Skip to main content

ต้องล้มรัฐธรรมนูญเถื่อน

คอลัมน์/ชุมชน

นักวิชาการและนักเคลื่อนไหวหลายคนพูดจนปากเปียกปากแฉะแล้วว่ารัฐธรรมนูญปี 40 นั้น แม้จะข้อเสียอย่างไรก็ยังคงเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่มาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่แลกมาด้วยเลือดของวีรชนพฤษภาทมิฬ และการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางของภาคประชาชน


 


มีหลายประเด็นที่ก้าวหน้ามากในรัฐธรรมนูญปี 40 ที่ผมว่าน่าสนใจมากก็คือการเสริมอำนาจให้ฝ่ายบริหารเข้มแข็งในขณะที่เดียวกันก็มีองค์กรกลาง องค์กรอิสระคอยตรวจสอบถ่วงดุล นี่เป็นเรื่องที่ดี เพราะฝ่ายบริหารที่เข้มแข็งจะป้องกันการแทรกแซงจากอำนาจของราชการหรือจากพลังของจารีตนิยม อนุรักษ์นิยมซึ่งคอยแต่จะถ่วงความเจริญของชาติเอาไว้


 


หลายคนหวั่นกลัวว่าองค์กรอิสระอาจถูกแทรกแซงจากฝ่ายบริหาร แต่มันก็สามารถแก้ไขปรับปรุงและป้องกันได้ แต่การสร้างรัฐบาลที่อ่อนแออย่างที่แนวโน้มรัฐธรรมนูญเถื่อนพยายามจะทำ อาจจะเป็นผลดีต่อพลังจารีตนิยม อนุรักษ์นิยม แต่จะเป็นผลเสียต่อประชาชนและต่อประชาธิปไตยในอนาคต


 


คงไม่มีใครคาดคิดนะครับว่ารัฐธรรมนูญปี 40 ซึ่งน่าจะศักดิ์สิทธิ์และเกิดจากความเห็นพ้องต้องกันของหลาย ๆ ฝ่าย จะถูกฉีกได้อย่างง่ายดายขนาดนี้ เพราะกว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มาก็ต้องต่อสู้ฝ่าฟันกันมามากเหลือเกิน แต่น่าเจ็บใจที่ คมช.หรือ คปค.หรือผู้มีบารมีนอกกฏหมาย ไม่เห็นค่าของรัฐธรรมนูญปี 40 เลยสักนิดเดียว เพียงแค่ต้องการกำจัด อดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตรก็ถึงกับต้องฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ช่างเป็นความอับจนสิ้นคิดของคปค.ของ คมช.และของผู้มีบารมีนอกกฎหมายเสียจริง ๆ  


 


ที่บ่น ๆ อยู่นี้ก็เพระผมยังเชื่อลมๆ แล้งๆ ว่ารัฐธรรมนูญปี 40 จะถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง ตรงไหนยังไม่สมบูรณ์ก็ช่วยกันแก้ไข ก็ในเมื่อประชาชนเป็นผู้ร่าง ก็อย่าให้ทหาร (ซึ่งไม่รู้ว่านับตัวเองว่าเป็นประชาชนหรือเปล่า) เป็นผู้ฉีก หรือถ้าทหารและผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญหน้าด้านที่จะฉีก ประชาชนก็ต้องกล้านำกลับมาใช้ใหม่ น่าจะถึงแล้วละครับที่ประชาธิปไตยต้องเดินหน้าโดยทิ้งทหารและข้าราชการหัวโบราณไว้ในกรมกอง


 


หลายคนที่ผมคุยๆ อยู่ด้วย ตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะล้มรัฐธรรมนูญเถื่อนที่กำลังร่างอยู่และใกล้จะแล้วเสร็จออกมาอย่างเต็มกำลังความสามารถ ไม่ว่าหน้าตาของรัฐธรรมนูญภายใต้บารมีของผู้อำนาจนอกกฎหมายจะออกมาเป็นอย่างไร จะออกมาดีเลิศประเสริฐศรีอย่างไร เพราะนั่นก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะประเด็นอยู่ที่ว่าอำนาจการร่างรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจเถื่อน ที่ไม่มีความชอบธรรมมาตั้งแต่แรก สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม ไม่สามารถให้กำเนิดความดีงามอะไรได้ทั้งสิ้น อย่างที่หลายคนชอบพูดนะครับว่างาช้างไม่อาจงอกออกมาจากปากกระบอกปืน ความสมานฉันท์ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยรถถัง


 


แต่อันที่จริงแค่เห็นชื่อน.ต.ประสงค์      สุ่นสิริ มานั่งเป็นประธานกรรมาธิการยกร่างก็น่าจะเชื่อขนมกินได้แล้ว ว่ารัฐธรรมนูญเถื่อนคงไม่มีทางก้าวหน้าไปไหนได้ บทบาทในตอนพฤษภาทมิฬและที่ผ่านๆ มาของน.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ ก็น่าจะการันตีความคิดความอ่านของเขาได้ว่าคับแคบขนาดไหน แค่ชื่อของ น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริก็มีเครดิตเพียงพอแล้วล่ะครับสำหรับการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญเถื่อนนี้ลง


 


ผมเชื่อว่าการร่างรัฐธรรมนูญเถื่อนหนนี้จะสูญเปล่า เปลืองเวลาของประชาธิปไตย และเสียดายงบประมาณแผ่นดินที่เอาไปจ้างบรรดานักวิชาการข้าราชการประจำเดือนละเป็นแสน ๆ แต่สุดท้ายก็ถูกคว่ำ


 


ภาคประชาชนน่าจะทำการสำรวจตรวจสอบกันนะครับว่าตั้งแต่รัฐประหารมา รัฐบาลเถื่อนและ คมช.ถลุงเงินไปแล้วเท่าไหร่ เหมาะสมหรือไม่อย่างไร (พลเอกสนธิ เคยบอกว่าประเทศไทยโดนรัฐบาลที่แล้วแทะจนเหลือแต่กระดูก แต่ผมว่าตอนนี้กระดูกก็คงจะไม่เหลือเพราะในขณะที่ท่องคาถาเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง   พลเอกสะพรั่ง ก็ยังแทะกระดูกต่อไปอีกด้วยการใช้งบฟุ่มเฟือยบินไป "ดูงาน" เมืองนอกสบายใจเฉิบ-พูดถึงพลเอกสะพรั่งแล้วก็ขำไม่หาย ทำการรัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง แล้วก็ยังกล้าเรียกตัวเองว่าวีรบุรุษ)


 


เป็นไปได้ว่าผลจากการล้มรัฐธรรมนูญเถื่อนอาจยืดอายุของ คมช. และรัฐบาลเถื่อนต่อไปอีกระยะ แต่ผมมองว่านั่นเป็นสิ่งที่ดี เพราะผู้คนจะได้ซาบซึ้งใจกันเสียทีว่าประเทศไทยและชาติไทยอันเป็นที่รักยิ่งของคมช. และผู้มีบารมีนอกกฏหมาย จะเดินทางสู่ความวิบัติด้วยน้ำมือของคนที่ชอบอ้างว่ารักชาติ รักประชาชน รักสถาบันพระมหากษัตริย์นี่แหละ


 


พลเอกสุรยุทธ และพลเอกสนธิ จะได้เรียนรู้ว่าความรู้ความสามารถของตนเองนั้นจำกัดวงอยู่แค่เรื่องของการทหารเท่านั้น พลเอกสะพรั่งก็จะได้รู้ว่าการพูดจาโดยไม่รู้จักคิดนั้นส่งผลกระทบอย่างไร พลเอกเปรมก็จะได้เรียนรู้ว่าอะไรคือหน้าที่ของตนเองและอะไรไม่ใช่ นี่ยังไม่นับรวมถึงการที่ประชาชนจะได้ทราบว่าสื่อของค่ายผู้จัดการนั้นเต้าข่าวได้เก่งขนาดไหน


 


คนไทยจะได้รับบทเรียนราคาแพงเพิ่มขึ้นมาอีกบทหนึ่ง จากการปล่อยให้กลุ่มพันธมิตร และทหารทำลายกติกาของบ้านเมือง


 


ตอนนี้ ธงคำตอบมีอยู่แล้วนะครับว่ารัฐธรรมนูญเถื่อนฉบับปฏิปักษ์ประชาธิปไตยจะต้องถูกคว่ำ ไม่ว่าจะผัดหน้าทาแป้งให้หน้าตาดีเลวอย่างไรก็ไม่สำคัญ ประชาชนต้องแสดงพลังและความกล้าของตนเองในการปฏิเสธการตัดตอนประชาธิปไตย ที่เป็นการระบอบการปกครองที่อำนาจเป็นของประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน