โรคขาดสารอาหารชีวิต
คอลัมน์/ชุมชน
รชา
หลักทางโภชนาการพื้นฐานที่พวกเราได้เรียนรู้มาตั้งแต่เด็กมักมีอยู่ว่า ... ควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ควรกินเนื้อสัตว์ แป้ง หรืออาหารชนิดใดเพียงอย่างเดียว เพราะจะทำให้เป็นโรคขาดสารอาหารในบางหมู่ได้ ...
อันที่จริงหลักการที่ว่านี้ น่าจะเอามาปรับใช้กับหลักโภชนาชีวิตบางประการได้ด้วย นอกจากขาดสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกายแล้ว.. บางทีคนเราก็ขาดสารอาหารที่จำเป็นสำหรับชีวิตได้เช่นกัน
ระยะหลังมานี้ ฉันประหลาดใจกับพฤติกรรมของคนกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ คนกลุ่มที่ว่านี้มีลักษณะร่วมกันคือ ... เป็นคนชนชั้นกลาง ได้รับการศึกษาที่ดีทั้งจากในและต่างประเทศ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีคุณภาพชีวิตค่อนข้างสูง ประพฤติตัวอยู่ในประเพณีอันดีงาม พักผ่อนหย่อนใจด้วยการดูหนัง ฟังเพลง กินกาแฟสตาร์บัคแก้วละ 120 .... ฟังดูน่าจะสุขกายสบายใจดีใช่มั้ยคะ
แต่เรื่องน่าใส่ใจมันมีอยู่ว่า คนกลุ่มนี้ (เท่าที่ได้สังเกตและสัมผัสมานั้น) ค่อนข้างจะใช้ตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลกใบนี้ และ..ใจร้ายกับคนที่อยู่คนละระบบวงโคจรกัน ..
ยกตัวอย่าง เช่น ....ถ้าได้ดูข่าวคุณเอมมี่ ดาราสาวเจ้าของฉายาน้องสาหร่าย ที่โด่งดังมาจากการใส่ชุดราตรีวาบหวิวโนบราทั้งล่างทั้งบนไปโชว์ตัวในงานประกาศผลรางวัลภาพยนตร์ คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะตำหนิ ติเตียน ด่าทอว่ากล่าวคุณดาราสาวในฐานะประพฤติตัวไม่เหมาะสมกับสภาพกำหนดของสังคมไทย และพร้อมจะป้องปากโห่ร้องสมน้ำหน้าเมื่อยามเธอได้รับการประณามหยามเหยียดให้เป็นที่อับอายไปถึงโคตรเหง้าวงตระกูล ....
โดยทัศนคติที่ว่านั้น ออกมาจากความรู้สึกล้วนๆ ไม่ได้ผ่านการยั้งคิดถึงบริบทอื่นๆ ของสังคมเลยแม้แต่น้อย
หากจะลองมานั่งวิเคราะห์ถึงสภาวะที่ทำให้คนใดคนหนึ่ง หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง..ใจร้าย...ได้นั้น ฉันเชื่อว่าคงมีหลายปัจจัยและหลายเครื่องมือที่อธิบายประกอบกันไปได้ ... แต่ส่วนหนึ่งที่อยากนำเสนอคือเรื่องการ ...บริโภค...อะไรต่อมิอะไรซ้ำไปซ้ำมาในชีวิตนี่แหละค่ะ
หากคนคนหนึ่งหรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เกิดมาในครอบครัวชนชั้นกลาง ดำเนินชีวิตไปตามรูปแบบที่สังคมกำหนดให้ควรจะเป็น ...เรียนชั้นอนุบาล... ประถม ..มัธยม และต่อจากนั้นกระเสือกกระสนเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ เพื่อจะได้เข้าไปกระเสือกกระสนเรียนให้ได้เกรดดีๆ เป็นใบเบิกทางให้จบออกไปได้งานดีๆ ทำต่อไป ... แล้วสุดท้ายก็เข้าสู่ระบบชีวิตชนชั้นกลางแบบที่ตัวเองคุ้นเคยมาตั้งแต่เกิด .... โดยในระหว่างนั้น ไม่ได้มีโอกาสออกไปสัมผัสอะไรที่นอกเหนือจากโลกของตัวเองอย่างจริงจังเลย ฟังดูไม่แปลกใช่มั้ยคะ ถ้าคนๆ นี้หรือคนกลุ่มนี้ จะไม่สามารถมองทะลุผ่านข้ามพ้นสิ่งที่เป็น...ตัวเอง..ออกไปได้ และส่งผลต่อเนื่องทำให้พร้อมจะหยามเหยียดคนที่อยู่นอกกลุ่มได้อยู่ตลอดเวลา
โดยอาการที่ว่าไว้ข้างต้น จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าคนกลุ่มนี้ได้มีโอกาสสัมผัสถึงความหลากหลายของสังคมและคนในสังคม ได้เรียนรู้ว่าเหตุการณ์ต่างๆ มีสิ่งที่เป็น...เหตุผล.... ได้มากกว่า 1 ข้อ หรือได้มีโอกาสมองโลกในมุมที่..ไกล ออกไปจากตัวเองบ้าง
หลายคนในกลุ่มที่ฉันคิดว่าเข้าข่ายขาดสารอาหารชีวิตนี้ มีทัศนะในการมองสังคมตรงกันอีกอย่างหนึ่งคือ... ไม่คิดจะยุ่งเรื่องของใคร คิดว่า เมื่อรับผิดชอบตัวเองและครอบครัวได้ ไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครเดือดร้อน ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจคนอื่นอีก นี่คือจุดสูงสุดของหน้าที่คนในสังคมที่ตัวเองพอใจแล้ว...
พอจะนึกภาพอะไรออกมั้ยคะ ถ้าวันหนึ่งวันใดคนกลุ่มนี้มีจำนวนมากขึ้นๆ และสามารถสร้างแนวคิดเชิงขาดสารอาหารชีวิตให้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนสังคมได้ รอบตัวของเราเต็มไปด้วยคนที่ไม่สนใจคนอื่นและพร้อมจะตำหนิคนที่ไม่เหมือนตัวเองได้ตลอดเวลา ชีวิตประจำวันของเราจะส่อวี่แววน่ากลัวในแบบไหน
เพราะหลายๆ ครั้ง แค่การแพร่กระจายแนวคิดที่คับแคบใจร้าย ออกไปสู่คนใกล้ตัว ก็เป็นการทำให้คนอื่นเดือดร้อนโดยคนทำไม่ทันรู้ตัวแล้วค่ะ
เรื่องนี้ทำให้นึกเลยไปถึงพ่อ แม่ของลูกในวัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่ส่วนใหญ่มักสนับสนุนให้ลูก..ตั้งใจเรียน เพื่อให้ได้เกรดดีๆ มากกว่าทำกิจกรรมเพื่อให้พบเจอแง่มุมและผู้คนที่หลากหลาย
คิดไปคิดมา...โรคขาดสารอาหารนี่ดูเหมือนจะเป็นโรคติดต่อเสียด้วยสิ
อย่าลืมสำรวจตัวเองนะคะ ว่ามีอาการของโรคที่ว่านี้รึเปล่า อย่าประมาทเชียว เพราะมันช่างเป็นโรคที่อันตรายและน่ากลัวจริงๆ ...