Skip to main content

อาลัย พี่สุวิทย์ วัดหนู

ขออนุญาตผู้อ่าน ขอพื้นที่นี้ไว้อาลัยพี่ชายที่เคารพของคนทำงานองค์กรพัฒนาเอกชน คุณสุวิทย์ วัดหนู นักพัฒนา คนทำงานเพื่อสังคมของน้องๆ ที่เพิ่งจากไปก่อนเวลาอันควรเมื่อคืนวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมาด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน


 


พี่สุวิทย์เป็นนักพัฒนาที่มีจุดยืนแน่วแน่มั่นคง ยืนอยู่ข้างประชาชนโดยที่อุดมการณ์ไม่กวัดแกว่ง ไม่ว่าชีวิตจะลำบากแค่ไหนพี่สุวิทย์ไม่เคยทอดทิ้งการทำงานเพื่อมวลชน  ทั้งที่มีโอกาสเข้าสู่วงจรการเมืองและอำนาจสูง พี่สุวิทย์เคยพูดว่า นักการเมืองระดับชาติเคยเสนอตำแหน่งเสนอค่าตอบแทนให้มาโดยตลอด แต่พี่สุวิทย์ปฏิเสธทุกครั้ง เพราะไม่ใช่แนวทางที่ไปกันได้กับการทำงานเพื่อชาวบ้านและคนด้อยโอกาส พี่สุวิทย์ยอมอยู่แบบจนๆ แต่ไม่เคยจนน้ำใจ งานไหนที่เป็นการขอความช่วยเหลือจากภาคประชาชน ไม่ว่าไกลแค่ไหน ไม่เคยพลาดสักงาน ก่อนที่พี่สุวิทย์จะเสียชีวิต ผู้เขียนได้ยินว่า พี่และเพื่อนๆ ร่วมอุดมการณ์คิดตั้งพรรคการเมืองในอุดมคติที่นักการเมืองของประชาชนควรจะเป็น ไม่ใช่เพื่อหาอำนาจให้กับตนเองแต่เป็นการทำงานเพื่อประชาชน เป็นปากเสียงให้กับประชาชนอย่างแท้จริง น่าเสียดายที่พี่ไม่ได้อยู่เพื่อสานอุดมการณ์ต่อไป


 


ผู้เขียนเคยมีโอกาสร่วมงานกับพี่สุวิทย์เมื่อ 17 ปีก่อน ที่มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย พี่สุวิทย์เป็นหนึ่งในทีมสัมภาษณ์เมื่อครั้งสมัครเข้าไปทำงานที่นั่น แม้ว่าผู้เขียนจะออกมาโลดแล่นในวงการน้ำหมึกนานแล้ว แต่พี่สุวิทย์ไม่เคยหยุดสั่งสอน และเรียกร้องให้ผู้เขียนนึกถึงคนด้อยโอกาสไม่ว่าจะทำงานที่ไหน  และเราก็มักจะเจอกันบ่อยครั้งในภาคสนาม ในฐานะนักข่าวกับแหล่งข่าว เวลาไปทำงานเรื่องการออกมาเรียกร้องสิทธิของชาวบ้าน เช่น การประท้วงของชาวบ้าน เวทีภาคประชาชน หรือในช่วงประวัติศาสตร์ทางการเมือง เช่น เหตุการณ์พฤษภา 35 พี่สุวิทย์ทำหน้าที่เป็นหนึ่งในทีมนำขบวน ซึ่งต้องยืนอยู่บนรถนำขบวน ไฮปาร์กทำความเข้าใจกับมวลชนที่อยู่ร่วมกันในที่นั้นให้เข้าใจสถานการณ์ตรงกัน และรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ล่าสุดเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พี่สุวิทย์ก็ทำหน้าที่เป็นโฆษกของกลุ่ม กระทั่งประชาชนเป็นฝ่ายชนะ


 


