Skip to main content

วันที่ท้องฟ้าเป็นสีเทา

คอลัมน์/ชุมชน

เธอ เป็นครูสาวของโรงเรียนกลางป่าลึก


 


เธอออกมาจากห้องผ่าตัด ตาขวาปิดผ้าก็อสชิ้นใหญ่ ปิดทับด้วยปลาสเตอร์แน่นหนา


เธอบ่นปวดแผลมาก ฉันฉีดยาแก้ปวดให้เธอทันที  ก็แค่แมลงเข้าตา ฉันยังปวดเคืองจนแทบจะหลับตาไม่ลง  แล้วมีแผลที่ตาเธอเล่า ความเจ็บปวดมันจะมากมายขนาดไหน 


 


กลับจากฉีดยาให้เธอ ฉันนั่งลงอ่านรายงานของหมอระหว่างผ่าตัด  คุณพระช่วย หมอควักลูกตาของเธอออกไปเสียแล้ว  เนื่องจากแผลใหญ่ตรงลูกตาดำนั้น  มันลึกและฉีกขาดเกินกว่าจะเก็บรักษาไว้ได้


 


โธ่เอ๋ย เธอเพิ่งอายุ 25 ปี  ยังโสด  เธอจะทำอย่างไรกับชีวิตที่เหลืออยู่  ฉันครุ่นคิดถึงเธอด้วยความปวดร้าว  พรุ่งนี้เช้าของเธอมันช่างหนักหนาสาหัสนัก  หมอคงแจ้งข่าวร้ายของเธอตั้งแต่เช้า  ฉันรู้เห็นชะตากรรมของเธอ จะหาถ้อยคำใดมาปลอบโยนเธอเล่า 


 


หมอมาถึงในเช้าวันนั้น ทันที่ที่เห็นหมอ หัวใจของฉันเต้นแรง  ฉันพยายามบังคับมือที่เปิดประตูห้องให้หมอไม่ให้สั่น แต่มันเหมือนไม่เป็นใจ  เธอเสียอีกที่ดูเด็ดเดี่ยวมั่นคงเมื่อหมอเริ่มถาม ทำไมมาโรงพยาบาลช้านักเล่า 5 ชั่วโมงกว่าจะมาถึง


 


เธอบอกว่า  ทางที่เธอเจออุบัติเหตุนั้นอยู่ไกลและลึกมาก  ความเจ็บปวดที่ตาอย่างรุนแรงทำให้เธอสลบไปนาน   ตะเกียกตะกายเรียกให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ มาช่วย  เธอบอกว่า มันเป็นทางที่ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้านอยู่ทุกวันหลังโรงเรียนเลิก  ระยะทางจากบ้านถึงโรงเรียนเพียง 5 กิโลเมตร แต่ด้วยเป็นเส้นทางเปลี่ยว คดเคี้ยวและมืด เธอถึงบ้านในเวลาพลบค่ำเสมอๆ


 


วันที่โชคร้ายของเธอมาถึงในค่ำวันนั้น  เธอบอกว่ามันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก มีรถบรรทุกขับสวนทางเธอมา  แสงไฟสูงที่สาดเข้ามาในตาทำให้เธอเสียการทรงตัว บังคับรถไม่อยู่  ไหลลงไปข้างทาง แล้วกิ่งไม้ใหญ่ตรงหน้าก็พุ่งตรงเข้ามาในตาเธอ  ความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสคือสำนึกสุดท้าย ก่อนที่เธอสลบไป


 


หมอบอกว่า ลูกตาขวายุ่ยไปหมด แผลฉีกกะรุ่งกะริ่ง หมอใช้เวลาเย็บซ่อมนานมาก สุดท้ายต้องตัดสินใจควักดวงตาทิ้งเพราะแผลสกปรก  กลัวจะติดเชื้อและลุกลาม  เธอคงต้องทำแผล ฉีดยาหลายวัน  และรอดูว่าจะติดเชื้อหรือไม่  ถ้าไม่คงได้กลับบ้านหลังฉีดยาครบแล้ว  ฉันเห็นน้ำใสๆ ไหลจากตาข้างซ้ายหยดลงบนแขนเสื้อของเธอทันที  เธอบอกว่าขอให้หายปวด หายทุกข์ทรมานก็พอแล้ว


 


หมอกลับไปแล้ว  ฉันหันมาหาเธอ ได้ยินเสียงเธอเริ่มต้นร้องไห้  รำพึงรำพันว่า ตาบอดอย่างนี้เสียแล้วจะบอกแม่ว่าอย่างไรดี  แม่แก่แล้วมาโรงพยาบาลด้วยไม่ไหว  เธออยู่กับแม่เพียงสองคน  จะทำอย่างไรดี  โธ่เอ๋ย ชีวิตทำไมถึงโชคร้ายอย่างนี้เล่า


 


ฉันกุมมือเธอไว้   ฟังเสียงเธอร้องไห้ด้วยหัวใจที่สงสารท่วมท้น  เช้านี้ของเธอหนักหนาเหลือเกิน  โลกเอ๋ยทำไมรีบมอบโชคร้ายให้ผู้หญิงคนนี้เล่า  ฉันเช็ดน้ำตาให้เธอพลางปลอบว่า  ถึงอย่างไรเธอก็ยังเหลือตาข้างซ้ายอยู่อีกข้างหนึ่ง  เธอยังดูแลแม่ได้  เธอยังมองเห็นทุกสิ่งเหมือนเดิมไม่ใช่เพียงครึ่งเดียว  โลกนี้ยังสวยงามแม้ท้องฟ้ายามเช้าในวันนี้ของเธอจะเป็นสีเทา


 


แต่มันก็ยังเห็นแสงอยู่   ขอเพียงเรายังมีชีวิต และมีความหวัง  เรายังทำอะไรได้อีกมากมาย  เราจะมองเห็นทุกสีบนโลกได้ดังเดิม


 


เธอกลับบ้านไปแล้ว สุดท้ายตาขวาไม่ได้ติดเชื้อเพิ่ม นับว่าเธอยังโชคดีอยู่บ้าง คงเป็นเพราะว่าเธอพบโชคร้ายมากพอแล้ว  


 


ท้องฟ้ายามเย็นเป็นสีส้มอ่อนระบายไปทั่วเมื่อเธอเดินมาลาฉัน  เธอจับมือฉันไว้แน่นบอกฉันว่า  ขอบคุณนะที่ทำให้ลุกขึ้นมาเดินต่อได้  เด็กๆที่โรงเรียนคงไม่รังเกียจครูตาบอดหรอก และท้องฟ้าสีส้มในวันนี้ที่เธอเห็นนั้นมันยังสวยงามเหมือนเดิม 


 


เธอขอกอดฉันแน่นๆ ก่อนจากกัน 


 


ไม่รู้ว่าอุบัติเหตุคราวหน้าจะเสียอะไรอีกบ้าง  อาจไม่เหลือชีวิต  เธอพูดแล้วหัวเราะเศร้าๆ   แต่เธอจะระมัดระวังให้มากที่สุด เธอยังมีคนรอ แม่และเด็กๆ กลางป่า 


 


ลาก่อนนะ  เธอโบกมือแล้วเดินลับหายไปจากสายตาฉัน 


 


ฉันเหม่อมองเธอแล้วถอนหายใจยาว  บนถนนกลางป่าลึก  ยังมีรถบรรทุกวิ่งด้วยความเร็วสูง  แสงไฟที่สาดส่องจากหน้ารถ จะทำให้ใครเสียดวงตา  หรือเสียชีวิตบ้าง  ไม่มีใครรู้ได้เลย