ในแผ่นดินที่งดงาม
คอลัมน์/ชุมชน
การเรียนรู้ส่วนใหญ่ของชีวิต แน่นอนอยู่ว่าเราเรียนรู้ผ่านเรื่องราวมากมาย ประวัติศาสตร์ทั้งที่เกี่ยวกับเรื่องราวและที่เกี่ยวกับผู้คน ความคิด ถ้อยคำของผู้คนร่วมสมัยนั่นก็เป็นส่วนหนึ่ง หลายครั้งมันก็รวมถึงความคิด ความรู้สึกที่ผุดพรายขึ้นมาในใจ และสมองของเราเองด้วย แต่ก็ต้องยอมรับว่าในการผุดพรายนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ แต่มันมีเหตุปัจจัย ที่มา การหนุนนำ หลายครั้งความคิดของคนๆ หนึ่งก็อาจจะแตกต่อก่อเป็นความรู้ใหม่ ที่เกิดจากการเชื่อมโยง ประสาน กับภูมิปัญญาที่มีอยู่เดิม สิ่งที่ได้ยินได้ฟัง หากได้ผสานอย่างสอดคล้องกับความรู้เดิม นั่นมันย่อมกลายเป็นภูมิปัญญาใหม่ขึ้น
คำพูดหนึ่งคำบวกกับคำพูดหนึ่งคำ จึงเกิดคำใหม่ขึ้นมา นี่เป็นธรรมดาของกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์อยู่แล้ว เช่นนั้นเองหลายหนเราย่อมรู้ว่าบางสิ่งที่ผุดพรายขึ้นมาในสมองของเรานั้น ความจริงแล้วมิใช่เรา มิใช่ความปราดเปรื่อง หรืออัจฉริยภาพของเราเท่านั้น แต่ทั้งหมดนั้นมันเกิดจากการหลอมรวม เงื่อนไข ปัจจัย ผ่านการทำงานอย่างเป็นระบบของชีวิต ว่าก็คือ ทั้งหมดไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นด้วยเรา แต่ในขณะเดียวกัน การก่อเกิดมากมายนั้นก็ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นด้วยเรา...
บางขณะการสนทนา การฟัง ก็กลายเป็นความเข้าใจที่หล่อหลอมความเข้าใจในชีวิตได้มากมาย คราวหนึ่ง เมื่อครั้งไปงานแต่งงานของชิ สุวิชาน นักดนตรี ศิลปินชาวปกาเกอะญอ ที่วัดจันทร์ อำเภอแม่แจ่ม เชียงใหม่ คราวนั้นถ้อยคำหนึ่งที่งดงาม และประทับอยู่ในทรงจำก็คือ ถ้อยคำของพี่นนท์ สุวิชานนท์ รัตนภิมล บนเวทีในงานแต่งงานของชิ พี่นนท์พูดว่า "แผ่นดินที่งดงาม สร้างคนให้งดงาม" ว่าก็คือ บ้านวัดจันทร์ เป็นดินแดนที่สวยงาม งดงามที่สุดแห่งหนึ่ง ชุมชนบนถิ่นภูเขาห่างไกล แวดล้อมด้วยป่าสนและขุนเขา ในฤดูหนาวเราสามารถมองเห็นหมอก มวลของหมอกที่เป็นเม็ดๆ ลอยอยู่ในอากาศ ที่วัดจันทร์นี่เองที่เป็นถิ่นกำเนิดของศิลปินมากฝีมือหลายคนด้วยกัน ชิ สุวิชาน ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในถ้อยคำของพี่นนท์นั้นบอกให้รู้ว่าหากเราได้อยู่ในดินแดนที่ดีงามแล้ว โอกาสที่เราจะเติบโตอย่างดีงามก็เป็นเรื่องไม่ยากนัก ด้วยว่าสิ่งแวดล้อมทั้งหลายนั้นหล่อหลอมชีวิตและวิญญาณ อย่างเป็นเนื้อเดียวกับธรรมชาติ โยงใยไปถึงว่า ในสังคมเรา ก็มีครอบครัวหลายครอบครัวที่คนแต่ละรุ่นได้ดำเนินตามรอยทางอันเดียวกัน พ่อแม่ที่เป็นศิลปินก็สร้างลูกที่เป็นศิลปินนั่นเอง คนผู้อยู่ในแผ่นดินที่ดีงาม เหมาะสม ถ้าจะว่าก็คือ พวกเขาเหล่านั้นย่อมโชคดีกว่าผู้คนอีกมากมายที่เกิด และเติบโตมาบนแผ่นดินที่โหดร้าย
การรับรู้นั้นย่อมมิได้จบอยู่เพียงเท่านี้ เพราะสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ การสร้างพื้นที่ และโอกาสในการเรียนรู้ นั่นก็คือการสร้างองค์ประกอบของความงามขึ้น เป็นสิ่งแวดล้อมใหม่ที่จะเอื้อให้เกิดการเรียนรู้ เช่นนั้นแล้วการจัดการอย่างเหมาะสมก็เป็นเรื่องที่พึงกระทำ ในแง่หนึ่งนั้นดูเหมือนว่า แท้จริงแล้ว เราก็อาจจะไม่อาจสร้างความงามให้ชีวิต หากความงามนั้นคือผล เราจึงต้องสร้างเหตุ คือการสร้างองค์ประกอบ ที่จะเอื้อให้เกิดความงามขึ้น เราเพียงสร้างองค์ประกอบให้เกิดความงาม ให้เกิดการเรียนรู้ แต่เราไม่จำเป็นต้องสร้างความงาม หรือสร้างความรู้ เมื่อเราสร้างองค์ประกอบนั้นดีแล้ว ความงาม และความรู้ย่อมเกิดขึ้นเอง
ในธรรมชาตินั้น แผ่นดินมีพลังมากน้อยต่างกัน การอยู่ในที่ๆ ดี ย่อมทำให้การฝึกฝนเรียนรู้เป็นไปได้ง่ายกว่า คราวหนึ่งลูกศิษย์ผู้ฝึกวิทยายุทธต้องเดินทางเสมอ หลายคราวก็ต้องไปตกอยู่ในดินแดนที่พลังน้อย ในภาวะนั้นเขาถามอาจารย์ว่า ควรจะทำอย่างไรหากเราต้องฝึกฝนอยู่ในแผ่นดินที่ไม่มีพลัง อาจารย์บอกว่า ถึงพลังของแผ่นดินจะเป็นส่วนสำคัญ แต่เราก็ต้องสร้างพลังให้แผ่นดินนั้นด้วย แต่หากว่าที่สุดแล้วแผ่นดินนั้นมีเงื่อนไขอื่นที่ทำให้เราสร้างพลังไม่ได้ แผ่นดินนั้นก็เป็นที่ไม่เหมาะสมสำหรับการดำรงอยู่ ในพุทธศาสนาสอนว่า พื้นที่เหล่านั้นก็คือ ที่ อโคจร นั่นเอง.......