เมื่อครั้งพี่สุวิทย์มีชีวิตอยู่ เวลาเจอน้องๆ ก็มักจะคุยเรื่องงาน เรื่องการเมือง เรื่องทิศทางขบวนการเคลื่อนไหวภาคประชาชน น้อยครั้งที่จะพูดถึงเรื่องส่วนตัว เมื่อปี พ.ศ. 2546-2547 พี่สุวิทย์กับผู้เขียนได้ทุนจากมูลนิธินิปปอนในปีเดียวกัน และมีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ได้ไปศึกษางานในประเทศเดียวกัน คือ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ผู้เขียนได้มีโอกาสได้เรียนรู้งานเรื่องคนไร้บ้าน คนเร่ร่อนทั้งในในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียที่พี่สุวิทย์พาไปคลุกคลีด้วย พี่สุวิทย์เป็นคนจริงจัง เวลาลงสนามทำงานก็ลงจริง ช่วงเวลาที่เราไปพบชาวบ้านคือช่วงค่ำถึงมืด เพราะเป็นช่วงเวลาที่คนไร้บ้านจับจองที่นอนตามริมถนนในเมืองจาการ์ตา เราก็นั่งกินข้าว พูดคุยกับพวกเขาริมถนนที่มีรถวิ่งผ่านไปมา โดยมีล่ามชาวอินโดนีเซียคนทำงานของ Urban Poor Consortium เป็นองค์กรที่ทำงานกับคนสลัม คนไร้บ้าน คนเร่ร่อนในกรุงจาการ์ตาแต่ก็มีเครือข่ายการทำงานทั่วอินโดนีเซีย


 


 



พี่สุวิทย์ ตอนเดินป่า โกตาบาลู ปาร์ก
ข้ามเหวลึกเมื่อครั้งไป
workshop API fellow ที่โกตา กินาบาลู มาเลเซีย ปี พ.ศ. 2548


 


ภายในเวลาหนึ่งเดือนของการวิจัย พี่สุวิทย์รู้จักแหล่งที่อยู่ของคนไร้บ้านในจาการ์ตาทุกที่  ในกรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์  พี่สุวิทย์ท่องไปทั่วแถบคนจนเมืองที่มีอยู่ทุกหัวระแหงในมะนิลา กินและนอนในชุมชน กลับมาเมืองไทยก็ได้สร้างเครือข่ายคนจนระหว่างประเทศ แลกเปลี่ยนเรียนรู้งานพัฒนาเพื่อคนจนซึ่งกันและกัน


 



กับน้องๆ ชาวมาเลย์และอินโดที่ชื่นชอบพี่สุวิทย์


 


พี่สุวิทย์ วัดหนูเป็นผู้อาวุโสของคนทำงานพัฒนาที่มีอุดมการณ์แน่วแน่ ไม่เปลี่ยนแปลง ปากร้ายเพราะพูดตรงไปตรงมา แต่ไม่มีใครกล้าโกรธเพราะตำหนิในเรื่องที่เป็นจริง ขอให้หลับให้สบาย สังคมได้รับดอกผลที่พี่ทำงานไว้ให้กับสังคมแน่นอน


 







อาลัย … สุวิทย์ วัดหนู


 


สุวิทย์ วัดหนู ... เจ้าหน้าที่  ผู้จัดการ  เลขาธิการ  ที่ปรึกษาฝ่ายงานชุมชน  ผู้ระดมทุน ... เป็นมาแล้วทุกตำแหน่ง ทำมาแล้วทุกงาน ในมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย  และจากไปในขณะที่กำลังจะลาจากมูลนิธิฯ เพื่อไปสร้างพรรคการเมืองของประชาชนตามที่ใฝ่ฝันอยากให้มีพรรคการเมืองที่เข้มแข็งของประชาชน ...


 


สุวิทย์ วัดหนู เป็นเพื่อน เป็นพี่ ของเพื่อนร่วมงานทุกคนในมูลนิธิฯ ที่คลุกคลีตีโมง ดื่มเหล้า เม้าธ์การเมือง คุยกิจกรรมที่จะทำเพื่อคนยากจนมาตลอดสิบแปดปีอันยาวนานที่อยู่กับมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย


 


