ว่าวพื้นบ้านภาคใต้
คอลัมน์/ชุมชน
ถ้าถามถึงเรื่องว่าวแล้วนั้น คงไม่มีใครตอบว่าไม่รู้จักแน่นอน โดยเฉพาะในสังคมท้องถิ่นที่นิยมเล่นว่าวกันอย่างกว้างขวางมาหลายชั่วอายุคน และแน่นอนที่สุดว่าว่าวเป็นของเล่นที่นิยมเล่นกันทั่วโลกตั้งแต่เด็กๆ ไปจนถึงคนเฒ่าคนแก่กันเลยทีเดียว แม้ว่าโดยแท้แล้วมันเป็นของเล่น แต่ครั้งหนึ่งยังเป็นส่วนหนึ่งในการวัดอุณหภูมิของอากาศบนท้องฟ้าของวงการวิทยาศาสตร์ยุคแรกๆ ด้วย หรือแม้แต่มีส่วนร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ด้วยอีกเช่นกัน แต่ในปัจจุบันโลกนิยมเล่นว่าวกันเพียงเพื่อความสนุกสนานและการแข่งขันเท่านั้น
ว่ากันเรื่องการเล่นว่าวพื้นบ้านภาคใต้
ชาวใต้นิยมเล่นว่าวกันเพื่อความสนุกสนานในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าว กล่าวคือช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ว่าวที่นิยมเล่นกันในท้องถิ่นก็เป็นพวกว่าววงเดือน ว่าวควาย ว่าวนก ว่าวปักเป้า ว่าวอีลุ้ม ว่าวปลา ว่าวหลา (ว่าวจุฬา) ว่าวกระบอก เป็นต้น ส่วนว่าวอื่นก็พอมีให้เห็นอยู่บ้าง เช่น ว่าวจรเข้ ว่าวคน และว่าวงู แต่ถ้าเป็นว่าวที่นิยมเล่นกันมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นว่าวนกกับว่าววงเดือนเป็นแน่
อีกอย่าง "นักเลงว่าว" ชาวใต้นิยมเล่นว่าวแบบมีแอก (ธนูว่าว) ประกอบว่าวเพื่อประชันเสียงด้วยว่าว่าวตัวไหนมีเสียงแอกดังและไพเราะมากกว่ากัน ผู้เล่นมักชักว่าวขึ้นในตอนบ่ายแล้วเก็บว่าวลงในรุ่งเช้าของวันถัดมา ถือว่าว่าวตัวใดชักขึ้นไว้ค้างคืนได้นับว่าว่าวตัวนั้นเป็นว่าวที่ดี
กล่าวถึงการเล่นว่าวพื้นบ้านภาคใต้แล้ว คนรุ่นก่อนจะนิยมเล่นว่าวขนาดใหญ่ที่มีความยาวของปีกประมาณ 3
มารู้จักว่าวพื้นบ้านภาคใต้กันเถอะ
ว่าวบอก (ว่าวกระบอก) หรือว่าวรางหมูเป็นรูปแบบว่าวของเด็กๆ ที่ทำได้ง่ายโดยใช้กระดาษ
สี่เหลี่ยมผืนผ้าพับเข้าหากันให้เป็นรูปทรงกล่องที่เปิดด้านที่ 4 ไว้ พับว่าวให้มีสัดส่วนเป็น 4 ส่วน คือส่วนหลังกว้าง 2 ส่วน และส่วนข้างด้านละ 1 ส่วน ใช้เชือกผูกส่วนข้างทั้ง 2 ข้างไว้เป็น (สายพานทรง)บริเวณส่วนบน ว่าวชนิดนี้ทำได้ง่ายเพราะไม่ต้องมีโครงว่าว เหมาะอย่างยิ่งกับพวกเด็ก ๆ
ว่าวนก ว่าวชนิดนี้ได้รับความนิยมน้อยกว่าว่าววงเดือน นิยมเล่นกันมากในจังหวัดพัทลุง ลักษณะคล้ายนกกางปีกร่อนอยู่บนฟ้า ส่วนหัวอาจทำเป็นรูปหางนกแผ่บานสวยงาม
ว่าววงเดือน ว่าวชนิดนี้บ้างเรียกว่าวเดือน หรือว่าวควาย บางพื้นที่เรียก วาบูแล (ภาษายาวี) ทั้งนี้เพราะมีรูปดวงจันทร์เป็นส่วนประกอบบริเวณลำตัวและหางเหมือนเขาควาย
ว่าวหัวควาย ว่าวชนิดนี้เกิดจากการผสมผสานระหว่างว่าวหลา (จุฬา) กับว่าววงเดือน แต่ได้เปลี่ยนส่วนที่เป็นรูปดวงจันทร์ให้เป็นรูปหัวควายแทน และจะติดปีกไว้เหนือปีก เพื่อให้เสียงดังเหมือนเสียงควายร้อง
ว่าวเป้า (ปักเป้า) ว่าวชนิดนี้แบบไม่มีหาง เรียกว่าวอีลุ้ม มีลักษณะเกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม้ไผ่ 2 ชิ้น ผูกกันเป็นโครงว่าว โดยปกติแล้วจะต่อหางเป็นแถบยาว เด็กๆ ชอบเล่น เพราะเล่นง่าย
การแข่งว่าวที่ภาคใต้
ว่าวที่ชาวใต้นิยมนำมาแข่งขันกันคือ ว่าววงเดือน (แบบไม่มีแอก) ใช้แข่งเพื่อดูว่าว่าวตัวไหนขึ้นสูงกว่ากันโดยการปล่อยว่าวด้วยเชือกที่มีความยาวเท่ากัน แล้วเอาไปผูกกับไม้ฉากที่ปักไว้บนพื้นดิน จากนั้นจึงดูว่าเชือกของว่าวตัวไหนทำองศากับไม้ฉากได้มากกว่ากันก็จะเป็นฝ่ายชนะ
การเล่นว่าวในภาคใต้ยังเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง สังเกตได้จากการจัดประเพณีการแข่งว่าวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมซึ่งมีอยู่ในเกือบทุกจังหวัดของภาคใต้
อย่างไรก็ตาม การเล่นว่าวพื้นบ้านภาคใต้ยังคงเป็นการละเล่นที่ให้ความสนุกสนานและผ่อนคลายจากการทำงานหลังฤดูเก็บเกี่ยวอยู่ดังเดิม
เครื่องมือวัดความสูงของว่าวแข่ง
วันแข่งว่าวที่แหลมสมิหลา สงขลา
ว่าวนก
ว่าวบอก (กระบอก)
ว่าวเป้า (ปักเป้า)
ว่าววงเดือน
ว่าวหัวควาย
รูปแบบของแอกว่าว (ธนูว่าว)