Skip to main content

มันแค่เพียงจะผ่านไป

คอลัมน์/ชุมชน

ถ้าเราได้มีเวลานั่งมองดู  หรือเรียงร้อยภาพจากอดีตตั้งแต่วัยเยาว์จนเติบโต  จนถึงวันเวลาของปัจจุบัน  เราคงได้พบว่าบางเรื่อง บางสิ่งบางอย่างมันเพียงผ่านเข้ามาในชีวิตของเราเพียงชั่วขณะหนึ่ง  แล้วภาวะนั้นๆ  สิ่งนั้นๆ ก็จะหายไปจากชีวิตของเรา บางสิ่งอยู่กับเราเนิ่นนาน บางสิ่งก็อยู่กับเราชั่วครู่ชั่วยาม ที่สุดทุกสิ่งนั้นก็จะผ่านไป  อีกฝั่งหนึ่งเมื่อเรามองไปที่อนาคต วันเวลาที่ยังมาไม่ถึง เรื่องราวบางอย่าง  เรากำลังจะไปผ่านพบมัน บางเรื่องอันหนักหนา น่าหวาดหวั่น เรามักภาวนาอย่าให้วันนั้นมาถึงเลย ด้วยเรานึกเห็นภาพนั้นว่า ช่วงเวลาที่เราต้องเผชิญกับมันนั้น มันยากเย็น หนักหนา และน่าหวาดหวั่นเหลือเกิน กลับมาที่ฝั่งอดีตอีกครั้ง บางเรื่องที่ผ่านไปแล้วนั้น เราเคยกลัวมันมาก กลัวว่าจะต้องมาผ่านพบเหตุการณ์ สถานการณ์และเรื่องราวที่น่าหวาดหวั่นนั้น แต่ในที่สุดเมื่อเวลามาถึง เราก็พบเผชิญเรื่องราวนั้น เมื่อวันนี้ภาวะนั้นเป็นอดีตไปแล้ว และเราก็รู้แล้วว่า ภาวะนั้นมันก็ไม่ได้หนัก หนาเกินไป เราเพียงเดินทางเข้าไปถึงมัน ผ่าน และจากมันมาแล้ว และเราสามารถดำรงอยู่อย่างมั่นคงปลอดภัย  


 


หลายหนผู้คนเมื่อเผชิญกับความทุกข์ยาก จนเหมือนกับทุกข์ทั้งปวงนั้นมันกดทับ หนักหนาสาหัส ช่วงเวลานั้นมันเหมือนดำรงอยู่อย่างเนิ่นนาน ดังว่าความทุกข์นั้นจะไม่มีวันผ่านพ้นไปได้   ตัดพ้อต่อชีวิตและโชคชะตาว่า เราแสนโชคร้ายนัก โลกทำรายเรามากกว่าที่ทำร้ายคนอื่นๆ  โลกนี้คงจะไม่มีใครทนทุกข์เท่ากับเราอีกแล้ว....  ถ้าเราหลุดจากภาวะนั้นสักชั่วขณะ เราก็จะพบอีกเช่นกันว่า เราเคยรู้สึกอย่างนี้มาหลายครั้งหลายหนแล้ว เราเคยรู้สึกว่าเราเป็นคนที่ย่ำแย่ที่สุดในโลกมาแทบนับครั้งไม่ถ้วน แต่หลายครั้งเหล่านั้นมันผ่านไปแล้ว มันเพียงผ่านเข้ามา  ดำรงอยู่และผ่านไป แล้วเมื่อเราเข้าสู่ภาวะปกติ เราก็มักจะลืมความทุกข์นั้นไปได้เสมอ.....  จนมันมาอีกครั้งนั้นแหละ เราจึงได้กลับไปย่ำแย่อีกที แล้วชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า  


 


หากเราเพียงทำความเข้าใจกับชีวิตได้ว่า ไม่ว่าจะเรื่องราวใดที่เกิดแก่ชีวิต ทั้งหมดมันเพียงจะผ่านเข้ามาและจะผ่านไป ไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่เป็นนิรันดร์ ว่าในแง่นี้มันก็ทั้งทุกข์และสุข เช่นนั้นแล้วเราก็คงไม่อาจเสียใจ ทดท้อในยามทุกข์ ทั้งไม่อาจดีใจหลงระเริงเกินไปในยามสุข เท่าที่สุดแล้วทุกอย่างมันก็เพียงผ่านไป