สุวิทย์ วัดหนู อาจไม่ใช่ผู้ก่อตั้งมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่จนวันนี้ ทุกคนในมูลนิธิฯ เห็นเหมือนกันว่าเขาคือเลือดแท้ของมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่มุ่งมั่นจะทำงานเพื่อคนยากจนในเมืองตลอดมา ไม่เคยคลอนแคลน ไม่เคยหวั่นไหว แม้ในยามที่มูลนิธิฯ ลำบากมากเพราะขาดทรัพยากรในการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นทุนทรัพย์ หรือกำลังคน หรือเมื่อมีความขัดแย้งทางความคิดอย่างรุนแรงภายใน   เขาคือผู้ยืนสู้กับอุปสรรคทุกอย่างเพื่อจะนำมูลนิธิฯ ยืนหยัดให้ได้ในทุกสภาวการณ์


 


สุวิทย์ วัดหนู ขี้บ่น  ชอบตำหนิ  ชอบดุ  ทำตัวเป็นอาจารย์ใหญ่  มีไม้บรรทัดของตัวเองแล้วใช้มันวัดคนอื่น... นี่คือความเห็นที่เพื่อนๆ น้องๆ จำนวนไม่น้อยมีต่อเขา  กระทั่งบางคนลาจากมูลนิธิฯ เพราะขัดแย้งกับสุวิทย์  แต่จริงๆ แล้วเขาขี้น้อยใจ เมื่อบ่นแล้วคนไม่ฟังก็จะ "งอน" ตามที่น้องๆ ว่ากัน  และในวันนี้  ในวันที่สิ้นเสียงสุวิทย์  ก็เพื่อนๆ น้องๆ อีกนั่นแหละที่พูดว่า ทีนี้ใครจะดุเราล่ะ  เพราะทุกคนรู้ซึ้งว่า การตำหนิ การดุนั้นคือความหวังดี ปรารถนาดีเต็มร้อย   เขาอาจคิดผิด เข้าใจผิด หรือคิดต่าง เห็นต่างจากคนอื่น  เขาอาจยึดมั่นในความเห็นของตัวเอง  เคยทำให้คนโกรธมามาก  แต่ทุกคนที่เคยโกรธสุวิทย์  ต่างยอมรับว่า ไม่เคยเกลียดไม่เคยชังนักสู้นาม สุวิทย์ วัดหนู 


 


สุวิทย์ วัดหนู อุทิศชีวิตเพื่อสร้างสังคมที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของคนยากไร้ ผู้ด้อยโอกาสมานานนับสิบๆ ปีตลอดชีวิตการทำงาน  ไม่เคยมุ่งหวังไต่เต้า ไม่มีความทะเยอทะยานเพื่อตัวเอง   เมื่ออำลาไปอย่างไม่หวนคืนแล้วในวันนี้  สุวิทย์ก็ไม่ได้ทิ้งทรัพย์สินศฤงคารใดๆ ไว้ให้คนข้างหลัง  เขาคือนักสู้มือเปล่าของประชาชนที่ยืดอกทะนงได้อย่างเต็มภาคภูมิจนนาทีสุดท้ายที่จากคู่ชีวิตไปโดยไม่ทันได้สั่งเสีย  จากญาติสนิทมิตรสหายไปโดยไม่ทันได้ร่ำลา  สิ่งที่สุวิทย์ทิ้งไว้ให้คืออุดมการณ์ในการสร้างการเมืองของประชาชนให้เข้มแข็ง ซึ่งรอการสานต่อเท่านั้น


 


สุวิทย์ วัดหนูจากไปแล้วก่อนวัยอันควร  ด้วยโรคภัยที่เจ้าตัวไม่ใส่ใจจะดูแล  เราเสียดาย  เราเสียใจ  เราอาลัยรัก ... อย่างสุดซึ้งที่สุด  ต่อมิตร ...


 


                                         ผู้ร่วมงาน 


                                         ผู้ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคมายาวนาน


                                         ผู้สร้างความโกรธ กวนอารมณ์


                                         ผู้เร้าความทะนงให้สู้


                                         ผู้ใจกว้าง มีเมตตา พร้อมช่วยเหลือเพื่อนฝูงพี่น้องที่เดือดร้อนเสมอต้นเสมอปลาย


                                         ผู้เป็นที่รัก และจะอยู่ในความทรงจำตลอดไป ...


                                         หลับให้สงบเถิด ... คุณสุวิทย์  ผู้ใช้ชีวิตอย่างมีค่าและคุ้มค่ายิ่งแล้ว


 


พี่น้องชาวมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย