Skip to main content

คึกคะนอง หรือ โรคจิต

คอลัมน์/ชุมชน

1


เช้าวันเสาร์ที่ 22 มกราคม 2548 ผู้เขียนเปิดอ่านหนังสือพิมพ์รายวันฉบับที่ติดป้ายไว้หน้าหนึ่งว่า "นสพ.จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ" ได้นำเสนอภาพใบหน้าของดาราหนุ่มคนหนึ่งวัย 27 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในฐานะละเมิด "ของสงวน" ของ "สาวห้าง" หรือสาวพนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง


ผู้เขียนขอกล่าวย้อนสั้น ๆ ถึงวิธีการก่อเหตุที่ว่า ดาราหนุ่มคนดังกล่าวขึ้นบันไดเลื่อนตามหลังสาวเจ้าทุกข์ แล้วเลือกยืนห่างออกมาเพียงบันไดขั้นเดียว ชันเข่าขึ้น แล้วใช้โทรศัพท์มือถือ ที่ถ่ายภาพได้ เทินบนเข่าของเขา จากนั้นได้มีการบันทึกภาพใต้กระโปรงสาวห้างไว้


ตามข่าวระบุว่า สาวห้างรู้สึกตัว และมีสติมากพอที่จะไม่โวยวาย แล้วไปเรียกให้พนักงานรักษาความปลอดภัยมารวบตัวดาราหนุ่ม จนค้นพบภาพหลักฐานที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือจำนวน 2 ภาพด้วยกัน
ภาพหนึ่งเห็นขาอ่อน, ส่วนอีกภาพ เห็นถึงกางเกงชั้นในเลยทีเดียว


จากนั้นมีการแจ้งให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีกับดาราหนุ่มในข้อหา กระทำการอันควรขายหน้า ต่อหน้าธารกำนัล โดยการกระทำลามกอย่างอื่น (แอบถ่ายรูปใต้กระโปรง) ผู้เขียนไม่ค่อยเข้าใจภาษาที่ใช้ระบุข้อหานี้สักเท่าไร แต่ทราบว่าข้อหาดังกล่าวดาราหนุ่มถูกเปรียบเทียบปรับ 500 บาท และ ถูกให้ลบภาพใต้กระโปรงออกไปจากโทรศัพท์มือถือเสีย


2


หลังจากที่ผู้เขียนได้อ่านข่าวดังกล่าวไม่นาน ช่วงเวลาประมาณเที่ยงวัน ยังมีรายการ "คุยถึงข่าว" รายการหนึ่ง นำเสนอภาพสถานการณ์ในโรงพัก ให้เห็นทั้งผู้เสียหาย และผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ถึงอนาคตของดาราหนุ่มที่ตกเป็นข่าวด้วยว่า ต้องถูกปรับจากสังคมมากโขทีเดียว .. ทำให้ผู้เขียนเกิดความคิดว่า ข่าวนี้น่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนไม่น้อยเลย ผู้เขียนตัดสินใจรีบเข้าใช้อินเตอร์เน็ตเป็นการด่วน เพื่อตรวจสอบสาระ และ เสียงวิจารณ์ที่สืบเนื่องมาจากข่าว "ถ่ายใต้กระโปรง" นี้


เป็นที่น่าสนใจว่า ในเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ไม่พลาดที่จะนำเสนอข่าวอื้อฉาวดังกล่าว และเห็นได้ว่า ทัศนคติที่สอดแทรกลงไปในการเสนอข่าวนั้น ย่อมต่างกันไปบ้างเป็นธรรมดา
แต่จุดหนึ่งที่ผู้เขียนหยุดคิด คือ หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ระบุว่าดาราหนุ่มคนนี้ เป็น "โรคจิต" สอดคล้องกับทัศนะของผู้เข้าชมเนื้อหาของข่าวดังกล่าว ได้โพสต์ความเห็นเกี่ยวกับดาราหนุ่มไว้ว่า "ไอ้หื่น ไอ้บ้ากาม"


3


โดยส่วนตัวแล้ว ผู้เขียนอยากชวนคุย 2 ประเด็นหลัก
ประเด็นแรก สาวห้างท่านนี้น่าชื่นชมในแง่ที่มีสติ และพิทักษ์ "ของสงวน" ให้พ้นจากการถูกลวนลามซ้ำซากโดยดาราหนุ่มไว้ได้ แต่ลองมองอีกทางหนึ่ง สาวห้างอาจคาดไม่ถึงว่า "ของสงวน" ของเธอถูกลวนลามทางสายตาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากผู้คนทั่วไป ระบุจำนวนไม่ได้ ระบุเพศ ก็ไม่ได้ เริ่มตั้งแต่ รปภ. เปิดพบภาพลับจากโทรศัพท์แล้วล่ะ ต่อจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ประจำสถานีตำรวจมาตรวจสอบภาพลับนั้นอีก ยังไม่พอ นักข่าวและสื่อมวลชนยังนำภาพลับของสาวห้างไปตีแผ่อีกหลายพื้นที่ หนำซ้ำ สื่อโทรทัศน์ อย่างน้อยที่สุดก็รายการคุยถึงข่าวที่ผู้เขียนดูอยู่นั้น เพิ่มภาพใบหน้าของสาวห้างประกอบกับภาพของลับของเธอให้เห็นพร้อม ๆ กันไปเลย


สถานการณ์อย่างนี้ ทำให้ผู้เขียนคิดไม่ตกว่า
สาวห้างถูกดาราหนุ่มบันทึกภาพของลับ แม้จะเอาไปอวดให้เพื่อนชม แต่ก็ไม่เห็นใบหน้า เทียบกับการแจ้งความแล้วตกเป็นข่าวอย่างโจ่งแจ้งทุกซอกมุมอย่างที่เล่าไปนั้น
ข้อไหนรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ได้มากกว่ากัน?


ประเด็นนี้ไม่ต่างอะไรกับหญิงสาวที่ถูกข่มขืน แล้วรวบรวมความกล้ามาแจ้งความ แต่ต้องมานั่งเล่าเหตุการณ์โดยละเอียดลออให้กับพนักงานสอบสวนรับฟัง การเล่าอีกครั้ง ความสะเทือนใจก็ไม่ต่างจากถูกข่มขืนซ้ำเลย จุดนี้ชี้ให้เห็นว่ากระบวนการในการพิทักษ์ความเป็นส่วนตัวของผู้เสียหาย ต้องพัฒนากันต่อไป หรือไม่ อย่างไร?


4


ประเด็นต่อมา ผู้เขียนยังคงสนใจ มุมมองที่มีให้กับดาราหนุ่มผู้ก่อเหตุว่า "เป็นโรคจิต" นั้นเหมาะสมแล้วหรือไม่?
ผู้เขียนยังค้างคาใจว่า จริงอยู่ การกระทำของดาราหนุ่มไม่เหมาะสมและควรได้รับบทลงโทษ แต่ได้มีการคุยกับเขาบ้างไหมว่า หลังจากถ่ายภาพแบบนี้แล้ว เอาไปทำอะไร? เท่าที่ผู้เขียนตามข่าวนี้ ยังไม่มีสื่อแขนงใดนำเสนอเสียงของผู้ก่อเหตุเลย หรืออาจจะไม่มีการถามถึงจุดนี้เลยก็เป็นได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว คือป้ายประทับตราที่ว่า ดาราหนุ่ม "เป็นโรค" - - ป่วยทางจิต, จัดวางกามารมณ์ให้เหมาะสมไม่ได้


ผู้เขียนเห็นว่า การแปะฉลากทำนองนี้มันมาง่าย ๆ ..หลายครั้งที่ง่ายเกินไป แม้เขาจะผิดจริง แต่สมควรแล้วหรือที่จะถูกอคติถล่มให้กลายเป็น "คนบ้า" ไป เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องเพศของคนไทยที่ว่า ความพึงพอใจทางเพศที่ไม่ได้อยู่บนเตียงนอนในเรือนหอ มักจะถูกมองเป็นเรื่อง "บ้า"


ผู้เขียนมองว่าสังคมไทยไม่น่าจะผลักคนออกจากโอกาสในการแสดงเหตุผลง่ายเกินไป อย่าด่วนผลักคนออกจากโอกาสในการก้าวไปสู่อนาคต อย่างในกรณีนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ที่ดาราหนุ่มจะทำไปด้วยความคึกคะนอง ซึ่งแยกได้ห่างจากอาการป่วยทางจิต การตราหน้าว่าเขาเป็นไอ้บ้ากาม, โรคจิต เขาจะปรับปรุงตัวแล้วเดินต่อในสังคมได้อย่างไร?


5


ด้วยความไม่กระจ่างใจในความพึงพอใจทางเพศของดาราหนุ่ม ผู้เขียนจึงชวนเพื่อนใกล้ตัวคุยถึงประเด็นดังกล่าว
เพื่อนชายคนหนึ่งกล่าวว่า
"หญิงนุ่งสั้นยืนอยู่ที่สูง ๆ ใคร ๆ ก็มองเป็นธรรมดา ..ไอ้นี่ไปถ่ายรูปเก็บไว้ไมวะ"
ส่วนเพื่อนสาวอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า
"แหม .. อยากจะดูก็ไม่บอก"


รึว่าใคร ๆ ก็ รัก - ร่วม - เพศ ทั้งนั้นเลย?