Skip to main content

The virgin suicides : การตายของใครที่ไม่รู้จัก

คอลัมน์/ชุมชน















ก่อนหน้าที่การสอบปลายภาคของฉันจะเสร็จสิ้น ซึ่งเป็นเวลาที่ฉันไม่ค่อยจะได้พบเจอผู้คนสักเท่าไหร่ เพราะส่วนมากจะใช้ชีวิตอยู่ในห้องสมุด แยกตัวออกจากผู้คน และเพื่อน ๆ ในกลุ่ม ด้วยเพราะฉันเองต้องการความสงบอย่างที่สุด เพื่อจะได้มีสมาธิอย่างสูงสุดในการอ่านหนังสือ ซึ่งเป็นงานที่ฉันไม่ชอบและไม่ถนัดนัก วันหนึ่งขณะที่ความเหนื่อยล้า และความง่วงที่สะสมกันมาเป็นเวลาหลายวันกำลังกัดกร่อนสุขภาพของฉันให้ทรุดโทรมลง ฉันออกจากห้องสมุดในตอนเย็น ดื่มกาแฟและกินขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อที่จะได้มีแรงสู้กับการอ่านหนังสือต่อไป


ฉันได้พบเพื่อชาวต่างชาติที่เรารู้จักกันโดยบังเอิญที่มหาวิทยาลัย ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้เจอกันนานพอสมควร เนื่องจากเธอไปเที่ยวที่เกาะเต่ามา ปกติแล้วเมื่อเราเจอหน้ากันทีไร เราจะทักทายกันด้วยความร่าเริงทุกทีไป แต่ในวันนั้นทุกอย่างกลับไม่เป็นเหมือนเดิม เธอเพียงยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากและเอ่ยคำทักทาย ฉันสังเกตเห็นความผิดปกติในแววตาของเธอ จึงได้เอ่ยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอตอบว่าวันนี้เพื่อน ๆ คนไทยของเธอที่คณะกำลังโศกเศร้า ร้องไห้ ทั้ง ๆ ที่วันนี้ทุกคนต้องสอบ เพราะว่าเพื่อนบางคนนั้นเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น


ฉันถามเธอว่าเธอรู้จักคนนั้นเหรอ ทำไมเธอถึงเศร้า เธอตอบกลับมาว่า เธอไม่รู้จักเขาเลย ไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าด้วยซ้ำไป แต่ การที่ใครคนหนึ่งหายไป มันก็เป็นเรื่องเศร้าอยู่แล้ว แม้ว่าเราจะไม่รู้จักกันก็ตาม และเมื่อคนรอบกายเราเศร้า ความเศร้าย่อมส่งผลมาถึงเราด้วยอย่างไม่มีเหตุผล


ฉันเองก็ไม่รู้จักคน ๆ นั้นที่จากไป แต่วันนั้นฉันก็พลอยเศร้าไปกับการจากไปของเขาด้วยเช่นกัน


เวลานั่งสอบ ฉันจะคอยสังเกตคนที่นั่งข้างหน้าเสมอ ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้จักกัน มีครั้งหนึ่งคนที่นั่งอยู่ข้างหน้าฉันเขาหายไป ไม่มาสอบ ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร เพราะฉันไม่รู้จักเขา ฉันนั่งคิดไปต่าง ๆ นานา ว่าเขาหายไปไหน เขาไม่มาสอบ เพราะอะไร เขาป่วยรึเปล่า ? หรือว่าประสบอุบัติเหตุมาไม่ได้ ? หรือเขาอ่านหนังสือไม่ทัน หรืออะไรอื่นอีกสารพัด และฉันก็คิดว่าในวันนั้นวันที่ใครคนนั้นจากไป เพื่อนที่นั่งสอบอยู่ข้างหลังเขา จะคิดถึงเขารึเปล่านะ ?

