Skip to main content

สองมือของเธอ ผู้นำทางฉันไปในความเงียบ

คอลัมน์/ชุมชน

ฉันได้ยินเสียงเรียกชื่ออยู่ริมหน้าต่างห้อง  พี่ติ๋วนั่นเอง  


 


น้องลงมาหน่อย พี่ซื้อก๋วยเตี๋ยวมาฝากเป็นอาหารเช้า เส้นหมี่ลูกชิ้นปลา ของโปรดเธอไง เสียงพี่ติ๋วดังผ่านความเงียบมาในยามเช้า ขณะฉันกำลังจะเข้าเวรเช้า


 


พี่ติ๋วเป็นพยาบาลอาวุโสรองจากหัวหน้าตึก ท่าทางนักเลง  นิสัยตรงไปตรงมาทั้งต่อหน้าและลับหลังของพี่  ทำให้ฉันชอบเวลาที่เราทำงานด้วยกัน ไม่ต้องเสแสร้งหรือปิดบัง เราเริ่มสนิทกัน อาจด้วยนิสัยคล้ายกัน ดูห้าวๆ แต่อ่อนไหว  ชอบสายลมแสงแดด ชอบอ่านหนังสือและหลงรักความเงียบเหมือนกัน ฉันจึงได้รับความอาทรจากพี่ติ๋วเสมอมา


 


ฉันเพิ่งจบพยาบาล ในขณะที่พี่ทำงานมาแล้ว 12 ปี


 


ฉันกำลังเก็บรับจากวิถีที่ฉันเลือกเดิน งานหนักที่สอนให้เรามองโลก รู้จักคิดและมีสติ รู้จักชีวิตและมองความงามจากสิ่งรอบตัว ฉันกำลังก้าวเดิน แต่ละก้าวฉันคอยเฝ้ามองเธอผู้มาก่อน  ผู้จะสอนฉันในคืนวันที่ผ่าน


 


ฝึกหัดคิดคำนวณจำนวนยาเวลาจะฉีดยานะ ไหนลองคิดมาให้พี่ดูก่อน มาฝึกแทงน้ำเกลือเด็กเล็ก พี่จะสอน เธอจับมือของฉันไว้ด้วยความอ่อนโยน สอนการหาเส้นเลือดเล็กๆ ที่ต้องเพ่งมอง แทงเส้นอย่างไรไม่ให้เด็กสะดุ้ง ทำอย่างไรไม่ให้เด็กเจ็บมากเวลาเจาะเลือด ในสถานการณ์ฉุกเฉินเราจะต้องนิ่งและมีสติให้มาก พี่จะคอยแอบมองเธอนะ


 


นั่นคือความอาทรของพี่ที่มีให้ฉัน ฉันเฝ้าบอกตัวเองว่า ฉันโชคดีเหลือเกินที่ได้พบพี่  ฉันจะปฏิบัติต่อทุกคนอย่างนี้เช่นกัน เพื่อตอบแทนความดีที่พี่ได้ทำ ไม่เฉพาะฉัน กับทุกคนพี่ก็เป็นอย่างนั้นสม่ำเสมอ


 


เวรเช้าวันนั้น มีพี่ติ๋ว ฉัน น้องพยาบาล และพิมพ์ เพื่อนของฉัน เราเรียนพยาบาลรุ่นเดียวกันมา  พี่หน้าซีดมาก ฉันแปลกใจตอนที่แอบมองหน้าตอนรับเวร เมื่อวานฉันได้ยินพี่บ่นเรื่องยุ่งๆ ของครอบครัว เรื่องลูกสองคน 2 และ 4 ขวบกำลังจะเข้าโรงเรียน เรื่องความเหลวไหลของสามี ฉันคิดว่าพี่คงนอนไม่หลับ หน้าเลยซีด แต่ฉันก็ไม่ได้เอ่ยทัก ปล่อยให้มันเงียบไปในใจของตัวเอง 


 


