Skip to main content

เมล็ดพันธ์แห่งความงาม

คอลัมน์/ชุมชน


 


ภิกษุณีชุนโด  อาโอยามา  เขียนเล่าเรื่องราวประทับใจไว้ในหนังสือ Zen Seeds หรือในภาคภาษาไทย งามอย่างเซน


 


ความในบทหนึ่งท่านเล่าเรื่อง พ่อ และแม่ของท่าน  ในวัยเจ็ดขวบ พ่อท่านเสีย  ขณะนั้นท่านเข้าวัดมาได้สองปี เพื่อเตรียมตัวบวชกับภิกษุณีผู้เป็นป้าของท่าน  ในวาระที่พ่อท่านจะเสียนั้น พ่อเรียกท่านเข้าไปใกล้ๆ แล้วบอกว่า  ตลอดเวลาในชีวิตของพ่อนั้นปฏิบัติ (เซน) น้อยมาก ดังนั้นเมื่อลูกบวช ขอให้ลูกปฏิบัติในส่วนของพ่อให้ด้วย  วัยเจ็ดขวบท่านก็ยังไม่ได้เข้าใจอะไรมากนัก ก็ยังได้แต่เสียใจ และร้องไห้ ให้กับการจากไปของพ่อ  แต่กระนั้นท่านก็ยังรับปาก  ว่าเมื่อบวชแล้วท่านจะปฏิบัติในส่วนของพ่อให้ด้วย...   


 


ว่ากันว่า ในการปฏิบัติภาวนานั้น มนุษย์ไม่สามารถทำทดแทนกันได้  หลายครั้งเราก็ยังสงสัยอยู่ว่า  มันเป็นเช่นนั้นจริงหรือ  หากว่าการปฏิบัติในส่วนดีงามของชีวิต  บางวาระเมื่อเราได้น้อมจิตคารวะผู้คนที่เราเคารพ รัก  อุทิศ และแผ่ความดีงามนั้นส่งไป...เขาเหล่านั้นจะได้รับหรือไม่  หรือว่าที่สุดแล้ว นั่นก็ไม่ใช่ส่วนที่สำคัญที่สุด  หากแต่การน้อมจิตคารวะนั้นมันมีความหมาย  และมันงดงามอยู่ในหัวใจของเรา    มันคือการส่งผ่านสิ่งที่ดีงามสู่ห้วงปัญญาญาณอันไพศาล  ที่สุดแล้วก็จะเป็นเรานั่นเองกระมังที่จะเป็นผู้รับผลแห่งความดีงามทั้งปวง และดูเหมือนสิ่งที่เราทำ กับการส่งผ่านออกไป นั่นคือผลที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าทวี  นี่นับเป็นอย่างน้อย ว่าที่สุดยิ่งเราส่งออกไปมากมายเท่าใด  เราก็อาจได้รับมากเพียงนั้น.......หรืออย่างไร


 



 


ในบทเดียวกันนั้น  ท่านอาจารย์ชุนโด ยังได้เล่าว่า  ท่านต้องอยู่ห่างจากแม่ตั้งแต่ยังเด็กด้วยท่านอยู่วัดตั้งแต่ยังเยาว์  กระนั้นท่านก็ยังรู้สึกใกล้ชิดกับแม่ เมื่อความที่ท่านเล่าว่า  "แม่เลี้ยงไหม ปั่นด้าย  ทอผ้า  และปักเย็บเสื้อผ้าต่างๆ  ที่จำเป็นให้แก่ข้าพเจ้า.....  ตลอดเวลา ห้าสิบหกปีที่ข้าพเจ้าดำเนินรอยตามวิถีแห่งองค์พระพุทธเจ้า....ข้าพเจ้าอยุ่ในอ้อมกอดของชุดที่ถักทอโดยฝีเมือแม่ตลอดมา  ชุดที่แม่ทำด้วยหัวใจ  และด้วยจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธาแรงกล้าอย่างแท้จริง"


 


อาจจะเป็นเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตที่เราแสวงหาความงามมาประดับประดาชีวิต  หลายครั้งเราเดินทางไกลข้ามแผ่นดิน ข้ามมหาสมุทร  ไปยังดินแดนที่ไกลออกไป  เพื่อจะได้เยี่ยมชมทัศนียภาพอันงดงาม หรือกระทั่งมหาวิหารอันศักดิ์สิทธิ์    นั่นก็ด้วยสถานะ และโอกาสของแต่ละคน  ทั้งหลายทั้งปวงนั้นก็เพื่อจะได้ยลยินความวิจิตรอลังการแห่งโลก  เพื่อจรรโลงความเบิกบานในหัวใจเรา  หลังจากนั้นเราก็คงต้องทำงานหนักเพื่อหาเงิน เพื่อจะได้เดินทางไกลไปแสวงหาความงาม อีกครั้ง อีกสถาน  อีกครั้ง อีกสถาน  เป็นเช่นนี้อยู่ร่ำไป 


 


ความจริงอันหนึ่งก็คือ  ถ้าเรายังแสวงหาความงาม นั่นหมายความว่าในหัวใจของเรายังมีเมล็ดพันธุ์แห่งความงามอยู่  ในแง่หนึ่งการเดินทางทั้งหลายนั้นก็เพื่อการแต่งแต้มความงามในใจเราด้วย  เช่นนั้นแล้ว  หากในหัวใจของเรามีเมล็ดพันธุ์แห่งความงาม  นอกเหนือจากการเดินทางไกลเพื่อเยี่ยมชม  สถานที่ที่งดงามทั้งหลายในโลก  ก็จำเป็นอยู่เองที่เราจะได้หาเวลากลับมาเดินทางสู่โลกภายในหัวใจของเราบ้าง  ความงามเล็ก ๆ  น้อย ๆ  ที่ผลิใบแตกต้น แตกกอ เติบโต เบ่งบานอยู่ภายในหัวใจของเรา   มันดีงามมาก  เช่นอาจารย์ชุนโด  เมื่อท่านได้อยู่ในอ้อมกอดของเสื้อผ้าที่ถักทอโดยแม่ของท่านสักครั้ง  หรือในวาระต่างๆ  ของชีวิตที่เราจะได้อยู่ในอ้อมกอดของความทรงจำถึงบุคคลที่ดีงามของคนที่เรารัก เคารพ  หรือแม้กระทั่งอยู่ในอ้อมกอดของของขวัญเล็กๆ  น้อยๆ  ที่เราได้รับ  เพื่อเป็นการรดน้ำ  เติมปุ๋ย  ให้เมล็ดพันธุ์แห่งความงามภายในหัวใจของเราเติบโตอย่างเต็มคุณค่า และความหมาย 


 


...นั่นหมายความว่า กลับมาให้เวลากับการดูแลสวนภายในหัวใจของเรานั่นเอง..