 






แล้วเราจะรู้จักใครคนหนึ่งที่เขาจากไปแล้วได้อย่างไร ? ฉันสงสัย เพราะหลังจากนั้นก็มีรูปของเขาติดที่หน้าคณะ พร้อมด้วยคำอาลัยจากเพื่อน ๆ ที่ขีดเขียนไว้ใต้ภาพ ฉันยืนดู มองรูปเขา แล้วถามตัวเองว่าเคยเห็นหน้าเขาไหม รู้จักเขาไหม ฉันไม่รู้จักเขา แต่คาดว่าเคยเห็นหน้าเขา บางทีฉันอาจจะรู้จักเขาผ่านข้อความต่าง ๆ ที่ขีดเขียนบนกระดาษแผ่นนั้นจากเพื่อน ๆ ของเขาก็เป็นได้ เหมือน ๆ กับเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งในเรื่อง The virgin suicides


 ฉันดูหนังเรื่องนี้หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่อง Lost in translation แล้ว เนื่องด้วยฉันหลงรักในหนังของ โซเฟีย คอปโปล่า ฉันจึงตามหาหนังเรื่องนี้มาดู ด้วยเพราะรู้ว่ามันเป็นหนังเรื่องแรกที่เธอกำกับเอง


ฉันรู้มาว่า The virgin suicides เป็นหนังสือมาก่อน ซึ่งแต่งโดย Jeffrey Eugenides เป็นหนังสือที่ดังรึเปล่าฉันก็ไม่อาจทราบได้ แต่หลังจากฟังจากบทสัมภาษณ์ของโซเฟียในตอนท้ายของเรื่องแล้ว เธอบอกว่าเธอได้อ่านหนังสือเรื่องนี้แล้ว







เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำให้เป็นหนังขึ้นมา เธอจึงลงมือเขียนบทหนังเรื่องนี้ขึ้น ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ขอจากเจ้าของบทประพันธ์ด้วยซ้ำไป แล้วสุดท้ายเธอก็ได้ทำสมดั่งใจของเธอ
 

หนังเรื่องนี้ ตามฉบับดั้งเดิมของบทประพันธ์ เขาบอกว่าเป็นเรื่องลึกลับ เป็นเรื่องที่ออกจะเขย่าขวัญหน่อย ๆ แต่ฉันกลับไม่เห็นความลึกลับเขย่าขวัญในหนังเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ด้วยการตีความจากความรู้สึกของตัวฉันเอง ในทางกลับกัน ฉันกลับสัมผัสได้ถึงเส้นใยแห่งความหวังดี และความอบอุ่นที่อวลไปทั่วทั้งเรื่องจากเด็กผู้ชายกลุ่มนั้น


ฉันไม่รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ลึกลับซับซ้อน หรือว่าขนลุกเขย่าขวัญเลยสักนิด แต่อารมณ์ที่แปลออกมา ไม่ว่าจะเป็นโดยการตีความของโซเฟียเอง หรือการตีความของฉันเอง ฉันกลับรู้สึกว่าหนังไม่ได้เล่าถึงความลึกลับของการตายในตัวลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลลิสบอนเลยแม้แต่น้อย หรือไม่ได้พยายามที่จะค้นหา หรือพาเราเข้าไปค้นหาว่าทำไมลูกสาวทั้งห้าคนในตระกูลนี้จึงต้องจบชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา สิ่งที่ฉันคิดว่าฉันสัมผัสได้จาก The virgin suicides คือความรู้สึกอันบริสุทธิ์ของเด็กชายและเด็กหญิงที่ต่างพยายามค้นหากันและกัน เพื่อที่จะได้รู้จักกันและกัน


บางทีฉันอาจจะรู้จักกับใครนั้นจากไดอารี่ของเขา เหมือนกับที่เด็กชายข้างบ้านได้อ่านไดอารี่ของลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลลิสบอนที่เพิ่งเสียชีวิตไปจากการฆ่าตัวตาย เขาพยายามที่จะรู้จักเธอจากไดอารี่ พยายามเข้าใจเธอจากตัวหนังสือที่เธอเขียน จากความหมายความรู้สึกที่สื่อผ่านออกมา บางทีมันอาจจะทำให้เขาเข้าใจได้ว่าทำไมเธอถึงเลือกที่จะจบชีวิตลงเช่นนั้น


เด็กชายพวกนั้นกำลังพยายามที่จะรู้จักกับพี่สาวของเธอ ผ่านคำบอกเล่าของเธอจากไดอารี่ เพราะพวกเขาไม่มีโอกาสที่จะได้รู้จัก " ตัวจริง " ของเด็กสาวในบ้านลิสบอนเลย ในความเป็นจริง ความจริงนั้นตัวจริงของคนเราไม่รู้อยู่ที่ไหน อยู่กับเรา หรือจากคำบอกเล่าของผู้อื่น จากความรู้สึกของคนรอบข้างที่สัมผัสได้ถึงเรา จากใคร ๆ ในโลกที่สร้างตัวตนของเราขึ้นมา ถ้าฉันตายไป สิ่งหนึ่งที่ฉันอยากรู้ไม่ใช่นรกหรือสวรรค์อยู่ที่ไหน แต่ฉันอยากรู้ว่าคนอื่น ๆ เขารู้จักฉันอย่างไร เขาจะพูดถึงความจริง หรือตัวจริงของฉันในความรู้สึกของเขาอย่างไร ถ้าหากเขาอยากรู้จักฉัน เขาจะรู้จักฉัน ความจริงของฉันได้ไหม จากข้อความที่ขีดเขียนจากคำบอกเล่าของผู้คน นั่นหรือตัวจริง ?


เด็กผู้ชายเหล่านั้นใน The virgin suicides คงไม่อยากรู้หรอกถึงเรื่องลี้ลับในบ้านลิสบอน เพียงแต่เขาอยากที่จะรู้จักตัวตนของพวกเธอ ตัวตนที่แท้จริง หรือตัวตนจากไดอารี่ของน้องสาวผู้จากไปเขียนถึงพวกเธอ ฉันชอบวิธีการเล่าเรื่อง และความรู้สึกที่ส่งผ่านจากหนังเรื่องนี้ของโซเฟีย เหมือน ๆ กับหนังเรื่องต่อมาของเธอที่ให้ความรู้สึกต่ออารมณ์เช่นเดียวกัน ให้ความสำคัญกับความรู้สึกมากกว่าที่บีบคั้นเอาความจริง


บางทีบทสนทนาที่ดีที่สุดของคนเราอาจจะไม่ได้ผ่านข้อความที่เปล่งออกมาจากปาก ความจริงที่ออกจากปากอาจจะไม่สามารถสื่อสารความจริงออกมาได้ คงเหมือนกับเด็กทั้งสองกลุ่มที่เขาอาจจะรู้จักกัน สื่อสารถึงกัน ผ่านแผ่นเพลงที่สื่อไปตามสาย บางทีมันอาจจะบอกความจริงบางอย่างได้มากกว่าก็เป็นได้ ฉันชอบฉากนี้ที่สุด เนื่องด้วยเป็นคนที่ชอบฟังเพลง และเพลงที่ใช้ในหนังเรื่องนี้ล้วนเป็นเพลงโปรดของฉัน ฉันขอเดาอย่างไม่มีความรู้ว่า นี่อาจจะเป็นความรักส่วนตัวของโซเฟีย ประสบการณ์ส่วนตัวของเธอกับเพลงเหล่านี้ ผ่านความรู้สึกเหล่านี้ที่เธอถ่ายทอดออกมาในหนังเรื่องนี้ บางทีเพลงเหล่านี้อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องมีอยู่ก็เป็นได้ แต่มันอาจจะเป็นเพลงรักที่เธอชอบฟัง แล้วเมื่อสิ่งที่เธอรักปรากฏอยู่ในสิ่งที่เธอทำ มันก็ย่อมสมบูรณ์


วันหนึ่งฉันเดินกลับไปอ่านบอร์ดนั้นอีกครั้ง ดูรูปของเขาอีกครั้ง แล้วฉันก็นึกถึงหนังเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะบางทีตัวตนจริง ๆ ของเขาอาจจะไม่สำคัญมากไปกว่าความรู้สึกที่ใคร ๆ มีต่อเขา และความรัก ความคิดถึงที่จะมีต่อเขา ถึงแม้ว่าเขาจะจากไป ฉันอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องรู้จักเขา แค่คิดถึงเขาก็พอแล้ว