ก่อนเที่ยง ฉันได้ยินเสียงพี่พูด ใครจะกินก๋วยเตี๋ยวบีเอ็มบ้าง พี่อาสาไปซื้อ ฉันมองหน้าพี่แบบงงๆ ทำไมหรือ พี่ไม่เคยออกไปกินข้าวเที่ยงที่ไหนนอกจากแฟลต วันนี้ได้ยินพูดอย่างนี้ฉันนึกแปลกใจ แต่ก็เงียบอีกน่ะแหละ ฉันไม่ได้เอ่ยปากพูด ก๋วยเตี๋ยวบีเอ็มเจ้าดังอยู่ในซอยขายรถบีเอ็ม ต้องขับรถไป 500 เมตร ถึงจะได้กิน ฉันไม่นึกอยากกินเลย พี่คะยั้นคะยอและเอ่ยปากถามทุกคนพร้อมจดรายการฝากไว้ในกระเป๋าพยาบาล แล้วออกไปพร้อมพิมพ์เพื่อนฉัน ผู้อาสาไปช่วยถือ


 


บ่ายโมงกว่าแล้ว ทำไมยังไม่กลับมา ฉันเริ่มกระวนกระวาย  กำลังหันรีหันขวางในตึก ก็ได้ยินเสียงคนงานห้องฉุกเฉิน วิ่งหน้าตาตื่น ถามว่าพี่ไปไหน มีคนบอกว่าถูกรถชนอยู่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย  เป็นพยาบาลทั้งสองคน  ฉันทรุดลงไปนั่งกับพื้นตึก หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ พูดเหมือนละเมอว่าไม่จริง เสียงคนงานตอบว่า ใช่พี่ติ๋วนะ เจ็บหนักด้วย พยาบาลที่นั่นเขารู้จักพี่ ใช่แน่แล้ว


 


ฉันหันไปบอกน้องที่อยู่เวรด้วยว่าฝากคนไข้ด้วย  ฝากบอกพี่หัวหน้าตึกด้วย ฉันออกวิ่งไปด้วยความปวดร้าวแน่นอก ทำไมหนอชีวิตที่ดีของพี่ ได้รับการตอบแทนอย่างนี้  ฉันตัดพ้ออยู่ในสายน้ำตา ฉันจะทำอย่างไรดีเล่า ฉันได้แต่ภาวนาระหว่างนั่งรถโดยสารไปหาพี่ ฉันขอให้คุณพระคุ้มครองอย่าให้เป็นอะไรเลย ขอให้เขาฟังผิดมา ขออย่าให้พี่ต้องเจ็บปวดเลย พี่เป็นคนดีเหลือเกิน


 


ฉันไปถึง ภาพต่อหน้าทำให้น้ำตามันร่วงพรู เสียงพิมพ์ เพื่อนฉันร้องไห้โฮเมื่อเห็นฉันวิ่งเข้าไปในห้อง หมอที่ฉันคุ้นหน้ากำลังปั๊มหัวใจพี่ ชุดพยาบาลของพี่เต็มไปด้วยเลือด เขาโกนหัวพี่จนเกลี้ยง ฉันไม่เห็นรอยแผลใดๆ บนตัวพี่เลย ฉันจับมือเพื่อนไว้แน่น ปลอบเพื่อนทั้งน้ำตาว่าไม่เป็นไรนะ มองหาแผลของเพื่อน มีผ้าก๊อสพันที่หัวเข่าเล็กน้อยเท่านั้น เหลือบมองใบหน้าหมอ มีน้ำตาชุ่มไหล หลายหยดรดลงบนชุดพยาบาลของพี่ ฉันมารู้ทีหลังว่าหมอเคยมาทำงานที่โรงพยาบาลของเรา ด้วยความที่พี่เป็นคนดี หมอเคยได้รับความเอื้อเฟื้อจากพี่และเคยสนิทสนมกันอยู่พักใหญ่ วันนั้นเขาอยู่เวรห้องฉุกเฉินพอดีเหมือนว่าเขาขีดเส้นชีวิตพี่ไว้อย่างนั้นแล้ว


