรื่องเพศ แม้จะทำให้เกิดความไม่ลงรอยเพียงใด ก็ต้อง "หนีบ" พับเก็บเอาไว้ อย่าไปใส่ใจศึกษา หรือพูดถึง?
หรือ เป็นเพียง จริต ของคนบางแบบ ที่ต้องการดำรงความขลังของความเป็น "ผู้ที่มีตำแหน่งแห่งที่" จึงต้องหมกซ่อนเรื่องเพศไว้ อาจเป็นเพราะไม่มีภูมิรู้ที่จะอภิปรายก็ต้องแก้ลำไปทำนองว่า ไม่ใช่เรื่องน่าพูดถึง ขณะที่พยายามตีแผ่ความเป็นผู้ดี ความเป็นชนชั้นสูง ที่ใช้ภาษีของราษฎรร่ำเรียนจนชุบตัวได้เหนือกว่า!?
เอายังไงดีคนไทย


จะจัดวางจารีตบางข้อที่ไม่เอื้อต่อวิถีชีวิตของคนอีกหลายต่อหลายคน อย่างไรดี?
จะ ธำรงจารีต กีดกันคน
หรือจะ หนุนเสริมคน โดยปรับใช้ระบบจารีต


คำถามนี้ ฝากเอาไว้ให้ผู้ที่ดำเนินชีวิตตามระบบช่วยตอบ