Skip to main content

การถ่วงดุลย์ระหว่าง 'เซ็กส์' กับ 'ความรัก'

คอลัมน์/ชุมชน

1


กึ่งศตวรรษที่ผ่านมา อาจสังเกตเห็นได้ว่า มนุษย์พยายามจัดการความขัดแย้งทุกรูปแบบ, ทุกประเด็น
ผู้เขียน ตั้งข้อสังเกตอยู่นิดหนึ่งว่า
"การแสดงออกว่ามีอารมณ์ทางเพศ, การถ่ายภาพโป๊, การข่มขืนคู่รักของตน"
ประเด็นทำนองนี้ เสมือนว่ากำลังถูกเด็กและเยาวชน หรือคนรุ่นใหม่มองเสียใหม่ จัดการเสียใหม่ให้ไม่ขัด ไม่แย้ง
แต่เหมือนเป็นการเริ่มต้นค้นหาหนทางเข้าสู่ความใกล้ชิดด้วยแนวทางใหม่ หรืออาจมองเป็นการเข้าสู่ขั้นของการยอมรับกันและกันระหว่างคน 2 คน


2


สาเหตุที่ผู้เขียนหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาคุย เพราะเห็นว่าช่วงเทศกาลแห่งความรักปีนี้ มีกระแสป้องปรามไม่ให้เด็กและเยาวชนมีเซ็กส์ในวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก เหมือนกับว่าผู้อาวุโสจะหาความเป็นจริงแท้ให้กับความรักในวัยเยาว์ยังไงอย่างงั้น หลายต่อหลายท่านพยายามเหลือเกินที่จะทำให้ความรักในวันวาเลนไทน์เป็น "ความรักบริสุทธิ์" ผู้เขียนยัง "งง" ว่า ความรักบริสุทธิ์เป็นอย่างไร เคยได้ยินแต่… "ด้วยรักและผูกพัน" "ทั้งรักทั้งหวงแหน" "รัก รัก ใคร่ ใคร่" "รักและเคารพ" หรือในแง่ร้ายก็ "หลอกให้รักเพราะหวังผลประโยชน์" เป็นอาทิ


จึงยังงุนงงว่าจะ กลั่น, กรอง รักให้บริสุทธิ์ ไร้บริบทรายล้อมได้อย่างไรกัน?


คือเรื่องของเรื่อง ผู้หลักผู้ใหญ่จะตีกรอบเรื่องทางเพศ โดยคิดแทนไปก่อนแล้วว่าเด็กคือผู้ที่ไม่มีสิทธิ์เลือก, เด็กคือสถานะที่ต้องรับคำสั่งเท่านั้น, เด็ก ไม่รู้จักคิด…


ปรากฎการณ์ที่หลายฝ่ายออกโรงมายับยั้งการแสดงความรักใคร่ของเด็กและเยาวชนนั้น สำหรับผู้เขียนแล้วมองว่า เป็นการรณรงค์ที่เสี่ยงอย่างมาก อาจถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่รอบคอบเท่าที่ควร เพราะมองข้ามความพยายามในการแหกกฎของวัยรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพศศึกษาเป็นเรื่องที่สังคมไทยชี้ช่องให้เด็กไปศึกษากัน "ใต้ดิน"
คือ ต้องหลบ ๆ ซ่อนๆ เพื่อสนองความอยากรู้อยากเห็น ดังนั้น อยู่ดีๆ มาเว้าวอนไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ในวันวาเลนไทน์ เด็กที่ไม่ได้คิดก็เลยคิดขึ้นมาเพราะใครต่อใครก็พูดกัน


บางเสียงถึงกับอ้างผลการวิจัยว่า เด็กในกรุงเทพฯ จำนวนเรือนแสน เตรียมมีเพศสัมพันธ์ในวันแห่งความรัก แหม! วันอื่นก็มีเซ็กส์กันได้ ถ้าคนอยากจะมี …ทำไมต้องมาห้ามเป็นกรณีพิเศษในวันวาเลนไทน์ด้วย สรุป เด็กอาจจะมีเพศสัมพันธ์เพราะถือว่าตื่นเต้นที่ได้ร่วมท้าทายคำห้ามปราม…ก็ไม่รู้!


3


จะว่าไป ความเป็นมนุษย์ถือว่าซับซ้อน ยิ่งมีวัฒนธรรมหลายชุด ยิ่งยากแก่การเรียนรู้ เรื่องเซ็กส์ เรื่องความรัก จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นเรื่องเข้าใจยาก
จะให้รักอย่างเดียวไม่มีเซ็กส์ ก็จะไม่เกิดสมาชิกใหม่ให้สังคม
จะมีเซ็กส์อย่างเดียวไม่รัก ก็ว่ามั่ว

แล้วจะให้เด็กหาจุดพอดีที่ตรงไหน ก็ไม่มีใครสอนนี่นา ยังห้ามทำเสียอีก กระทั่งทุกวันนี้ หากเด็กตั้งคำถามว่าจุดสมดุลย์ระหว่างเรื่องเซ็กส์กับความรักคืออะไร คงไม่มีใครฟันธงได้ แล้วจะแปลกอะไรถ้าเด็กจะแสวงหาคำตอบ
สำหรับความสัมพันธ์ทางเพศของเด็กและเยาวชน


เขาและเธอ อาจจะพยายามมองหาจุดสมดุลย์จาก 2 แนวทาง คือ
มองว่าเป็นการทดลองเติมเซ็กส์ลงบนที่ทางของความรัก
หรืออาจมองว่าทดลองเติมการประโลมรักลงบนที่ทางของเซ็กส


ในเมื่ออารมณ์ทางเพศเป็นอะไรที่กดบังคับแทบไม่ได้ 2 แนวทางข้างต้น อาจถือเป็นหนทางในการประสานความพึงพอใจ กับ อารมณ์แบบ ดิบ-เถื่อน หรืออาจมองเป็นการจัดการกับอารมณ์ก็น่าจะได้
ปรากฎการณ์เรื่องเพศในปัจจุบัน ที่ต่างจากขนบอย่างหาที่สุดไม่ได้ เรื่องเพศ ยังหาคำอธิบาย คำแนะนำที่เหมาะสมไม่ได้ ขณะที่การเดินทางเพื่อค้นหาคำตอบคือ วิถีของเด็กและเยาวชน หรือคนรุ่นใหม่


4


จะแปลกอะไร ถ้าคนรุ่นใหม่ เริ่มมองหา
เซ็กส์ง่าย ๆ คืนเดียวแล้วแยกทาง