 


หมอช่วยชีวิตพี่นานเป็นชั่วโมง อย่างคนไม่สามารถที่จะยอมรับได้ ในที่สุดก็ยอมแพ้ ฉันเห็นหมอก้มลงกราบพี่ที่อก  นั่นเสียงโหยหวนของฉันใช่ไหมที่ดังอย่างนั้น  ฉันโผเข้าไปหาพี่ กอดพี่ไว้  ทำไมหนอฉากลาของเรามันจึงได้เป็นอย่างนี้ ฉันรำพึงรำพัน จับมือเย็นเฉียบของพี่ไว้ พร่ำพูดว่า โถพี่จ๋า เราจะทำอย่างไรกันดีเล่า ในกระเป๋าชุดพยาบาลของพี่ยังมีกระดาษแผ่นน้อยๆ เขียนด้วยลายมือพี่  เป็นบันทึกรายชื่อของก๋วยเตี๋ยวที่ฝากพี่ซื้อ ฉันหยิบมันมาด้วยมือที่สั่นไหว เป็นลายมือสุดท้ายของพี่เอง


 


เรากลับมาโรงพยาบาลของเราพร้อมกัน ฉัน พี่ และเพื่อน ถึงห้องฉุกเฉินแล้ว  เสียงร้องไห้ระงมไปทั่ว ฉันเห็นใครๆ ก็ร้องไห้ ทุกคนเขารู้จักพี่ทั่วโรงพยาบาล มีคนรำพึงรำพันถึงลูกของพี่ด้วย ทั้งสองคนมาถึงห้องฉุกเฉินอย่างไม่เดียงสา  มายืนมองแล้วกอดแม่ไว้ไม่ยอมปล่อยอย่างไม่รู้ความหมายของความตาย ฉันร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม เสียงพี่หัวหน้าตึกพูดพลางสะอื้นและกอดฉันไว้พลางปลอบ มานี่เถอะ กลับตึกกันนะ  ฉันเงยหน้าขึ้นมอง เธอประคองฉันมา


 


เพื่อนฉันเจ็บเข่านอนโรงพยาบาลไม่กี่วันหายกลับบ้านไปแล้ว ทำไมพี่โชคร้ายอย่างนี้   พี่ต้องจากไป ทิ้งลูกสองคนไว้ให้ยายเลี้ยง ฉันและพี่อีกคนนั่งรถอย่างแสนเศร้าไปส่งเด็กสองคนที่กรุงเทพ ถ้าเพียงมีพี่ด้วยเราคงไม่นั่งร้องไห้กันไปอย่างนั้นตลอดทาง


 


เช้ามืดวันรุ่งขึ้น ในฝันฉันได้ยินเสียงพี่มายืนเรียกที่หน้าต่างเช่นเคย ฉันสะดุ้งตื่นเงี่ยหูฟัง มีแต่ความเงียบ น้ำตาไหลรินออกมาเมื่อนึกได้ว่าพี่ไม่อยู่แล้ว


 


ทุกครั้งที่ฉันฉีดยา แทงน้ำเกลือ หรือเจาะเลือดเด็กเล็ก หูของฉันแว่วได้ยินเสียงพี่เสมอ พี่ที่รัก ฉันได้ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับตัวเองแล้ว ฉันจะรักและเอื้ออาทรคนอื่นเหมือนกับพี่


 


ฉันคิดถึงพี่เสมอ  เวลาที่ชีวิตพบเจอเรื่องเศร้า  ฉันจะนั่งลงคิดถึงถ้อยคำที่เราเคยคุยกันอย่างเงียบๆ ตามลำพัง ฉันหวังว่าพี่คงมีความสุขบนฟ้าไกล เมื่อมองลงมาพี่คงเห็นฉันยังคงทำงานอยู่ พี่คงลุ้นและหวังให้มันผ่านไปด้วยดีเช่นกันใช่ไหม